
ภายหลังโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี ประกาศผ่านเฟซบุ๊กแจ้งเปิดภาคเรียนที่ 1/2567 ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ก็มีประเด็นดราม่าเรื่องเวลาเริ่มเข้าเรียนตั้งแต่ 07.30 น. บางวันเลิก 17.10 น. โดยนักเรียนคนหนึ่งเข้ามาแสดงความเห็นว่า "ฝากพิจารณาตารางเรียนใหม่ด้วยนะคะ พวกหนูหลายๆ คนมีกิจธุระที่ต้องทำหลังเลิกเรียน ยัดเวลาเรียนขนาดนี้พวกหนูไม่ไหวค่ะ"
ยังมีความเห็นจากผู้ปกครองอีกหลายท่าน ที่เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า อยากให้โรงเรียนปรับตารางการเรียนการสอนใหม่ เพราะการเข้าเรียน 07.30-17.10 น. ไม่การันตีว่าผลการเรียนเด็กๆ จะดีขึ้น แต่ในทางกลับกันอาจมีผลกระทบกับเด็กๆ มากกว่า เช่น ความปลอดภัยในการเดินทาง ความเครียด และสุขภาพ ระบบการศึกษาไทยตอนนี้ควรพัฒนาอย่างยิ่ง
ผู้ปกครองอีกส่วนมองว่า การเข้าเรียนและเลิกเรียนเวลาแบบนี้ นอกจากจะสร้างผลกระทบให้เด็กแล้ว สำหรับครูต้องมากี่โมง กลับถึงบ้านกี่โมง เหนื่อยล้าเกินไปไหม ผู้บริหารคิดอะไรอยู่
ขณะเดียวกันผู้ปกครองยังได้ยกข้อมูลข่าว "สพฐ. ย้ำปรับลดเวลาเรียนเป็นไปตามข้อเรียกร้องสังคม ที่ห่วงเด็กไทยเรียนมากเกินไป โดยลดการเรียนวิชาหลัก ให้เด็กมีเวลาทำกิจกรรมมากขึ้น แต่ยังเลิกเวลา 15.30 น. เหมือนเดิม" ผู้สื่อข่าวตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นข่าวเมื่อปี 2558 ที่ ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ในขณะนั้น) เปิดเผยถึงนโยบายการปรับลดเวลาเรียนของพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ในขณะนั้น)
อย่างไรก็ตามในปี 2566 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้ประกาศนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 – 2568 ด้วยมุ่งหวังให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาในทุกมิติ โดยเน้นให้ผู้เรียน "เรียนดี มีความสุข"
ด้วยมุ่งหวังให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาในทุกมิติ โดยเน้นให้ผู้เรียน “เรียนดี มีความสุข” ใช้หลักการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ตามคำกล่าว "จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน" และกำหนดแนวทางให้หน่วยงานในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ นำไปใช้ในการขับเคลื่อนนโยบาย คือ ลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา และลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง
สตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ แจ้งเปลี่ยนแปลงเวลาเรียน
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. นายคมศักดิ์ หาญสิงห์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ออกประกาศโรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 เรื่อง เปลี่ยนแปลงเวลาเรียน ใจความว่า
ด้วยโรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ มีความมุ่งหวังพัฒนา ส่งเสริมนักเรียนให้มีสมรรถนะ ทักษะ และพหุปัญญา เพื่อเป็นฐานในการพัฒนาทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นแห่งอนาคต ตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการในการยกระดับคุณภาพการศึกษา ดังนั้นสถานศึกษาจึงมีการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบ Active Learning, STEM Education, Coding
และกระบวนการส่งต่อในระดับที่สูงขึ้นด้วยการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ปีพุทธศักราช 2567 โดยมีการปรับเปลี่ยนรายวิชาให้มีความทันสมัย และสอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญจำเป็นสำหรับโลกยุคใหม่ สถานศึกษาจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเวลาเรียนเนื่องด้วยจำนวนหน่วยกิตที่ลดลง
แต่ด้วยปีการศึกษา 2567 ยังมีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 5 ที่ต้องศึกษาตามหลักสูตรสถานศึกษา ปีพุทธศักราช 2566 และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 6 ที่ต้องศึกษาตามหลักสูตรสถานศึกษา ปีพุทธศักราช 2565 ซึ่งมีจำนวนหน่วยกิตที่ถูกระบุไว้ในหลักสูตรสถานศึกษา และนักเรียนจำเป็นต้องเรียนตามจำนวนเวลาเรียนเพื่อจบการศึกษาตามหลักสูตรที่สถานศึกษากำหนด
ส่งผลกระทบกระเทือนต่อเวลาเรียนของนักเรียนที่มีจำนวนเวลาเรียนที่เพิ่มมากขึ้นจากการปรับเปลี่ยนเวลาเรียนดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ปกครองและนักเรียนเกิดความวิตกกังวลในการปรับเวลาเรียนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นสถานศึกษาพิจารณาและมีมติ ดังนี้
โดยเริ่มมีผลในวันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป