"อ.เจษฎา" จัดให้แล้ว พร้อมรับคำท้า พิสูจน์บั้งไฟพญานาคปีหน้า
"อ.เจษฎา" หรือ ศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...
ผมชอบไอเดียวิธีการพิสูจน์ "บั้งไฟพญานาค" ของเค้านะ แต่ไม่ต้องวางเดิมพันเงินรางวัลอะไรกันหรอกครับ (ผมข้าราชการขั้นผู้น้อย ไม่มีเงินไปวางกับท่านคหบดี บุญมา เค้าด้วย)
จับตา ส่องโพสต์ล่าสุด เมื่อ 28 นาทีที่ผ่านมา
แค่ปีหน้า ท้องถิ่นมาช่วยกันจัดพิสูจน์เป็นเรื่องเป็นราว เชิญกองทัพสื่อทุกช่อง และผู้สนใจ ไปตั้งกล้องถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ กันเยอะๆ ดีกว่า
ผมว่า ถ้าไปบึงกาฬอาจจะไม่ค่อยเห็น ก็เลือกเอาที่จุดไหนที่ลูกไฟขึ้นเยอะๆ ให้ชัวร์ๆ ว่าไปแล้วน่าจะได้เจอ (เช่น ที่ลานพญานาค รัตนวาปี) แบ่งครึ่งหนึ่งถ่ายฝั่งไทย อีกครึ่งข้ามไปถ่ายฝั่งลาว เอาโดรนบินตรงกลางขึ้นฟ้าไปด้วย เริ่มจัดซักปี 2 ปี ก็น่าจะได้ข้อมูล "ทางวิทยาศาสตร์" ให้ไปศึกษาต่อกันได้อีกเยอะครับ
ป.ล. ปีหน้า โทรมานัด ที่ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ได้นะครับ
ย้อนอ่านโพสต์เดือด สนั่นโซเชียลในห้วงเวลานี้!!
หลังจากที่ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความคิดเห็น ระบุว่า
“จะพูดเรื่องบั้งไฟพญานาคทุกปี จนกว่าคนจะเลิกอ้างเรื่อง ลูกแก๊สติดไฟพุ่งขึ้นฟ้าจากน้ำ (ซึ่งไม่จริง)”
ก่อนหน้านี้ อ.เจษฎา แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ว่า หลายครั้ง ที่ “บั้งไฟพญานาค” ไม่ได้เกิดขึ้นในคืนที่จันทร์เต็มดวงที่สุด (15 ค่ำ เดือน 11) แต่กลับเกิดขึ้นในคืนหลังจากนั้น … ซึ่งมีแต่เพียงมนุษย์เท่านั้น ที่ทราบว่า วันออกพรรษาที่กำหนดขึ้นนั้น จะเป็นวันที่เท่าไหร่กันแน่
ดังนั้นถ้ามันเกิดขึ้นเฉพาะใน “วันออกพรรษาที่มนุษย์กำหนด” มันก็น่าจะมาจากเงื้อมมือของมนุษย์อย่างแน่นอน
เดือด!! สุดปังไปทั้งฟีด
ต่อมาทางด้าน นายบุญมา พันดวง คหบดีคนดังในบึงกาฬ ได้โพสต์ว่า
"ขอท้า ดร.เจษฎา มาพิสูจน์ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ กรณีเกิดบั้งไฟพญานาคในวันออกพรรษา ที่ท่านบอกว่าเป็นการยิงกระสุนส่องสว่างจากอาวุธปืนเอสเคจากฝั่งลาวขึ้นฟ้า ทำให้คนไทยเชื่อว่าเป็น “บั้งไฟพญานาค” ตามความเชื่อของคนไทยและลาวริมฝั่งโขง
ไม่ต้องไปจับคนลาวที่ยิงปืนมาพิสูจน์ให้คนไทยดูก็ได้หรอก แต่ให้มานั่งดูที่ริมฝั่งโขงในเขต อ.ปากคาด ด้วยกัน โดยเชิญสื่อมวลชนส่วนกลางมาบันทึกภาพเป็นสักขีพยานด้วย เก็บภาพทุกมุม ทั้งยิงกล้องมาทางฝั่งลาวด้วย ขอร้องประชาชนหรือนักท่องเที่ยวห้ามส่งเสียงช่วงพิสูจน์ด้วยกันทั้งฝั่งและลาว จะได้รู้ดำรู้แดงให้มันจบๆ ในยุคเรา
“ขอเดิมพัน 1 ล้านบาท ถ้าเป็นไปตามที่ ดร.เจษฎา วิเคราะห์หรือพิสูจน์มา แต่ถ้าเป็นไปตามความเชื่อของคนหนองคายและบึงกาฬ ดร.เจษฎา ต้องยอมจ่าย 1 ล้านบาท และยินดีจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางพร้อมอาหารที่พักให้ด้วย ถ้าตกลงตามคำท้า ขอโทรมาที่เบอร์ 09-8096-7105” นายบุญมา ระบุ
ขณะที่ อ.เจษฎา โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงประเด็นร้อนๆ โดยระบุว่า
ผมชอบไอเดียวิธีการพิสูจน์ “บั้งไฟพญานาค” ของเค้านะ แต่ไม่ต้องวางเดิมพันเงินรางวัลอะไรกันหรอกครับ (ผมข้าราชการขั้นผู้น้อย ไม่มีเงินไปวางกับท่านคหบดี บุญมา เค้าด้วย)
แค่ปีหน้า ท้องถิ่นมาช่วยกันจัดพิสูจน์เป็นเรื่องเป็นราว เชิญกองทัพสื่อทุกช่อง และผู้สนใจ ไปตั้งกล้องถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ กันเยอะๆ ดีกว่า
ผมว่า ถ้าไปบึงกาฬอาจจะไม่ค่อยเห็น ก็เลือกเอาที่จุดไหนที่ลูกไฟขึ้นเยอะๆ ให้ชัวร์ๆ ว่าไปแล้วน่าจะได้เจอ (เช่น ที่ลานพญานาค รัตนวาปี) แบ่งครึ่งหนึ่งถ่ายฝั่งไทย อีกครึ่งข้ามไปถ่ายฝั่งลาว เอาโดรนบินตรงกลางขึ้นฟ้าไปด้วย เริ่มจัดซักปี 2 ปี ก็น่าจะได้ข้อมูล “ทางวิทยาศาสตร์” ให้ไปศึกษาต่อกันได้อีกเยอะครับ
ย้อนดูรายการจำนวนยอด บั้งไฟพญานาคที่ได้รายงานเผยแพร่เอาไว้ ในปี 2566 ระบุไว้ดังนี้
คงเกาะติดประเด็นร้อนกันต่อไป ว่าสุดท้ายจะลงเอยเช่นไร ตั้งแท็กรอเลย #บั้งไฟพญานาค2567
ขอขอบคุณที่มา : Jessada Denduangboripant (อาจารย์เจษฎ์)