svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

หมอสมรส เผย ป่วยมะเร็งรอบ 3 หนักหนาและสาหัสมาก เหลือเวลาอีกแค่ 2 ปี 

28 พฤศจิกายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดโพสต์ "หมอสมรส" อัปเดตอาการล่าสุด หลังป่วยมะเร็งรอบที่ 3 ระบุ รอบนี้หนักหนาสาหัสมาก ตั้งมั่นจะใช้เวลา 2 ปีที่เหลือ เดินหน้าถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มีทั้งหมด ให้อาจารย์แพทย์ เพื่อประโยชน์ในอนาคตวงการแพทย์สืบต่อไป

เป็นรายงานข่าวที่ชาวเน็ตติดตามอย่างใกล้ชิด คุณหมอสมรส คุณหมอคนดังในโลกออนไลน์ ที่ได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์การป่วยเป็นมะเร็งของตนเอง จนบรรดาชาวโซเชียลแหส่งกำลังใจให้จำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ คุณหมอสมรสเคยโพสต์แจ้งข่าวไว้ว่า

"นพ.สมรส พงศ์ละไม" ขอแบ่งปันประสบการณ์ป่วยมะเร็ง แต่มองโลกในแง่ดี หวังผู้อ่านได้ข้อคิดในการใช้ชีวิต

ผมโชคดี ถูกรางวัลมากกว่ารางวัลที่หนึ่ง 17 ใบ 102 ล้านบาทอีกครับ
โพสต์นี้ได้รับพลังใจจากเพจ สู้ดิวะ ในฐานะที่เป็นหมอและคนไข้มะเร็งเหมือนกัน หวังว่าอ่านจบแล้ว เพื่อนๆ จะได้ข้อคิดไปแบ่งปันให้คนที่เรารักต่อนะครับ 

..
ผมชื่อ สมรส เริ่มจากผมเป็นหมอเฉพาะทางด้านฟื้นฟูและรักษาคนไข้อัมพาตเยอะอายุน้อยมาก เลยกลัวว่าจะมีอะไรในหัวมั้ย ยิ่งไปเห็นพี่อิท Ittichai Sakarunchai คุณหมอผ่าตัดสมองโพสต์เรื่องเส้นเลือดโป่งพองในหัวแตก เลยตั้งใจจะไปตรวจสแกนสมอง MRI MRA ว่ามีระเบิดเวลาซ่อนในหัวเรามั้ยนะ ?
โชคดีครั้งที่ 1 ถ้าไม่เห็นโพสต์พี่อิทคงไม่คิดจะตรวจ

- ผมไปติดต่ออาจารย์เดชา คุณหมอผ่าตัดสมองที่ รพ.กรุงเทพพัทยาเลยแนะนำให้ทำเป็นแพคเกจ stroke screening program ไปเลยคุ้มกว่า เพราะดูเส้นเลือดแดงที่คอด้วย ก็เลยได้ทำอัลตราซาวด์ที่คอ
โชคดีครั้งที่ 2 ถ้าอาจารย์เดชาไม่แนะนำ package ก็ไม่ได้ตรวจ

- อาจารย์ดิว Wittawat Takong Interventionist อัลตราซาวด์ที่คอให้ เส้นเลือดดีมาก แต่เอ๊ะ มีก้อนที่คอ ผมมองหน้าอาจารย์ดิวที่กำลังวัดขนาดก้อนอยู่ด้วยสายตาจริงจัง
"มีโอกาสเป็นมะเร็งกี่ % ครับ” ผมยิ้มถาม ตอนนี้หัวใจเริ่มเต้นเร็ว
"มีโอกาสสูงครับอาจารย์ มากกว่า 90% คงต้องเจาะชิ้นเนื้อต่อครับ"
ในทางการแพทย์ เราเรียนการบอกข่าวร้ายกับคนไข้มา (Breaking Bad News) ไม่คิดว่าจะต้องเจอกับตัวเองเพราะก่อนหน้านี้แข็งแรงมากๆ โดยคนไข้จะมีกลไก 5 อย่างหลักๆ

  • 1.ปฏิเสธความจริง
  • 2.โกรธ
  • 3. ต่อรอง
  • 4.ซึมเศร้า
  • 5.ยอมรับ

"ครับ เดี๋ยวผมนัดเลยให้เร็วที่สุด” ผมข้ามไปขั้นยอมรับข่าวร้ายเลย ใน 1 วินาที อาจเพราะเป็นลิ่มเลือดอุดตันในปอดมาก่อน เจ็บหน้าอกทรมานอย่างมาก เป็นมะเร็งอีกก็เลยเข้าใจได้"
..

อ่านต่อฉบับเต็ม >> 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >>

หมอสมรส โพสต์เปิดใจ หลังป่วยมะเร็งไทรอยด์ ลั่น โชคดียิ่งกว่าถูกรางวัลที่ 1

หมอสมรส เผย ป่วยมะเร็งรอบ 3 หนักหนาและสาหัสมาก เหลือเวลาอีกแค่ 2 ปี 

หมอสมรส เผย ป่วยมะเร็งรอบ 3 หนักหนาและสาหัสมาก เหลือเวลาอีกแค่ 2 ปี 

ชวนคอข่าวมาร่วมส่อง  โพสต์ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2566 หลังจากที่คุณหมอสมรส พงศ์ละไม แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู เปิดเผยถึงการป่วยเป็นมะเร็งไทรอยด์ไปแล้วนั้น
ใจความระบุว่า 

“รักษามะเร็งรอบนี้ หนักหนาสาหัสมาก จนผมร้องไห้” หลังผ่าตัดมะเร็งที่แพร่ไปต่อมน้ำเหลืองที่คอไม่ถึงสองสัปดาห์ ผมยังไปบรรยาย TMS ไปเข้าร่วมได้สามงาน ก็เข้าใจว่าตัวเองแข็งแรงพอสมควร จิตใจเข้มแข็งระดับนึง

แต่หลังจากกลืนแร่ไอโอดีนความเข้มข้นสูง 3 เท่าไปแค่วันเดียว มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนหลายรอบ ปวดมวนท้อง เจ็บจุกแน่นลิ้นปี่ แสบร้อนกลางอก ร้อนปลายเท้าปลายมือ ปวดจนลุกไม่ไหว คลื่นไส้ตลอดเวลา สงสัยเป็นหลอดอาหารอักเสบและกรดไหลย้อน (อาจจะของเดิม + หลังกลืนแร่ ร่างกายอ่อนแอ) vdo call ไปหาพ่อ แม่ และพี่สาว ร้องไห้ให้สามคนนั้นเห็น เพราะกินอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้ำเปล่า อาเจียนตลอด ทรมานมากๆ เข้าใจคนไข้ได้เคโมเลย

บ่ายวันนั้นมีการ revise CPG (ทบทวนแนวทางการรักษาโรคของประเทศไทย) จำเป็นต้องฉีดยาและให้น้ำเกลือ จนพอที่ฝืนสังขารประชุมทั้งเช้าและบ่ายได้ หลังเสร็จก็นอนซมต่อ ต้องขอบพระคุณอาจารย์เจ้าของไข้ คุณหมอ resident และพี่พยาบาล ที่คอยช่วยดูแลครับ หลังออกจากโรงพยาบาลอาการก็หนักขึ้นเรื่อยๆ ปรึกษาอาจารย์ทางเดินอาหาร GI Med และพี่ๆ แนะนำควรกินยา 5 ตัว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ทั้งชีวิตแทบไม่กินยาเกี่ยวกับทางเดินอาหารเลย แต่ทนไม่ไหวจริงๆ ทรมานมาก

หมอสมรส เผย ป่วยมะเร็งรอบ 3 หนักหนาและสาหัสมาก เหลือเวลาอีกแค่ 2 ปี 

วันนี้ค่อยๆดีขึ้นช้าๆ จนสามารถพิมพ์โพสต์นี้ได้ด้วยตนเอง (ผมพิมพ์สัมผัส การพิมพ์ง่ายกว่าการพูด) ไม่อยากคุยกับใครเลยเพราะจุกแน่นหน้าอกตลอดเวลา นึกภาพแต่ก่อนอาจารย์ทางเดินอาหาร GI med จะส่งคนไข้กรดไหลย้อนหรือกระเพาะอักเสบ GERD, dyspepsia, IBS มาให้ผมฝังเข็ม เสริมกับการกินยา ซึ่งก็สามารถช่วยคนไข้ได้หลายคน แต่ไม่คิดว่าวันนึงต้องมารักษาตัวเองเพราะอาการรุนแรงมากแบบเดียวกัน

ป่วยรอบนี้ ตกผลึกอะไรหลายๆอย่าง
ทางโลก ผมกำหนดเส้นตายไว้ 2 ปี จะถ่ายทอดความรู้และประสบกาณ์การทำ TMS ทั้งหมดที่ผ่านมา 11 ปี ที่เรียนมาจากยุโรปโดยตรง ให้อาจารย์ในโรงเรียนแพทย์เป็นหลักก่อน ให้ท่านทำวิจัยที่เห็นผลลัพธ์จริงอย่างชัดเจน จนนำไปสู่การทำวิจัยคุณภาพสูง เช่น double blinded randomized sham control trial บน paradigm ใหม่และ network neuroscience
9- จะสนับสนุนให้งานวิจัยของคนไทย มากพอจนเพิ่ม TMS ลงใน CPG ของประเทศและโลกนี้ได้
มีหลายๆโรคที่ผมไม่ได้ประชาสัมพันธ์หรือสอนเพราะมันซับซ้อน มีความเสี่ยงหากใช้ไม่เหมาะสม เป็นทักษะมือที่ไม่ใช่แค่อ่านงานวิจัยแล้วจะทำได้ผลดีปลอดภัย หรือไม่สามารถสอนในงานประชุมแค่ 2 วันได้ ต้องใช้เวลา 20 ชั่วโมงขึ้นไป จะสอน skill มือที่ไม่มีเขียนใน papers จะช่วย critic งานวิจัยต่างๆว่าเค้าไม่ได้บอกอะไรไว้บ้าง
อีกอันที่อยากถ่ายทอดไว้คือ scientific acupuncture

ทางธรรม ผมจะเพิ่มสัดส่วนทางธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 2 ปี 
มีแนวโน้มจะตัดเรื่องทางโลกออก 90% อาจสร้างสถานปฏิบัติธรรมหรือวัดขึ้นมาเอง ให้สอดคล้องกับพุทธวจน พระไตรปิฎกและวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ 

ช่วยให้คนพ้นทุกข์ในอีกรูปแบบนึง ด้วยความรู้ scientific buddhism ที่ลิงก์กับ neuroscience, astronomy, cosmology แต่ต้องปฏิบัติให้ตกผลึกให้รู้จริงก่อนที่จะไปสอนใคร ถ้าตัวเองละสังโยชน์ได้ 3 ข้อ ก็จะเผยแผ่คำสอนทั้งไทยทั้งอังกฤษไปทั้งโลก


จะปฏิเสธเยอะขึ้น

ใน 2 ปีจากนี้ คนไข้กลุ่มไหนที่ทำให้ผมทุกข์มาก อธิบายเยอะแล้วก็ไม่เข้าใจแบบวิทยาศาสตร์ มีความเอาแต่ใจสูง ร่างกายผมคงรับไม่ไหว อาจจะต้องลดการรับเคสแบบนี้ลง หรือใครที่ร่วมงานกันแล้วทำให้ผมทุกข์มาก พยายามปรับตัวกันแล้วแต่ไม่ได้ ก็คงต้องลดการพบปะลง ตอนนี้ผมมีเป้าหมายที่ชัดเจน จึงต้องปฏิเสธคนที่ไม่ใช่ออกให้มากที่สุด ต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยนะครับ ชีวิตผมเหลือน้อยแล้ว ผมอาจจะดีไม่พอสำหรับทุกคน ผมเหนื่อยกับการเป็นมะเร็งรอบที่สามแล้ว

จะสร้างองค์กรสร้างระบบให้ยั่งยืน ผมจะหาคนที่มีจริต มีศีลธรรม มี mindset และปัญญาเสมอกันมาช่วยกัน จะถ่ายทอดความรู้ทุกสกิลให้คุณหมอและทีมงานทั้งหมด สอนวิธีสร้างองค์ความรู้และ connection สายตรงจากยุโรป เพื่อให้ทุกคนในองค์กรได้พัฒนาตัวเองต่อไปแม้จะไม่มีผมแล้ว เดี่ยวจะพยายามหา CFO, CHRO, CMO, คุณหมอ นักกายภาพ ตัดต่อวิดีโอ Dogotal Platform เพื่อนร่วมงานหลายสาขามา ค่อยๆ ร่วมทีมกันมากขึ้นในปีหน้า

หมอสมรส เผย ป่วยมะเร็งรอบ 3 หนักหนาและสาหัสมาก เหลือเวลาอีกแค่ 2 ปี 

สุดท้าย ขอบพระคุณอาจารย์ พยาบาล พี่ๆน้องๆเพื่อนๆทุกคนที่ช่วยดูแล สนับสนุน ให้คำปรึกษา ให้หนังสือ บางท่านส่งโปรตีนมาให้ทาน (ซึ่งช่วยได้มากเพราะกินอะไรไม่ได้เลย แล้วเป็นโปรตีนสำหรับคนไข้มะเร็งโดยตรง) บางคนจะมาช่วยบริหารงาน บางคนช่วยเรื่อง iT เรื่องสถิติเรื่อง Ai ผมซาบซึ้งทุกท่านจริงๆ ขอบคุณคุณหมอและน้องๆในทีมที่ช่วยกันดูแลคนไข้ และขอบคุณคนไข้ที่ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำถูกต้องอย่างเป็นวิทยาศาสตร์นะครับ

รักษามะเร็งรอบนี้ หนักหนาสาหัสมาก มากจนผมร้องไห้เลย นพ.สมรส #สู้ดิวะ #DrSomros 
ปล. ไปทำประกันสุขภาพกันด้วยนะครับ จากใจคนไม่มีประกัน T _ T

ปล2. เพื่อนๆรักษาสุขภาพให้แข็งแรงนะครับ อย่าเครียดมาก อย่านอนดึก อย่าโหมงานบ้างาน เลือกอาหารการกินให้ดีๆ จะได้ไม่ต้องมาทรมานแบบผมนะครับ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : Somros MD Phonglamai

หมอสมรส เผย ป่วยมะเร็งรอบ 3 หนักหนาและสาหัสมาก เหลือเวลาอีกแค่ 2 ปี 

logoline