svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สาวปริญญาเอกตกใจคนดูแลหอพัก เมาบุกทุบห้องผิด ปีนหน้าต่างหนี พลัดตกตึกดับ

17 ธันวาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พ่อสาวนักศึกษาปริญญาเอก ว่าที่ ดร. ร้องเพจสายไหมต้องรอด ลูกสาวตกใจสามีคนดูแลหอพัก เมาบุกทุบห้องผิด ปีนหนีออกหน้าต่าง ทำพลัดตกจากชั้น 6 เสียชีวิต

เป็นเรื่องราวที่น่าสลดใจ และตั้งคำถามถึงสวัสดิภาพความปลอดของหญิงสาว ที่ต้องพักอาศัยตามคอนโด หรือแมนชันตามลำพัง เมื่อเพจเฟซบุ๊ก Survive – สายไหมต้องรอด โพสต์ข้อความเหตุการณ์ กรณีที่ สามีคนดูแลแมนชัน บุกเคาะห้องพัก นิสิต ป.โท และว่าที่บัณฑิตระดับปริญญาเอก ทำให้หวาดกลัวต้องปีนหนีออกด้านหลัง ก่อนพลัดตกจากชั้น 6 เสียชีวิต โดยระบุว่า

#คนร้ายจะพังประตูห้อง #นักศึกษามเกษตร  

แอดครับ ช่วยด้วยครับ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 66 ตอนกลางดึก ที่แมนชั่น ซ.ลาดปลาเค้า 3 โชคชัย 4  สามีคนดูแลแมนชั่น เขาเมาสุราหรือยาเสพติดไม่แน่ชัดครับ จู่ ๆ เขาขึ้นไปเคาะห้องลูกสาวของผมซึ่งอยู่ที่ชั้น 6  ลูกสาวผมพักอยู่คนเดียว เนื่องจากมาเรียนต่อ  ป.เอก  อยู่ที่ ม.เกษตร  เขาเคาะห้องเสียงดังมาก จนมีคนข้างห้องของลูกสาวผมอัดคลิปเสียงไว้ได้  ลูกสาวผมจะเป็นคนที่กลัวเสียงดังมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ พอคนก่อเหตุมาเคาะห้องพูดเสียงดัง พยายามจะพังประตู  ยิ่งทำให้ลูกตกใจกลัวมาก คิดว่าคนร้ายจะบุกเข้ามาในห้องจริง ๆ จึงได้ปีนหนีออกทางด้านหลังห้อง ทำให้พลัดตกจากชั้น 6 ลงมาเสียชีวิต   

เพื่อนลูกสาวผมพักอยู่ชั้น 4 มาบอกว่า ลูกสาวผมทักมาขอความช่วยเหลือ ขอให้เพื่อนขึ้นไปช่วย แต่เพื่อนกลัวผู้ก่อเหตุมีอาวุธ เลยรีบลงลิฟต์ไปชั้น 1 เพื่อจะตามให้ รปภ. ขึ้นไปช่วย แต่พอเพื่อนลงมาถึงชั้น 1 ลูกสาวผมก็พลัดตกลงมาครับ 

หลังจากลูกสาวผมเสียชีวิต สามีคนดูแลเเมนชั่นเขามาบอกว่า เขาขอโทษเขาขึ้นไปเคาะห้องผิดครับ  ผมกลัวว่าลูกสาวผมจะไม่ได้รับความเป็นธรรมครับ ผมไม่อยากให้ลูกผมต้องตายฟรี จึงขอให้ทาง #เพจสายไหมต้องรอด ช่วยเหลือครอบครัวผมด้วยครับ 

#ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ เรื่องนี้ พี่เอก รับปากจะช่วยเต็มที่ จะทำความจริงให้ปรากฎคนผิดต้องถูกลงโทษค่ะ

สำหรับกรณีนี้ ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.อาภาภรณ์ สีชำนาญ อายุ 27 ปี โดยทางครอบครัวได้มีการตั้งประกอบพิธีทางศาสนาที่ วัดลำนารายณ์ อำชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และได้มีการฌาปนกิจ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมาแล้ว
กำหนดพิธีทางศาสนา น.ส.อาภาภรณ์  
พิธีฌาปนกิจร่าง น.ส.อาภาภรณ์
ข้อความที่แม่ นิสิตสาว ป.เอก เขียนประวัติการศึกษาน้อง อ่าน ไว้อาลัย วันฌาปนกิจ  

โดยล่าสุดวันนี้ (17 ธ.ค.) นายสมชาย สีชำนาญ อายุ 60 ปี พ่อของ น.ส.อาภาภรณ์ หรือ เฟิร์น นักศึกษาปริญญาเอก ที่พลัดตกจากที่พักชั้น 6 ลงมาเสียชีวิต ได้เข้าพบ นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอให้ช่วยเหลือทางคดี   

พร้อมระบุว่า ลูกสาวเป็นคนขี้ตกใจมาตั้งแต่เด็ก เวลามีเสียงดังอึกทึก มักจะตกใจมากกว่าคนปกติ ช่วงที่ลูกสาวเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ ตั้งแต่ชั้นปริญญาตรี ก็ไม่ได้อยู่กับตัวเอง แต่พักอาศัยอยู่ที่แมนชันแห่งนี้ จนจบการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรีและปริญญาโท ปัจจุบันศึกษาอยู่ในชั้นปริญญาเอก เหลือเพียงแค่การส่งชิ้นงานสุดท้าย และทำเรื่องจบการศึกษา ก็จะเป็นด็อกเตอร์ด้านงานวิจัย  
สาวปริญญาเอกตกใจคนดูแลหอพัก เมาบุกทุบห้องผิด ปีนหน้าต่างหนี พลัดตกตึกดับ

เท่าที่ทราบจากคนรอบข้างของลูกสาวในวันเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุรายนี้ เป็นสามีของผู้ดูแลอาคารดังกล่าว  เมื่อกลับมาถึงที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 04.00 น. แล้วเจอกับรถ จยย. มาจอดทับอยู่ในช่องจอดรถของตัวเองก็โมโห สอบถามกับทางผู้ดูแลอาคารอ้างว่า รถ จยย. คันดังกล่าว เป็นของลูกสาวตน ผู้ก่อเหตุจึงบุกขึ้นไปโวยวายที่บริเวณหน้าห้อง ลักษณะท่าทางคล้ายคนเมาสุรา มีการโวยวายด่าทอ ทุบประตูห้อง มีเพื่อนข้างห้อง บันทึกเสียงในที่เกิดเหตุเอาไว้ทั้งหมด

ระหว่างเกิดเหตุ ลูกสาวตนได้แชทไปขอความช่วยเหลือ จากเพื่อนที่พักอาศัยอยู่ที่ห้องชั้น 3 ซึ่งเพื่อนก็ได้ยินเสียงโวยวายเช่นกัน แต่ไม่กล้าขึ้นมาช่วยห้าม เพราะเกรงว่าชายคนดังกล่าว อาจจะมีอาวุธและคลุ้มคลั่งอยู่ จึงตัดสินใจลงไปที่ชั้นหนึ่ง เพื่อไปขอความช่วยเหลือจาก รปภ. อาคาร

แต่เมื่อเพื่อนของลูกสาวลงไปถึงชั้นล่าง และกำลังจะเดินไปขอความช่วยเหลือกับ รปภ. ก็เห็นร่างลูกสาวร่วงทะลุหลังคาโรงจอดรถ จยย. ลงมากระแทกพื้นเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา 
แชทที่สาวปริญญาเอกขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
แชทที่สาวปริญญาเอกขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
แชทที่สาวปริญญาเอกขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
แชทที่สาวปริญญาเอกขอความช่วยเหลือจากเพื่อน  

หลังทราบเรื่องตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก และอยากให้ผู้ก่อเหตุออกมาแสดงความรับผิดชอบ กับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะการกระทำที่ขาดสติ โดยไม่ยังคิดของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ทำให้ตนเองต้องสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รัก และประเทศชาติต้องสูญเสียบุคลากร ที่จะสามารถสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติย่างมาก 
สาวปริญญาเอกตกใจคนดูแลหอพัก เมาบุกทุบห้องผิด ปีนหน้าต่างหนี พลัดตกตึกดับ  

นายเอกภพ ระบุว่า หลังได้รับฟังเรื่องทั้งหมด ตนอยากให้ทางตำรวจ ดำเนินการแจ้งข้อหา และดำเนินการทางคดี กับผู้ก่อเหตุรายนี้ให้ถึงที่สุด เพราะหากไม่กระทำการในลักษณะการคุกคามแบบนี้ เชื่อว่า น้องน้องเฟิร์นก็จะไม่ต้องปีนตึกหนีไป จนพลาดพลัดตกเสียชีวิต   

ทั้งนี้ ได้ประสานไปยัง สน.โชคชัย เป็นเจ้าของคดีทราบว่า มีการแจ้ง 3 ข้อหาคือ พยายามบุกรุก , ทำให้เกิดเหตุอึกกะทึกคึกโคม และ ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว แต่ก็จะประสานไปที่ พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ช่วยดำเนินการตรวจสอบ และพิจารณาเกี่ยวกับข้อหาอีกครั้งเนื่องจากมองว่า เป็นข้อหาที่ค่อนข้างเบาเกินไป
แมนชันที่เกิดเหตุ  

หนุ่มทุบห้องนิสิต ป.เอก เป็นเพียงผู้เช่าอาศัย  

ช่วงบ่ายวันนี้ ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด พานายสมชาย สีชำนาญ อายุ 60 ปี พ่อ น.ส.เฟิร์น เดินทางไปที่แมนชันซอยลาดปลาเค้า 3 ที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้จัดการตึก แต่กลับไม่พบผู้ใด  ทั้งนี้ทางแมนชัน ยังคงเก็บรวบรวมเศษกระเบื้องหลังคา ที่ร่วงแตกจากคืนวันเกิดเหตุ ใส่ถังสีพลาสติกไว้ที่หน้าทางเข้า 

นายสมชาย กล่าวว่า นาน ๆ ทีตนจะติดต่อกันกับลูกสาว และลูกสาวไม่เคยเล่าว่า ที่แมนชันนี้มีปัญหาอะไร ยอมรับว่าพอมาถึงแล้วไม่พบผู้ใด ก็รู้สึกหดหู่และเสียใจ ตนเพิ่งมาที่หอพักนี้เป็นครั้งแรก ส่วนตัวเชื่อว่า ลูกคงกลัวมากจนสติหลุด เพราะลูกเป็นคนขี้กลัวอยู่แล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ยังไม่มีใครติดต่อมา หากได้คุยกับคนก่อเหตุ ก็อยากรู้ว่าเจตนาแรกที่ตั้งใจขึ้นมาถึงห้องคืออะไร คิดว่าเรื่องจอดรถทับที่ตัวเอง และไปเคาะผิดห้อง คงเป็นข้ออ้าง อีกทั้งไม่มั่นใจว่า ทำไมระเบียงห้องจึงไม่ติดลูกกรงเพื่อความปลอดภัย 

ขณะที่ นางสา นามสมมติ แม่บ้านประจำตึก กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นผู้เช่า ไม่ใช่สามีผู้จัดการอาคาร ตามที่เป็นข่าว ตอนนี้เจ้าตัวรู้สึกสำนึกผิด กับเหตุที่เกิดขึ้น ถึงกับร้องไห้และไปจุดธูปขอขมาในเช้าวันถัดมา หลังเกิดเรื่องเจ้าของอาคารสั่งย้ายออกทันที ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือให้หลบหนี แต่เพราะถือเป็นบุคคลอันตราย 

อย่างไรก็ตาม ปกติคนก่อเหตุ ไม่ใช่คนอารมณ์รุนแรง แต่คงจะมึนเมามาก จนเกิดเรื่องขึ้น โดยตอนที่เขาโทรศัพท์หาตน ก็ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้ ตนก็เพียงบอกรูปพรรณสันฐานของรถไปเท่านั้น ไม่ได้บอกเลขทะเบียนไป ทั้งนี้ ฝ่ายอาคารก็รู้สึกเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะช่วยเหลือเยียวยาด้านค่าทำศพให้  ส่วนหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ยืนยันว่ามีครบถ้วน และได้มอบให้ตำรวจไปหมดแล้ว 

รายงานแจ้งว่า พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้สอบปากคำชายที่ก่อเหตุแล้ว ทราบว่าคืนวันเกิดเหตุ  ชายผู้ก่อเหตุกลับมาจากทำงาน แล้วจะจอดรถ จยย. ในที่ของตัวเองหน้าแมนชั่น แต่มีผู้อื่นมาจอดรถทับที่ เลยไปสอบถามกับแม่บ้านประจำตึก แต่แม่บ้านบอกห้องผิด ทำให้ชายคนนี้ขึ้นไปอาละวาด เบื้องต้นแจ้งข้อหาบุกรุกยามวิกาล และส่งเสียงดังทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว
แมนชันที่เกิดเหตุ

logoline