สรุปปฏิบัติการล็อกตัว "บะลาโกล" เสือโคร่งแม่ไม่เลี้ยง ช่วยหรือแทรกแซง

เป็นอีกหนึ่งปฏิบัติการช่วยเหลือสัตว์ป่า และเป็นการแก้ปัญหาสัตว์ป่ารบกวนประชาชน ที่มีผู้คนในสังคมเฝ้าติดตาม ส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเป็นจำนวนมาก สำหรับกรณีที่มีการพบ "เสือโคร่ง" ออกมาเพ่นพ่าน นอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์เขตอุทยานแห่งชาติคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร มาอยู่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านกระเหรี่ยงน้ำตก หมู่ที่ 18 ตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร จนสร้างความแตกตื่นหวาดกลัว ต่อประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก 


หลังได้รับแจ้ง ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการสนธิกำลัง เจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติคลองลาน ทีมงานสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ และเจ้าหน้าที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ ติดตามจับเสือโคร่งตัวดังกล่าวทันที และล่าสุดวันนี้ (20 ก.พ. 67) มีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับตัวเสือโคร่งตัวนี้ได้แล้ว 

Nation STORY จึงได้สรุปปฏิบัติการ ตามจับตัวเสือหลงป่าตัวนี้ มาให้ผู้ที่ติดตามข่าว ได้รู้ถึงแง่มุมต่าง ๆ ในปฏิบัติการครั้งว่า มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง....


 

ปฏิบัติการครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา เมื่อทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับแจ้งพบ "เสือโคร่ง" ออกมาเพ่นพ่าน นอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์เขตอุทยานแห่งชาติคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร มาอยู่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านกระเหรี่ยงน้ำตก หมู่ที่ 18 ตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร 

ก็ได้มีการสนธิกำลัง เจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติคลองลาน ทีมงานสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ และเจ้าหน้าที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ เพื่อติดตามจับเสือโคร่งตัวดังกล่าวทันที 

โดยในช่วงกลางดึกวันดังกล่าว ได้มีการจัดชุดเจ้าหน้าที่ เข้าควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ ไม่ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ และให้ชาวบ้านออกจากบริเวณที่พบเสือโคร่งเพื่อความปลอดภัย พร้อมประสานขอนายสัตวแพทย์ ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี และหัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ เข้าพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์ ประเมินอาการของเสือโคร่ง เพื่อดำเนินการตามหลักวิชาการ โดยจัดชุดเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติคลองลาน จำนวน 60 คน เฝ้าระวังและควบคุมสถานการณ์พื้นที่ตลอดเวลา

 

วันที่ 17 ก.พ. 67 เวลาประมาณ 11.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ได้สำรวจแบบหน้ากระดาน เพื่อค้นหาตัวเสือโคร่ง ได้พบเสือโคร่งเฝ้าซากเหยื่อ อยู่ห่างจากบ้านราษฎร ประมาณ 80 เมตร จึงวางกำลังโอบล้อม เพื่อให้นายสัตวแพทย์เตรียมการยิงยาสลบ แต่เนื่องจากจุดที่เสือโคร่งอยู่มีสภาพเป็นป่ารก จึงไม่สามารถปฏิบัติการได้ หลังจากนั้นเสือโคร่งรู้ตัว กระโจนฝ่าแนวล้อมของเจ้าหน้าที่อย่างรวดเร็วไปทางทิศใต้ เจ้าหน้าที่จึงทำการสำรวจแบบหน้ากระดานค้นหาเสือโคร่งติดตามร่องรอยอีกครั้ง
 

กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 15.25 น. คณะเจ้าหน้าที่เดินติดตามรอยเสือโคร่ง พบรอยตีนเสือโคร่ง เดินออกจากพื้นที่ลงมาทางทิศใต้ผ่านไร่มันสำปะหลัง และมุ่งหน้าขึ้นเขาไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติคลองลาน เบื้องต้นพบซากเหยื่อบริเวณพื้นที่เฝ้าระวัง จึงประสานกล้อง NCAPs จากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เพื่อติดตามการย้อนกลับเข้ามากินเหยื่อของเสือโคร่งต่อไป



นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ มีการวางแผนการปฏิบัติงาน โดยประสานขอกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า( camera trap )จากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF ประเทศไทย) เพื่อติดตามการเข้าออกพื้นที่ของเสือโคร่ง และจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในพื้นที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยของราษฎร ชุมชนบ้านกะเหรี่ยงน้ำตกอย่างเข้มงวด 


ปฏิบัติการตามจับตัวเสือโคร่งผ่านไป 4 วัน กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 19 ก.พ. 67 ชุดปฏิบัติการสามารถได้จับตัวเสือโคร่งตัวดังได้ ด้วยการใช้ห่วงดักขาและยิงยาสลบได้สำเร็จ ตรวจสอบสุขภาพเสือโคร่งเบื้องต้น เป็นเสือโคร่งเพศเมีย อายุประมาณ 2-3 ปี ชื่อ “บะลาโกล” ภาษากะเหรี่ยง แปลว่า คลองลาน หนักประมาณ 80-90 กิโลกรัม ตาข้างซ้ายบอด มีบาดแผลที่กระจกตา มีบาดแผลขนาดเล็กที่อุ้งเท้าด้านซ้าย เหงือกค่อนข้างซีด (pale pink mucous membrane) สภาพผอม (body condition score 2-2.5)

สัตวแพทย์ ได้ให้ยาปฏิชีวนะ วิตามิน และยาถ่ายพยาธิ ก่อนนำขึ้นรถไปยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ก่อนติดปลอกคอวิทยุติดตามตัว เพื่อตรวจสอบการเคลื่อนที่ของเสือโคร่ง ก่อนเคลื่อนย้ายเสือโคร่งไปปล่อยสู่ป่าธรรมชาติต่อไป




วันนี้ (20 ก.พ. 67) เพจเฟซบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP ได้อัปเดตความเป็นอยู่ของ “บะลาโกล” ที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูสภาพร่างกาย ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ระบุว่า 

อัปเดต! เสือน้อยจากคลองลาน 

จากปฏิบัติการเคลื่อนย้ายเสือโคร่งออกหากินนอกแนวเขตพื้้นที่อนุรักษ์ ที่ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 

เช้านี้น้อง บะลาโกล ตื่นขึ้นมาอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ ที่สถานีเพราะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง สภาพโดยรวมไม่มีปัญหาที่ต้องกังวล มีนายสัตวแพทย์คอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด โดยระบุว่า มีความเครียดเล็กน้อย ซึ่งเป็นธรรมดาของการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม และตอบสนองต่อเสียงร้องของเสือโคร่งตัวอื่น ด้วยการหยุดและฟัง แต่ไม่ได้มีอาการตื่นกลัว สำหรับดวงตาที่ขุ่นและเป็นฝ้า เนื่องจากมีบาดแผล ที่กระจกตา หากแห้งได้เองก็ไม่ต้องดำเนินการใด ๆ 

การดูแลขั้นต่อไป จะดูแลให้ใกล้เคียงกับความเป็นอยู่ตามธรรมชาติมากที่สุด หลีกเลี่ยงการสร้างความผูกพันธ์กับพี่เลี้ยง เพื่อที่ได้ปล่อยกลับและดำรงชีพในธรรมชาติได้สำเร็จ
#บะลาโกล ที่แปลว่า คลองลาน

ขอความกรุณางดเยี่ยมชมน้อง ทางเพจจะคอยตามเสาะข้อมูลมาอัปเดตเป็นระยะ 
 

ทำความรู้จัก “บะลาโกล” เสือน้อยที่น่าสงสาร 

เพจเฟซบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP ได้ให้ข้อมูล “บะลาโกล” เสือโคร่งที่ ออกมานอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์เขตอุทยานแห่งชาติคลองลาน ไว้อย่างน่าสนใจ โดยระบุว่า....   

ใจเขา ใจเรา

“เสือโคร่งโผล่ หมู่บ้านคลองลาน” เป็นหัวข้อข่าวเด่นของแทบทุกสื่อ เนื้อหาสาระหลักคือ ชาวบ้านผวา ซึ่งที่มาของสาระคืออ้างอิงจากแหล่งเฟซของผู้อาศัยอยู่ในชุมชน เป็นหลัก

อุทยานแห่งชาติคลองลาน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งเป็นบ้านของเสือโคร่ งไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องนี้ โดยได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทันที ในช่วงเย็น ๆ ของศุกร์  ที่หลายคนได้เดินทางกลับถึงบ้านต่างจังหวัดเรียบร้อยแล้ว 

เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติคลองลานหลายสิบนาย เปลี่ยนภาระกิจจากเดินลาดตระเวนตรวจตราภายในพื้นที่ มาเป็น หน่วยคุ้มกันหมู่บ้านเพื่อให้รู้สึกปลอดภัยจากเสือโคร่ง

นายสัตวแพทย์ (ซึ่งเป็นผู้หญิง) ตีด่วนกลับบ้านต่างจากหวัด เข้าถึงพื้นที่เพื่อพร้อมทำงานในเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์  ขณะเดียวกันรถพร้อมกรงขนย้าย จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ก็เตรียมพร้อมทำงานทันที

เช้ามืดวันเสาร์ทีมนักวิจัยเสือโคร่ง เดินจากออกจากพื้นที่เป้าหมายแต่เช้าตรู่ พร้อมลงมือติดตามตรวจสอบ ข้อมูล เพื่อวางแผนทำงานทันที ในขณะที่เสือก็ยังคงกบดานนิ่ง อยู่ในพื้นที่เป้าหมายมีขนาดราว 30 ไร่ ซึ่งเป็นสวนร้างที่อยู่ติดห้วยคลองลานที่สองฝั่งเป็นที่ตั้งของบ้านเรือน

เมื่อรู้จุดท้ายที่พบเห็นเสือโคร่งอย่างชัดเจน จึงได้จัดกำลังเดินเท้าเข้าหา จนได้พบว่ามันนอนหลบซุ่มเงียบในพุ่มเครือแห้งรก จนบดบังสายตาของผู้ค้นหา ฝ่ายเสือเองก็เงียบสนิทไม่ทักทายแม้ว่า ขาเจ้าหน้าที่อยู่ห่างจากมันไม่เกิน 3 เมตร แต่แล้วการพบเจอกันระหว่างมันกับเจ้าหน้าที่ แค่เพียงได้รู้ว่ามันไม่ใช่เสือแก่ที่ไม่มีเรี่ยวแรง แต่ที่สำคัญกว่านั้นแม้ว่า มันได้โอกาสที่สามารถคิดร้ายกับคนได้ มันยังเลือกที่จะกระโจนหนีมากกว่าพุ่งเข้าใส่

ผ่านไป 1 วัน 1 คืน กับสามโอกาสในการที่จะให้ยาสลบ ปฏิบัติการหยุดพักที่เวลา 23 นาฬิกาเพื่อสะสมพลังงานในการทำงานวันรุ่งขึ้น

เช้าวันอาทิตย์ทีมนักวิจัยเป็นทีมแรกที่เข้าตรวจสอบพื้นที่จึงได้รู้ว่า ความอดทนของเสือนั้นสูงกว่ามนุษย์มากมาย  เพราะหลังจากที่ทีมปีนลงจากต้นกระท้อน ที่ซุ่มวางยาเวลาห้าทุ่ม พร้อมทั้งถอนกำลังทุกทีมออกจากพื้นที่ เจ้าเสือก็เดินสบายใจ ออกจากพื้นที่สวนกลับเข้าชายป่าคลองลาน

ในขณะเดียวกันก็ได้รู้ว่า นายสัตวแพทย์นั้นมือแม่นฉมังมาก จนมีใครบางคนถึงขั้นคิดพาดหัวข่าวว่า “ด่วน! นายสัตวแพทย์ยิงไผ่ดับคาที่” เพราะว่าชุดลาดตระเวนตามเก็บลูกดอกยาสลบได้ ในสภาพที่คาลำไผ่แห้งหักคล้ายคนหลับคอพับไป

เสือผอมโซตัวนี้ ข้อมูลประวัติจากตั้งกล้องดักถ่ายโดยองค์กรสัตว์ป่าโลก ช่วยให้ประมวลได้ว่า มันคงเผชิญสภาวะที่แม่ไม่อาจหาเลี้ยงมันได้ จึงต้องเดินร่อนเร่จากจุดที่เคยถูกถ่ายภาพได้พร้อมแม่เมื่อปีที่แล้ว มาจนถึงจุดหมู่บ้านน้ำตกคลองลาน ที่มีไร่สวนติดกับขายขอบป่าคลองลาน และมีบางบ้านที่เลี้ยงหมูหลุมที่หน้าตาสีสันเหมือนหมูป่าต่างกันที่ขนาด

คอกหมูจึงเป็นจุดที่มันวนเวียนเข้าหา เพื่อหวังจะได้มีมื้ออาหารเข้าร่างกาย ในขณะที่สุนัขเดินเพล่นพล่านทั้งหมู่บ้านและวัด มันกลับเมินก็เป็นพฤติกรรมที่ชวนคิด ไม่ใช่น้อย

วันนี้ วันอาทิตย์ เป็นอีกวันที่ ทีมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานทุกฝ่าย ยังตรึงกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการจับเคลื่อนย้าย เจ้าเสืออาภัพตัวนี้ ที่ อยากให้เรียกว่า “บะลาโกล” ที่แปลว่า "คลองลาน" อยากให้ บะลาโกล ซึ่งเป็นคำกะเหรี่ยง ได้เชื่อมโยงระหว่างชุมชนกับเสือตัวดังกล่าว อยากให้ชุมชนอ่อนโยน และเข้าใจมันมากขึ้น 

เพราะมันไม่ได้อยากมาสร้างปัญหาให้ใครใคร มันแค่หิวแล้วแวะมาเพราะเห็นว่า มีอาหารอยู่ก็เท่านั้น อย่าได้กร่นด่า บ่นว่า ทั้งเสือและเจ้าหน้าที่ที่ได้ตั้งใจทำงาน เพื่อแก้ไขเรื่องราวอย่างเต็มกำลัง โดยมีความหวังว่า บะลาโกล จะยอมให้พาไปฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง ก่อนที่กรมอุทยานฯ จะจัดหาพื้นที่เหมาะสมให้อาศัยเป็นบ้านหลังใหม่ต่อไป
#เสือจร
#เสือไม่ร้ายอย่างที่จินตนาการ


เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ปฏิบัติการจับตัว “บะลาโกล” 

เพจเฟซบุ๊ก สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 นครสวรรค์ ได้เผยข้อมูลเบื้องหลังปฏิบัติตามจับตัวเจ้า “บะลาโกล” ว่า การวางแผนการทำงานรวม 4 วัน ในการจับเสือโคร่งดังกล่าว ในความตึงเครียด ก็ยังมีความน่ารักของชุดเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานที่มีการหยอกเย้ากันเกี่ยวกับความแม่นปืน ของนายสัตวแพทย์ที่เป็นผู้หญิง สามารถยิงยาสลบกับต้นไผ่ได้

หรือความตะบึงตะบอน รีบขับรถจากบ้านกว่า 100 กิโลเมตร เข้าปฏิบัติงานในค่ำคืน การกินนอนในป่าของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมทำงาน ในความเหนื่อยก็ยังมีความสามัคคี ขอบคุณความร่วมมือของหน่วยงานในพื้นที่ทุก ๆ หน่วยงาน ขอบคุณชาวบ้านในพื้นที่ ที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ขอบคุณสื่อโซเชียล ที่ส่งกำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกท่าน


ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจเฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
เพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
เพจเฟซบุ๊ก สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 นครสวรรค์
เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติคลองลาน - Khlong Lan National Park 
เพจเฟซบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP 
เพจเฟซบุ๊ก สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อุทัยธานี