svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สรุปดรามา หนุ่มตำหนิการบินไทย "ไปเมลเบิร์น แต่ได้ลงซิดนีย์" งานนี้จบไม่สวย

02 กุมภาพันธ์ 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กลายเป็นเรื่องที่ไม่รู้จริงไม่ควรฟาดแรง กรณีดรามาร้อน นักธุรกิจหนุ่มโพสต์ตำหนิการบินไทย "ไปเมลเบิร์น แต่ได้ลงซิดนีย์" สุดท้ายจบไม่สวย ตัวอย่างบทเรียนระหว่างผู้โดยสารกับสายการบิน

เป็นอีกดรามาร้อน ๆ ที่ผู้คนในสังคมติดตามเป็นจำนวนมาก กรณีเพจนักบินอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้มีการแชร์โพสต์ของหนุ่มนักธุรกิจรายหนึ่ง ที่โพสต์ระบายความไม่พอใจ หลังเดินทางด้วยสายการบินไทย จากประเทศไทย ไปยัง Mabel Australia แต่เครื่องกลับต้องจอดที่ Sydney แทน จากปัญหาทางสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยแทน มีการตำหนิสายการบินและนักบินอย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้ทางสายการบินชี้แจงในเรื่องนี้

แต่กลับกลายเป็นว่า คณะรถทัวร์จากชาวเน็ต ได้พากันไปลงที่นักธุรกิจหนุ่มรายนี้อย่างรุนแรง แต่เรื่องก็ไม่จบแค่นั้้น เพราะดรามาครั้งนี้ มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากผู้โพสต์ต้นทาง และทางฝ่ายที่ถูกกล่าวหา 

Nation Story จึงได้สรุปดรามาร้อนครั้งนี้มาเสิร์ฟให้อ่านกัน.......
สรุปดรามา หนุ่มตำหนิการบินไทย \"ไปเมลเบิร์น แต่ได้ลงซิดนีย์\" งานนี้จบไม่สวย
 

ลำดับเหตุการณ์ดรามาร้อน "ไปเมลเบิร์น แต่ได้ลงซิดนีย์"   

28 ม.ค. 67 นักธุรกิจหนุ่มได้โดยสารเที่ยวบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG465 เส้นทาง กรุงเทพฯ-เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย แต่เครื่องบินกลับลงจอดที่สนามบินซิดนีย์แทน หลังการเดินทาง นักธุรกิจหนุ่มได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ตำหนิตั้งแต่การบริหาร เครื่องบิน กัปตันและนักบิน ยกเว้นพนักงานบริการบนเครื่อง อย่างรุนแรง 

มีการกล่าวหาว่า กัปตันโกหกเกี่ยวกับเรื่องทัศนวิสัยไม่ดี เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ (ATC) ให้วน 20 นาที น้ำมันไม่พอต้องลงจอด ที่สนามบินซิดนีย์ พร้อมยกประสบการณ์ที่ตัวเอง ขึ้น-ลงสนามบินเมลเบิร์นมาไม่ต่ำกว่าพันรอบ
สรุปดรามา หนุ่มตำหนิการบินไทย \"ไปเมลเบิร์น แต่ได้ลงซิดนีย์\" งานนี้จบไม่สวย
สรุปดรามา หนุ่มตำหนิการบินไทย \"ไปเมลเบิร์น แต่ได้ลงซิดนีย์\" งานนี้จบไม่สวย
สรุปดรามา หนุ่มตำหนิการบินไทย \"ไปเมลเบิร์น แต่ได้ลงซิดนีย์\" งานนี้จบไม่สวย
สรุปดรามา หนุ่มตำหนิการบินไทย \"ไปเมลเบิร์น แต่ได้ลงซิดนีย์\" งานนี้จบไม่สวย
 

นักบินสุดทนแจงข้อเท็จจริงเปลี่ยนที่แลนดิ้ง 

29 ม.ค. 67 เพจเฟซบุ๊ก กัปตันไฟซอล บิน กิน เที่ยว Captain Faisal ซึ่งป็นนักบินอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้แชร์โพสต์ของนักธุรกิจหนุ่มรายนี้ พร้อมตำหนิและชี้แจงว่า เป็นการแสดงความไม่รู้ ใช้คำดูถูกด้อยค่ากัปตันและนักบิน ทั้งที่ช่วงดังกล่าว ทัศนวิสัยต่ำ 200 เมตรและหมอกหนา และช่วงเวลาเดียวกันมีเครื่องบินเปลี่ยนทิศทางไปยังสนามบินสำรอง (Divert)

โดยอธิบายว่า ข่าวอากาศการบินไม่เหมือนในโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งนักบินต้องผ่านการสอบภาษาอังกฤษด้านการบินทุกคน การลงสนามบินเป็นไปตามลำดับคิวไม่มีต่อรอง ยืนยันว่านักบินการบินไทยมาตรฐานระดับโลก และมีคนรักที่รอกลับบ้านอยู่เช่นกัน กรุณาให้เกียรตินักบินคนที่ดูแลชีวิตด้วย 

ซึ่งหลังการโพสต์ดังกล่าวของเพจดัง ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์เรื่องดรามาครั้งนี้ออกไปเป็นจำนวนมาก พร้อมเรียกร้องให้ทางสายการบิน ดำเนินคดีกับนักธุรกิจหนุ่มรายนี้


หนุ่มนักธุรกิจโพสต์ขอโทษรอบแรก 

30 ม.ค. 67 นักธุรกิจหนุ่ม ออกมาโพสต์ขอโทษรอบแรกหลัง หลังทางเพจนักบินอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้มีการอธิบายเกี่ยวกับสาเหตุ ที่ต้องมีการเปลี่ยนสนามบินเพื่อแลนดิ้ง โดยระบุ สืบเนื่องจาก การ Post ข้อความของผมที่มีการใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ ตำหนิการปฏิบัติงานของกัปตันในเที่ยวบินของบริษัท การบินไทย นั้น 

เมื่อผมได้รับทราบข้อเท็จจริง จากผู้มีความรู้ด้านการบิน เกี่ยวกับขั้นตอนในการปฏิบัติงานของกัปตัน และทราบว่า สภาพอากาศในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นข้อจำกัดที่ทำให้กัปตัน ต้องตัดสินใจบินไปสนามบินสำรอง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด 

ผมมีความรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด ที่ได้เขียนข้อความซึ่งไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง จึงได้ประสานกับนายกสมาคมนักบินไทย ขอโอกาสในการเข้าพบกัปตัน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในเที่ยวบินดังกล่าว เพื่อกล่าวคำขอโทษ รวมถึงจะประสานเข้าพบฝ่ายบริหารของบริษัท การบินไทย เพื่อขออภัยในสิ่งที่เขียน ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อมาตรฐานของทางสายการบินต่อไป ในช่วงสัปดาห์หน้าหลังจากที่ เดินทางกลับถึงประเทศไทยในทันที

สุดท้าย ผมต้องขออภัยต่อทุกท่าน ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำอันเกิดจาก เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผมมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
สรุปดรามา หนุ่มตำหนิการบินไทย \"ไปเมลเบิร์น แต่ได้ลงซิดนีย์\" งานนี้จบไม่สวย

การบินไทยออกแถลงการณ์ยืนยันมาตรฐานการบิน 

31 ม.ค. 67 การบินไทย ออกมาแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า "ตามที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีมีผู้โพสต์ข้อมูลการปฏิบัติการบินของบริษัทฯ ในเที่ยวบิน TG 465 วันที่ 28 มกราคม 2567 เส้นทาง กรุงเทพฯ - เมลเบิร์น ซึ่งมีความจำเป็นต้องนำเครื่องบินลงจอด ยังท่าอากาศยานทางเลือก ด้วยเหตุผลด้านสภาพอากาศที่สนามบินเมลเบิร์น และต่อมาผู้โพสต์ได้โพสต์แสดงความเสียใจต่อการเขียนข้อความ ซึ่งไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง และขออภัยต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำอันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้โพสต์ข้างต้น นั้น

บริษัทฯ ขอเรียนยืนยันว่า บุคลากรการบินของบริษัทฯ ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ตามกระบวนการที่ได้จัดทำและถือปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย และนิรภัยการบินในระดับสากล ผ่านการตรวจสอบรับรอง โดยหน่วยงานกำกับดูแลทั้งภายในประเทศและในระดับนานาชาติ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการปฏิบัติการบินที่ปลอดภัยแก่ผู้โดยสารในทุก ๆ เที่ยวบิน"


นักธุรกิจหนุ่มลาออกจากบริษัทชื่อดังแสดงความรับผิดชอบ

1 ก.พ. 67 นักธุรกิจหนุ่มโพสต์ขอโทษเกี่ยวกับเรื่องอีกครั้ง โดยระบุว่า ผมได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและตระหนักได้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่สมควรและไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของผม ผมจึงมีความประสงค์ขอลาออกจากทุกตำแหน่งที่กระผมปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน ที่ บริษัท  แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และขอกราบอภัย บริษัท การบินไทย, นักบิน และทุกคนที่เกี่ยวข้อง และขอกราบอภัย ผู้ถือหุ้น กรรมการบริษัท ผู้บริหาร พนักงาน ของบริษัท แพลน บี และ พี่ๆ เพื่อนๆ และทุกคน ที่ผมรักและเคารพที่ผมทำให้ผิดหวัง ตลอดจนผู้ได้รับผลกระทบ จากการกระทำอันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของกระผมมา ณ ที่นี้ โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

ผมเข้าใจว่า มันอาจไม่มีความหมายมากมายอะไร กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบ แต่ผมก็จริงจังและจริงใจที่จะขอโทษ ในสิ่งที่ผมทำลงไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ผมเสียใจและขออภัย และขอน้อมรับความผิดทั้งหมด ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ ขออภัยอีกครั้งเป็นอย่างสูง และขอแสดงความนับถือครับ
สรุปดรามา หนุ่มตำหนิการบินไทย \"ไปเมลเบิร์น แต่ได้ลงซิดนีย์\" งานนี้จบไม่สวย

การบินไทยเตรียมพิจารณาเอาผิดทางกฎหมายนักธุรกิจหนุ่ม

1 ก.พ. 67 การบินไทย ได้มีการออกแถลงการณ์ ต่อกรณีมีผู้โพสต์ข้อมูลพาดพิง การปฏิบัติการบินและบุคลากรการบินของบริษัทฯ ในเที่ยวบิน TG 465 วันที่ 28 มกราคม 2567 เส้นทาง กรุงเทพฯ - เมลเบิร์น ซึ่งมีความจำเป็นต้องนำเครื่องบินลงจอด ยังสนามบินทางเลือก ด้วยเหตุผลด้านสภาพอากาศที่สนามบินเมลเบิร์น ด้วยถ้อยคำและเนื้อหาที่สร้างความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของบริษัทฯ ต่อสาธารณะในวงกว้าง และบริษัทฯ ได้เรียนยืนยันถึงมาตรฐานด้านความปลอดภัย และนิรภัยการบินของ บริษัทฯ และบุคลากรของบริษัทฯ ทุกคนแล้วนั้น

ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิอันชอบธรรมของบริษัทฯ และบุคลากรของบริษัทฯ ที่ได้รับผลกระทบในกรณีดังกล่าว และเพื่อสร้างบรรทัดฐานมิให้เกิดการกระทำในลักษณะที่สร้างความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องแก่สาธารณะอีกในอนาคต


เบื้องต้นดรามา "ไปเมลเบิร์น แต่ได้ลงซิดนีย์" ขณะนี้ยังไม่สิ้นสุด แต่ก็ถือเป็นบทเรียนบางอย่างให้กับผู้โดยสารและสายการบิน โดยเรื่องนี้ยังต้องติดตามกันต่อไปว่าจะจบลงอย่างไรในที่สุด... 
 

logoline