
28 ธันวาคม 2566 จากกรณีผู้ใช้บัญชีเอ็กซ์ (X) หรือทวิตเตอร์ "Red Skull" โพสต์คลิปพร้อมระบุข้อความว่า "ทริปทัวร์ญี่ปุ่นฉ่ำๆ 7 วัน 7 คืน หลวงพี่โจเมืองตรังคนเดิม ที่เคยเป็นข่าวทริปดำน้ำดูประการังทั้งผ้าเหลือง อาชีพในฝันของใครหลายๆคน งานสบาย รายได้ดี ได้ทัวร์ต่างประเทศด้วย
นอกจากนี้ ผู้ใชับัญชีดังกล่าว ยังตั้งคำถามว่า ไปเที่ยวต่างประเทศแบบนี้ ทำข้อวัตรของภิกษุ 10 ข้อ ยังไง? ซึ่งข้อวัตรของพระภิกษุ 10 ประการ
หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่อกอไป ก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นสนั่นโลกออนไลน์ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสุขพิชัย เชาวกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ตรัง เปิดเผยว่า ตอนนี้เจ้าคณะปกครองทั้งท่านเจ้าอาวาส เจ้าคณะอำเภอก็รับทราบเรื่องนี้กันทั้งหมดแล้ว ทุกท่านไม่สบายใจเป็นเรื่องของ โลกะวัชชะ หรือความไม่เหมาะควรแก่สมณสารูปของพระคุณท่านที่ออกสื่อไปในลักษณะนั้น ในเบื้องต้นได้ประสานโดยด่วนไปแล้วเมื่อเช้านี้ หลังที่ออกสื่อไปให้ลบคลิปออกทั้งหมด แล้วจะเดินทางกลับวัดในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ และทางพระคุณท่านจะได้พิจารณาพูดคุยกันอีกทีว่าจะพิจารณาในด้านพระธรรมวินัยไม่เหมาะควรกันอย่างไร
แต่เบื้องต้น ได้พูดคุยกันแล้วว่า ไม่เหมาะควร ไม่ใช่เรื่องศาสนกิจในเรื่องการเผยแผ่ศาสนา พระท่านทำไปด้วยความที่ไม่ได้ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนว่าภาพออกไปไม่เหมาะควร ส่วนไปในโครงการอะไร หรือลักษณะไหนส่วนตัวก็ไม่ทราบ แต่ตอนนี้ติดต่อได้แล้วและทางโน้นก็รับทราบและก็ตกใจเหมือนกันว่า กระแสสังคมตีออกมาในลักษณะนี้ ก็บอกไปแล้วว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควร เจ้าคณะปกครองก็จะตอบอบรมไปในเบื้องต้นแล้ว แต่ยังอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ก็ให้รีบดำเนินการลบคลิปทั้งหมดออกให้หมด
และหลังจากที่เดินทางกลับมาก็ให้มาพูดคุยกันในหมู่ของสงฆ์อีกครั้ง ในส่วนของสำนักงานพระพุทธก็ได้ดำเนินการประสานรายงานผู้บังคับบัญชาในเบื้องต้น และเจ้าคณะปกครองสงฆ์ได้รับทราบและรีบดำเนินการแล้ว
สำนักพุทธฯ สั่งตรวจสอบ "หลวงพี่โจ" หลังโพสต์คลิปทัวร์ญี่ปุ่น 7 วัน 7 คืน
ขณะที่ นายสุพัฒน์ เมืองมัจฉา โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยกับทีมข่าวเนชั่นทีวี ว่า ในส่วนของสำนักพระพุทธศาสนาทราบเรื่องแล้ว และได้สั่งการไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ให้ลงพื้นที่ไปพบกับเจ้าอาวาสของพระรูปดังกล่าว เพื่อขอข้อมูล เบื้องต้นยังไม่ทราบในรายละเอียดว่าเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจหรืออย่างไร แต่ทางเจ้าอาวาสได้แจ้งไปยังพระที่ปรากฏอยู่ในคลิปแล้ว และได้มีการว่ากล่าวตักเตือน รวมถึงให้ลบคลิปออกทั้งหมด และเมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ก็จะมีการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามพระธรรมวินัยต่อไป
ส่วนกรณีที่พบว่าพระรูปดังกล่าว เคยมีภาพหลุดไปทริปดำน้ำดูปะการัง เมื่อปี 2565 ด้วยนั้น จากการตรวจสอบเป็นพระรูปเดียวกันจริง ทั้งนี้การกระทำที่เกิดขึ้นถือว่าไม่เหมาะสมกับสถานะของการเป็นพระสงฆ์ เป็นโลกวัชชะ แต่ไม่ถึงกับขั้นผิดวินัยร้ายแรง จนถึงกับต้องปาราชิก
ทั้งนี้ ได้ประสานไปยังคณะสงฆ์และเจ้าคณะผู้ปกครอง จะต้องมีมาตรการที่เด็ดขาดมากกว่าที่เคยดำเนินการมาก่อน เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่กระทำผิดแบบเดิมซ้ำอีก
โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยอมรับว่า กรณีในลักษณะดังกล่าว สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนา แต่เป็นเพียงส่วนน้อยที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานพระพุทธศาสนาไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมาได้กำชับไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดและเจ้าคณะจังหวัดทุกพื้นที่อยู่แล้ว ให้ช่วยกันสอดส่องดูแล ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในกรอบพระธรรมวินัย แต่ยอมรับว่ามีบ้างที่เล็ดลอดออกไป
ฟังอีกมุม "หลวงพี่โจ" เป็นที่รักของชาวบ้าน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดไร่พรุ ม.8 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นวัดที่หลวงพี่โจสังกัดอยู่ และ หลวงพี่โจ มีตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่พรุ เพื่อสัมภาษณ์เจ้าอาวาส แต่ปรากฎว่า เจ้าอาวาสไปปฏิบัติศาสนกิจที่ อ.นาโยง จ.ตรัง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พบกับชาวบ้าน ที่เดินทางมาให้อาหารสุนัขและแมวในวัดเป็นประจำทุกวัน โดย ชาวบ้าน อายุ 74 ปี เล่าว่า รู้จักพระโจเป็นอย่างดี เพราะพระโจบวชเรียนเป็นสามเณรอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จนปัจจุบันนี้เป็นพระนักเทศน์ ที่เทศนาดี มีแฟนคลับจำนวนมาก เป็นที่รักของชาวบ้าน พระโจยังเปิดหัองเรียนเพื่อสอนธรรมมะให้เด็กๆในละแวกวัด เด็กบางรายที่เคยเกเร ก็กลับมาเป็นเด็กเรียบร้อยขึ้น
"ส่วนเรื่องประเด็นดรามาตนพอทราบบ้าง ซึ่งตนคิดว่าสังคมเดี๋ยวนี้รู้เรื่องราวอะไรเพียงเล็กน้อย ก็พากันวิจารณ์กันสนุกปาก จนเกิดความเสียหาย ตนไม่อยากให้พระดีๆต้องมาลาสิกขาเพราะประเด็นโซเชียล" ชาวบ้านคนดังกล่าวระบุ