กรมการแพทย์เตือนพ่อแม่ "PM2.5" ภัยร้ายลูกน้อย อยากป้องกันต้องทำแบบนี้

ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง กับปัญหา ฝุ่นพิษ "PM2.5" โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และตามเมืองใหญ่ของประเทศไทย ที่ขณะนี้มีค่ามลพิษทางอากาศ สูงเป็นลำดับต้น ๆ โลก จนโซเชียลมีการแชร์ภาพของเมืองทั้งเมือง ที่อยู่ในกลางสายหมอก แต่เป็นหมอกพิษ
 

โดยฝุ่น "PM2.5" นอกจากจะเป็นต้นเหตุ ให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้แล้ว ยังสามารถเหนี่ยวนำให้เป็นมะเร็งชนิดอื่น ๆ ได้อีกด้วย เพราะนอกจากฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนแล้ว ยังมี สารปรอท แคดเมียม โลหะหนักอื่น ๆ และพวกสารก่อมะเร็งอีกมากมาย ผสมปนอยู่ด้วย

ซึ่งกลุ่มเสี่ยงที่หากได้รับมลภาวะเหล่านี้เข้าไปคือ ผู้ป่วย ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ และเด็ก หรือแม้กระทั่ง ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงทั่วไป ที่แม้ไม่ใช่มะม่วง แต่ก็อาจร่วงได้ หากสูดดมเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก กรมการแพทย์ ได้ออกมาเตือนว่า PM2.5 นั้น ถือเป็นภัยร้ายที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก ที่สามารถส่งผลร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยระบุว่า   

PM 2.5 ภัยร้ายใกล้ตัวส่งผลต่อร้ายต่อลูก 

กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ชี้มลพิษทางอากาศ (ฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5) ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก และเด็กที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที 

นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า PM2.5 ได้กลับมาอีกครั้งในช่วงฤดูหนาว ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่เกินระดับมาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก และเด็กที่มีโรคประจำตัว เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ การสูดเอาฝุ่นพิษเข้าไป อาจทำให้เกิดอาการแสบจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก ไอ มีเสมหะ และเจ็บคอ มีผื่นคันบริเวณที่สัมผัสฝุ่น หากได้รับเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้มีความผิดปกติด้านสติปัญญาและพัฒนาการ ถ้าได้รับ PM 2.5 ในปริมาณมาก เป็นเวลานานจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดได้ 

นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ผู้ปกครองควรหลีกเลี่ยงการพาเด็ก ๆ ไปทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือไปในบริเวณที่มีค่าฝุ่นละอองเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ขณะอยู่ในบ้านควรปิดประตูหน้าต่างให้สนิท และเปิดเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองแบบ HEPA ซึ่งช่วยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ลงได้ 

กรณีที่มีความจำเป็น ต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ต้องสวมหน้ากาก N95 ในทารกหรือเด็กเล็ก ไม่แนะนำให้เดินทางออกนอกบ้าน ควรล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ จะช่วยให้หายใจได้โล่งขึ้น หมั่นเช็ดทำความสะอาดบ้านและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กภายในบ้าน หากพบว่า ลูกมีอาการไอ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หรือมีผื่นคันขึ้นตามร่างกายที่ผิดปกติให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที

ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมการแพทย์ , สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี