พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า
บริเวณความกดอากาศสูง หรือ มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้งแล้ง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ออกประกาศ 20 พฤศจิกายน 2566
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย
18:00 น. วันนี้ ถึง 18:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคกลาง
ภาคตะวันออก
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
กรุงเทพและปริมณฑล
ออกประกาศ 20 พฤศจิกายน 2566
พยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม.:(นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 20-29 พ.ย.66 อัพเดท 2023111812 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) :
มาแล้วอากาศเย็นถึงหนาว
อากาศเริ่มอุ่นขึ้น เนื่องจากมวลอากาศเย็นหรือความกดอากาศสูงกำลังแรงยังแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย แต่เริ่มอ่อนลง ทำให้ลมหนาวที่พัดปกคลุมยังมีกำลังปานกลาง บริเวณประเทศไทยตอนบนฝนน้อย กลางวันอาจจะเริ่มร้อนขึ้น ส่วนอุณหภูมิตอนเช้าอากาศเย็นถึงหนาว และหนาวจัดบริเวณยอดภูยอดดอย ภาคเหนือภาคอีสาน อูณหภูมิต่ำสุดพื้นราบ 17 - 19 ซ. ภาคกลางภาคตะวันออก 21 - 22 ซ.. ส่วน กทม.และปริมณฑล ตำ่สุด 21 -23 ซ. ท้องฟ้าโปร่ง.และมีลมแรงบางเวลา ต้องระวังรักษาสุขภาพช่วงที่อากาศหนาวเย็นลง อากาศแห้งระมัดระวังอัคคีภัยไว้ด้วย ช่วง 26-27 พ.ย.66 ภาคอีสาน ภาคตะวันออก อาจจะมีฝนเกิดขึ้นได้บ้าง จากกระแสลมตะวันออกที่พัดปกคลุม
ส่วนภาคใต้ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีลงไป ยังต้องระวังฝนตกหนักต่อเนื่อง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมแรงขึ้น เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลนำเข้าใหม่ ภายใต้เงื่อนไขของปีที่เกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ ซึ่งทำให้สภาวะฝนและพายุเปลี่ยนแปลงไป ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ)
ขณะนี้ ประเทศไทย เป็นช่วงฤดูหนาว อากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง และจากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ว่าในช่วงนี้อุณหภูมิลดลง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สวมเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นร่างกายอยู่เสมอ
หากเลือกซื้อเสื้อกันหนาวมาสวมใส่โดยเฉพาะเสื้อกันหนาวมือสอง ซึ่งอาจมีเชื้อโรคหรือพาหะนำโรคติดมากับเสื้อผ้า หากไม่ทำความสะอาดก่อน อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้สวมใส่ได้ เช่น โรคกลากเกลื้อนจากเชื้อรา โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังจากพาหะนำโรค อาทิ ตัวไร ตัวเรือด เห็บ หมัด และโลน เป็นต้
สำหรับหน้าหนาวนี้ กรมควบคุมโรค ขอแนะนำ 6 วิธีปฏิบัติตน ดังนี้
1.ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มเครื่องดื่มที่สามารถให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื่นของผิวหนัง
2.เตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้พร้อมและทำความสะอาดเสื้อผ้าหรือผ้าห่ม โดยเฉพาะเสื้อผ้ามือสองให้แช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือต้ม เพื่อป้องกันโรคผิวหนัง
3.งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในช่วงภาวะอากาศหนาว เนื่องจากเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสริมที่สำคัญทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้และไม่ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น
4.ระมัดระวังและสังเกตอาการผู้ป่วยที่กินยาบางชนิด เช่น ยากล่อมประสาท ยารักษาอาการชัก และอื่นๆ ที่มีผลทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง
5.ในช่วงอากาศหนาวอาจทำให้เกิดโรคติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ ขอให้ยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ปิดคือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย ล้างคือ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่เมื่อสัมผัสสิ่งของสงสัย เลี่ยงคือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หยุดคือ เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด ส่วนโรคติดต่อทางอาหารและน้ำที่ต้องระมัดระวังคือ โรคอุจจาระร่วง ในช่วงฤดูหนาวจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคอุจจาระร่วง โดยขอให้ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ”
6.หมั่นดูแลรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ และอาศัยอยู่ในที่อบอุ่นสามารถป้องกันลมหนาวอย่างเหมาะสม
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า
มีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปรับลมหนาวตามภูเขาและยอดดอยต่างๆ เมื่อเข้าไปใช้บริการตามแหล่งที่พักหรือเต็นท์ ควรสังเกตในเรื่องความสะอาดที่พัก หากเป็นเต็นท์ก็ควรสังเกตว่ามีเชื้อราหรือไม่ เนื่องจากอากาศเย็นจัดและมีความชื้นสูง อาจทำให้มีเชื้อราขึ้นได้ง่าย และที่สำคัญควรดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเพิ่มการดูแลและระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ กลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะกลุ่มดังกล่าวนี้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่าย หากป่วยจะมีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ