ส่องความเห็นคนการเมือง "ทักษิณ" ได้พักโทษกลับบ้าน มาดูกันคิดเห็นอย่างไร

ส่วนความเคลื่อนไหวของ สส.พรรคฝ่ายค้าน อย่างฝากฝั่ง พรรคก้าวไกล ได้มีการโพสต์แถลงการณ์เกี่ยวกับจุดยืนกรณีพักโทษ "ทักษิณ" ว่า 

[ จุดยืนพรรคก้าวไกล ต่อกรณีคุณทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักโทษ ]

แม้รัฐบาลและนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มักย้ำในหลายเวที ถึงความสำคัญของการสร้างหลักนิติรัฐที่เข้มแข็ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์ และกระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้น กับคุณทักษิณ ชินวัตร ตลอด 180 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะการได้รับสิทธิรักษาตัวนอกโรงพยาบาล ที่เรือนจำเป็นกรณีพิเศษโดยขาดความโปร่งใสเรื่องอาการป่วยของคุณทักษิณ ต่อเนื่องมาจนได้รับสิทธิพักโทษ เพื่อปล่อยตัวกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านนั้น กลับเพิ่มคำถามที่มีในใจของประชาชนจำนวนมากว่า สิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน สอดคล้องกับหลักการบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติหรือไม่

แน่นอนว่าหากมองไปที่อดีต ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกรัฐประหาร ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณทักษิณเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางวิถีประชาธิปไตย จนทำให้ประชาชนจำนวนมากตั้งคำถามต่อความเป็นธรรมของคดีความ กระบวนการทางกฎหมาย และบทลงโทษที่มีต่อคุณทักษิณ

แต่หากมองมาที่ปัจจุบัน เมื่อคุณทักษิณตัดสินใจนำตนเอง กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมในประเทศ ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า คำชี้แจงของรัฐบาลต่อคำถามสำคัญ ทั้งเรื่องสุขภาพของคุณทักษิณที่ผ่านมา หรือเกณฑ์ที่ใช้ในการอนุมัติ ให้คุณทักษิณได้รับการพักโทษ ไม่สามารถทำให้สังคมหยุดตั้งคำถามได้ถึงความเสมอภาคในการบังคับใช้กฎหมาย และการปฏิบัติเมื่อเปรียบเทียบกับนักโทษ และผู้ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองคนอื่นๆ 
.
พรรคก้าวไกลยืนยันว่า สังคมไทยต้องการระบอบประชาธิปไตยที่ยึดหลักนิติรัฐและกระบวนการยุติธรรมเพื่อทุกคน ปราศจากระบบสองมาตรฐานหรือนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชน 
.
ดังนั้น หากรัฐบาลต้องการจะอำนวยความยุติธรรมให้แก่คุณทักษิณ ในฐานะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง หรือการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง แนวทางในการดำเนินการ ต้องไม่ใช่การตอกย้ำระบบสองมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมในประเทศ หรือส่งเสริมให้ใครคนใดคนหนึ่ง ได้รับอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นในทางกฎหมาย แต่รัฐบาลต้องยึดแนวทาง ที่อำนวยความยุติธรรม ให้แก่ทุกคนอย่างทัดเทียมกัน



เช่นเดียวกับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความเห็นถึงกรณี #พักโทษทักษิณ โพสต์ผ่าน แอปพลิเคชัน X ระบุว่า..

"หากการ #พักโทษทักษิณ เป็นเรื่องมาตรฐาน ประชาชนคนอื่นๆ ก็ควรได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับคุณทักษิณด้วย

ซึ่งรัฐบาลก็ปฏิบัติในลักษณะเดียวกันกับคนอื่นๆ ให้สังคมได้ประจักษ์สิ ข้อครหาว่า คุณทักษิณได้รับอภิสิทธิ์ก็จะคลี่คลายไปเอง

แต่ถ้าไม่มีกรณีอื่นเลย ประชาชนก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดา"


ด้านฝากฝั่งอดีต สส. อย่าง นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีนายทักษิณ ได้รับการพักโทษ และกลับบ้านจันทร์ส่องหล้า ว่า....

ปลอกคอปลอกแขนแสดงออกเชิงสัญญลักษณ์? #ทักษิณกลับบ้าน 




 

รวมถึง นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เทพไท - คุยการเมือง ระบุว่า...

ดีใจกับคุณทักษิณ
เสียใจกับเพื่อนนักโทษทุกคน
และขอไว้อาลัยกับกระบวนการยุติธรรมไทย

วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของกระบวนการยุติธรรมไทยอีกวันหนึ่ง เพราะวันนี้เป็นวันที่คุณทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลตำรวจ กลับอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ท่ามกลางความยินดีของคนที่รักคุณทักษิณ และท่ามกลางความหดหู่ใจ ของคนที่รักความเป็นธรรมทั่วประเทศ

ผมขอแสดงความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็นนักโทษเหมือนกับคุณทักษิณ ซึ่งผมไม่ได้รู้สึกอิจฉาริษยาคุณทักษิณใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่สิ่งที่ผมได้ออกมาแสดงความคิดเห็น ในเรื่องการถูกจำคุกของคุณทักษิณมาโดยตลอด ก็เพราะต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเพื่อนนักโทษทุกคน ที่ได้รับการปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐาน เมื่อเปรียบเทียบกับคุณทักษิณ เขาเหล่านั้นไม่อาจเปรียบเทียบได้เลย

แต่ผมจะขอเปรียบเทียบกับตัวผม ที่ได้รับการปฎิบัติแตกต่างกับคุณทักษิณ ในหลายประการ เช่น

1.ผมถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ผมยอมรับคำพิพากษา เดินเข้าเรือนจำทันที ไม่ได้หนีคดีไปต่างประเทศเหมือนคุณทักษิณ

2.ผมยินดีรับโทษจำคุก 2 ปี ตามคำพิพากษา แต่คุณทักษิณ ถูกศาลตัดสินจำคุก 10 ปี เมื่อกลับมารับโทษ ศาลฎีกาตัดสินเหลือโทษรวม 8 ปี และได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี

3.ผมถูกจำคุกจริงอยู่ในเรือนจำ 16 เดือน คุณทักษิณไม่ได้ถูกจำคุกในเรือนจำเลย แม้แต่วันเดียว

4.ผมได้รับการพักโทษจากเงื่อนไขปกติ ถูกจำคุก 2 ใน 3 แต่คุณทักษิณได้รับสิทธิ์พักโทษกรณีพิเศษ เงื่อนไขจำคุก 1 ใน 3 หรือ 6 เดือน

5.เมื่อได้รับการพักโทษในวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ จึงต้องได้รับพักโทษจริง ในวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน ในขณะคุณทักษิณได้รับการพักโทษวันอาทิตย์ 18 กุมภาพันธ์ ได้รับการพักโทษในทันที เวลา 6.09 น.

6.เมื่อได้รับการพักโทษแล้ว ผมต้องเดินทางไปรายงานตัวและติดกำไลอีเอ็มข้อเท้า ที่กรมคุมประพฤติ ภายใน 3 วัน แต่คุณทักษิณไม่ต้องเดินทางไป และไม่ต้องติดทำไลอีเอ็ม แต่อย่างใด

7.ผมยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ผ่านกรมราชทัณฑ์ ใช้เวลาจะครบ 2 ปีแล้ว ยังไม่ทราบความคืบหน้า แต่คุณทักษิณใช้เวลาในการพระราชทานอภัยโทษเพียง 2 วันเท่านั้น

สิ่งที่ผมกล่าวมาทั้งหมด ผมอาจจะไม่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับคุณทักษิณในด้านฐานะทางเศรษฐกิจ และบารมีทางการเมือง แต่คุณสมบัติพื้นฐานของผม ไม่ได้ด้อยไปกว่าคุณทักษิณเลย เช่น คุณทักษิณกับผม ต่างก็เป็นนักการเมืองด้วยกัน ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ประชาชน ตามหน้าที่ คุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ผมเป็น สส.ตัวแทนของประชาชน ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และที่สำคัญผมไม่มีคดีอื่นใดติดตัวเลย แม้แต่คดีเกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

เพื่อเป็นการแสดงความยินดี ที่คุณทักษิณได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ และเป็นการไว้อาลัยกับความอัปยศของกระบวนการยุติธรรมไทย ในโอกาสนี้ ผมขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนนักโทษทุกคน ด้วยการมอบเพลง แดนตะราง ที่ ร.ต.ต.วาศ สุนทรจามร ได้ประพันธ์ไว้เมื่อ 80 ปีที่ผ่านมา ยังคงเป็นเพลงอมตะจนถึงปัจจุบันนี้


ส่วนความเคลื่อนไหวฝั่ง สว. นายวันชัย สอนศิริ สว. โพสต์ข้อความเรื่อง​ “เมื่อจันทร์ส่องหล้า” ระบุว่า

ระยะนี้ดาวจันทร์กับดวงเมือง และผู้มีอำนาจทางการเมือง มีความสัมพันธ์และสำคัญมาก เพราะตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 ก.พ.67 ดาวจันทร์ย้ายจากราศีเมษเข้าสู่ราศีพฤษภในตำแหน่งมหาอุจจ์ อันหมายถึงมหาเสน่ห์ที่จะเกิดขึ้นกับปวงชน อำนาจวาสนาและบารมีจะแน่นปึ้ก! พลังแห่งความยิ่งใหญ่จากจันทร์ดับที่อับแสงจะกลายเป็นจันทร์ส่องหล้าที่สว่างไสว รัฐบาลและผู้มีอำนาจจะสร้างผลงานให้ปรากฏดับข้อขัดแย้งและความติดขัดทั้งมวลให้กระจ่างแจ้ง ทั้งในสภาและนอกสภาจะปลอดโปร่งโล่งไสว

“คุณทักษิณ ชินวัตร ผู้มีอำนาจตัวจริงเสียงจริงออกมาแล้ว ระยะเวลาแห่งความเป็นรัฐบาลกับที่อยู่ในเรือนจำเท่ากัน เห็นปัญหาต่างๆ มากมาย แต่ก็คงมีข้อจำกัดทำให้ขยับกับอำนาจไม่เต็มที่ วันนี้เมื่อจันทร์ส่องหล้าแล้ว คงจะทำให้การบริหารจัดการทางการเมืองและการทำงานของคุณเศรษฐาและคณะรัฐมนตรีให้มีพลังที่เป็นเอกภาพ มีการขับเคลื่อนผลงานออกมาให้เป็นที่ประจักษ์ เป็นที่นิยมชมชอบของประชาชนได้ เพราะคุณทักษิณคือศูนย์รวมแห่งอำนาจตัวจริง คุณเศรษฐาแม้จะแสดงบทบาทมาแล้ว 6 เดือน ใครก็รู้ว่าไม่ใช่ตัวจริงเสียงจริง พลังขับเคลื่อนจึงยังไปไม่เต็มสูบ

วันนี้เวลานี้ถ้าปล่อยให้เหมือน 6 เดือนที่ผ่านมา เพื่อไทยและรัฐบาลก็จะหมดมนต์ขลัง หมดพลังแห่งความนิยมชมชอบ แต่วันนี้ดาวจันทร์เป็นมหาอุจจ์ ทั้งมหาอุจจ์ตัวจริงก็ออกมาแล้ว ทั้งเสน่ห์ ทั้งความนิยมชมชอบ บริวารว่านเครือจะมาดำรงคงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่ในอดีตอีกครั้ง ที่ออกจากเรือนจำในช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.พ. เป็นฤกษ์แห่งจันทร์เสน่ห์ จันทร์มหาอุจจ์ มุ่งไปสู่จันทร์ส่องหล้า ทางการเมืองอาจปรับ ครม.อาจปรับเปลี่ยนกระทรวง หรือวิธีการทำงาน อันจะทำให้เศรษฐกิจและสังคมกลับมาเฟื่องฟูเข้มแข็งก็ด้วยจันทร์มหาอุจจ์นี่แหละ”

นายวันชัย ระบุอีกว่า แม้จันทร์จะส่องหล้า ถ้ามากราบหลวงพ่อสัมฤทธิ์ประสิทธิโชค วัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชัน ยิ่งจะเพิ่มมนต์ขลังมนต์เสน่ห์ มหาอุจจ์มหานิยมที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลนาน

และ นายสมชาย แสวงการ สว.ที่ได้ โพสต์ผ่าน X  ระบุ 
#ทักษิณ ป่วยหนัก? พักโทษ? โรคอะไร?

 #RIPยุติธรรมไทย