svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ลูกบ้าน "แอชตัน อโศก" ผวา ร้องนายกฯ ช่วยแก้ปมทางเข้า-ออก หวั่นอนาคตมีปัญหา

ลูกบ้านคอนโด "แอชตัน อโศก" ร้องนายกฯ ช่วยหาช่องแก้ไขเส้นทางเข้า-ออก หลังศาลแพ่งคุ้มครองชั่วคราว หวั่นระยะยาวมีปัญหา

26 มกราคม 2567 นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รับหนังสือร้องเรียนจาก น.ส.เยาวลักษณ์ สุลีสถิระ ตัวแทนเจ้าของร่วมในโครงการคอนโด แอชตัน อโศก เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรี ช่วยหาแนวทางดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับลูกบ้าน

เนื่องจากศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ให้กับเจ้าของร่วมในโครงการ โดยก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เพื่อขออนุญาตใช้ทาง แต่ขณะนี้คู่กรณีที่ขอใช้ทาง ไม่ใช่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด บอกเพียงว่า การที่ รฟม. อนุญาตให้อนันดา ใช้ที่ดินเพื่อก่อสร้างโครงการ และเป็นทางเข้า-ออก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการอนุญาตก่อสร้างโครงการมิชอบ แต่เรื่องตรงนั้นจบไปแล้ว

วันนี้ข้อเท็จจริงใหม่ที่เกิดขึ้นคือ มีการขายห้อง 668 ห้อง ให้กับเจ้าของร่วมไปแล้ว ทำให้วันนี้คู่กรณีใหม่ที่ต้องยื่นขออนุญาตจาก รฟม. พิจารณาใช้ที่ดินเป็นทางเข้า-ออก ไม่ใช่บริษัทอนันดา ตามที่ศาลปกครองสูงสุด บอกว่าไม่มีอำนาจแล้ว ซึ่งหากพิจารณาแล้ว ปกติ รฟม. มีการอนุญาตให้โครงการที่พักอาศัยขนาดใหญ่แห่งอื่น ใช้ที่ดินที่ได้มาจากการเวรคืนเป็นทางเข้าออก ทางลูกบ้านจึงเห็นว่า ถ้า รฟม. เคยมีแนวทางปฏิบัติแบบนี้ในหลายโครงการ ก็ขอให้พิจารณาโครงการนี้ด้วย

“ปัจจุบัน รฟม. มีหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร มาที่บริษัทอนันดา ไม่ให้ใช้ทางตรงนั้นแล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีการปิดทางเข้าออก เนื่องจากมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจากศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เพราะมีกลุ่มลูกบ้านส่วนหนึ่งไปร้องขอให้เปิดทาง ปัจจุบันจึงใช้ทางได้อยู่ตามคำสั่งศาลแพ่ง แต่ลูกบ้านเห็นว่าเป็นเพียงคำสั่งชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีผลว่าจะใช้ได้ตลอดไปในระยะยาว จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผ่านมากว่า 6 เดือนแล้ว เกินกว่าที่กระทรวงคมนาคมเคยให้ข่าวว่า จะขีดเส้นตายที่จะให้คำตอบในการแก้ปัญหานี้ภายใน 30 วัน และในแง่ความเสียหายเกิดขึ้นตลอด ทั้งการรีไฟแนนซ์ไม่ได้ การผ่อนดอกเบี้ยสูง รวมถึงเบี้ยประกันภัยอาคารสูงขึ้นมาก บริษัทหลายแห่งไม่รับประกันภัย เนื่องจากมีคดีความ

ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง คอนโดแอชตัน อโศก ของบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 โดยพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง  โดยระบุว่า

     1. ที่ดินของอาคารโครงการแอชตัน อโศก ไม่เป็นไปตามที่กฎกระทรวง ฉบับที่ 33 พ.ศ. 2535 ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 กำหนด

     2. ตามพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน เพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การนำที่ดินจากการเวนคืน เพื่อก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่พิเศษของแอชตัน อโศก ขัดต่อวัตถุประสงค์ของการเวนคืนที่ดิน

     3. การที่ผู้ว่าฯ กทม. โดย ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. อนุญาตให้ บริษัท อนันดาฯก่อสร้างแอชตัน อโศก ความสูง 51 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน รวม 783 ยูนิต ในพื้นที่ขนาด 2.3 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 19 แยก 2 เป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โดยคดีนี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ ถนนสุขุมวิทซอย 19 แยก 2 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร รวม 16 ราย ยื่นฟ้อง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตวัฒนา, ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม., ผู้ว่าฯ กทม., ผู้ว่าการ รฟม. และคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน ภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

ซึ่งมี บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด และบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทู จำกัด เป็นผู้ร้องสอด (การเข้ามาเป็นคู่ความในคดีหลังจากเสนอคดีต่อศาล) เนื่องจากการอนุญาตก่อสร้างดังกล่าว เป็นการใช้อำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และทำให้ผู้ฟ้องร้องเดือดร้อนโดยเฉพาะผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น การสั่นสะเทือน การบังแสงแดดและลม เป็นต้น

สำหรับประเด็น ทางเข้า-ออกโครงการ ที่เป็นปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไข เนื่องจากโครงการแอชตัน อโศก มีพื้นที่ใช้สอยอาคารประมาณ 55,000 ตารางเมตร ซึ่งตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 พ.ศ. 2535 ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ระบุว่า สำหรับที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งของอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ ที่มีพื้นที่อาคารรวมกันทุกชั้นมากกว่า 30,000 ตารางเมตร ต้องมีด้านหนึ่งด้านใดของที่ดินยาวไม่น้อยกว่า 12 เมตร ติดถนนสาธารณะที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตร ยาวต่อเนื่องกัน และที่ดินนั้นต้องว่างเพื่อสามารถใช้เป็นทางเข้า-ออกของรถดับเพลิงได้โดยสะดวกด้วย

ในกรณีของแอชตัน อโศก แม้มีถนนเข้า-ออกกว้าง 13 เมตร ขนาดถูกต้องตามกฎหมาย แต่เป็นถนนที่เช่ามาจาก รฟม. แล้วขอใช้ประโยชน์ร่วมกันเป็นทั้งทางเข้าแอชตัน อโศกและทางเข้าที่จอดรถของสถานี MRT สุขุมวิท ซึ่งขัดต่อวัตถุประสงค์ของการเวนคืนที่ดิน ทำให้ไม่สามารถนับว่าเป็นทางเข้า-ออกทางกฎหมายได้