
21 ธันวาคม 2566 จากกรณี "ทักษิณ ชินวัตร" เดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยในวันนั้น กรมราชทัณฑ์ แถลงรายละเอียดขั้นตอนการรับตัว "ทักษิณ ชินวัตร" เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ใน 3 ประเด็น โดยประเด็นที่ 3 เรื่องสุขภาพ พบว่า "ทักษิณ" มีอายุ 74 ปี จึงต้องดูเรื่องสุขภาพอนามัยเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เจ็บป่วยระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ
ทั้งนี้ ได้ทำประวัติและตรวจสุขภาพโดยแพทย์ของ "รพ.ราชทัณฑ์" พบว่า เป็น "กลุ่มเปราะบาง" และมีโรคประจำตัวที่ต้องเฝ้าระวังและรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยต้องตรวจติดตามโดยแพทย์เฉพาะทาง แยกคุมขังนายทักษิณไว้ที่แดน 7 เพียงคนเดียว ซึ่งเป็นสถานพยาบาลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ในคืนเดียวกันนั้น "ทักษิณ" ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.ตำรวจ เนื่องจากมีอาการป่วยกำเริบ ความดันขึ้นสูง โดยเข้ารับการรักษาจนถึงปัจจุบัน โดยจะครบ 120 วัน ในวันที่ 22 ธ.ค.66 ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด ทนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของ "ทักษิณ" ได้โพสต์ข้อความเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่ให้ร้ายว่า ไม่ได้ป่วยจริง และเรียกร้องเปิดข้อมูลผู้ป่วย ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "วิญญัติ ชาติมนตรี" มีรายละเอียดดังนี้..
#อย่าล้ำเส้น
ผู้ใดเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ป่วยของ นายทักษิณ ชินวัตร โดยไม่ได้รับความยินยอม ด้วยการอ้างข่าวลือ ให้ร้ายนายทักษิณ ชินวัตร ว่า ไม่ได้ป่วยจริง ไม่อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ หรือเป็นอภิสิทธิ์ชน ทั้งกล่าวหาพาดพิงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการกล่าวใส่ความ ยุยง ส่งเสริม สนับสนุนให้บุคคลอื่นกระทำการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิของผู้ป่วยและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
การอ้างข้อเท็จจริงเลื่อนลอยให้สังคมหรือประชาชนเกิดความสับสน โดยไม่มีอำนาจหน้าที่โดยตรง หรืออ้างว่ามีหน้าที่ แต่ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่นโดยจงใจ หรือมุ่งหวังกระแสสังคมให้คิดลบหรืออาศัยสถานะของตนที่มีช่องทางสื่อสาร สัมภาษณ์ต่อสาธารณะโดยยืนยันข้อเท็จจริงที่ทำให้เสื่อมเสียต่อ ชื่อเสียง เกียรติยศ นั่นคือเจตนากระทำความผิดต่อกฎหมาย
อนึ่ง ภายใต้เงื่อนไขสำคัญและภายใต้อายุความ
จึงจำเป็นที่ต้องใช้สิทธิ์ ดำเนินคดีกับผู้ใดก็ตาม
ที่กระทำการละเมิดสิทธิของ นายทักษิณ ชินวัตร.
21 ธันวาคม 2566 09:27
หมายเหตุ : ในฐานะทนายความ เมื่อพบเห็นการกระทำใดหรือความพยายามใช้สิทธิที่เข้าข่ายเจตนากระทำละเมิดสิทธิของลูกความ จึงเป็นธรรมดาที่ต้องปกป้องสิทธิใดๆ ตามครรลองและตามกฎหมาย.
ที่มา >> เพจเฟซบุ๊ก "วิญญัติ ชาติมนตรี"