จากกรณีเกิดเหตุการณ์เครื่องยนต์เครื่องบินระเบิดกลางอากาศ ก่อนที่กัปตันจะตัดสินใจนำเครื่องวนกลับมาสนามบินดอนเมือง และลงจอดด้วยความปลอดภัยนั้น
ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Ana Lar" ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์สุดระทึกที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินลำดังกล่าวว่า ความรักพาเรามาเจอกัน และ มีประสบการณ์ร่วมกัน
ทริปไปงานแต่งที่พะเยา โดยไปลงเชียงราย กับเพื่อนหนิงและเพื่อนปู และ เพื่อนๆ ใหม่ เป็นช่วงเวลาระทึก ช่วงเวลา 1 ชั่วโมง ระหว่างความเป็นความตาย
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 24 พฤศจิกายน ขณะที่เครื่องขึ้น เรารู้สึกได้ว่ามันแปลกไปจากทุกที เพราะเครื่องที่สั่นขึ้นเรื่อยๆ เสียงที่ดังแปลกๆ ทั้งกระตุกและทำให้ทุกคนบนเครื่องอึดอัด จนกระทั่งแอร์และสจ๊วตวิ่งกันไปมาจ้าละหวั่น เช็กว่ามีความผิดปกติอะไร
อีกทั้งประกาศยืนยันจากนักบิน พวกเราได้แต่มองหน้ากัน และภาวนาว่า ขอให้แค่เราเข้าใจผิด แต่แล้วเรื่องที่ทุกคนคิดไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นจริง เพราะประกาศยืนยันจากทางกัปตันว่า กำลังตรวจสอบไฟลุก ไฟแลบ เสียงระเบิด มาอย่างกะเอฟเฟค Hollywood
ทางกัปตันเองได้ออกมาประกาศว่า เราจะต้องบินกลับดอนเมืองเนื่องจากมีความผิดพลาดทางเทคนิค บินกลับดอนเมืองแบบหน้าเครื่องเชิด และ เราต้องบินวนรอเพื่อจะหาคิวลงที่ดอนเมืองอีกครั้ง
เมื่อเครื่องลงถึงพื้น ทุกคนต่างปรบมือ และ ชื่นชมในการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและฉับไวเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ไม่แปลกแยกความต่างของเชื้อชาติ กัปตันได้ออกมาขอโทษและอธิบายอย่างละเอียดด้วยตัวท่านเองว่า เกิดอะไรขึ้นอย่างสุภาพชน พูดอย่าง gentleman และ ไม่มี ego เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ทำอะไรบ้าง ตัดสินยังไง
ตัวฉันเองสามารถพูดได้เต็มปากว่า ที่รอดชีวิตมาครั้งนี้ คือจากการตัดสินใจของกัปตันค่ะ เสียดายไม่ทราบชื่อท่านค่ะ รอดชีวิตมาแบบหวุดหวิดเพราะขนาดกัปตันยังสั่นสู้
มันสอนให้เรารู้ว่า แค่เพียงเสี้ยววินาที คุณจะเสียใจไปตลอดชีวิตเพียงแค่ผลัดมันไปเพราะความแน่นอนใจว่า เราจะเจอกันอีกครั้งหน้า มันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิด แต่มันไม่ใช่ความแน่นอนที่จะสามารถยืนยันได้ว่า คุณจะเจอคนคนนั้นอีกครั้งในคราวถัดไป ถ้าคุณยังไม่ได้ทำอะไร และติดค้างมันอยู่ อย่าให้คำว่าพรุ่งนี้ฉุดคุณไว้ ให้เสียใจภายหลัง
คำแนะนำจากเราผู้ประสบภัยจากสายการบินหนึ่ง