สธ. แจง 14 ปีก่อเหตุ"พารากอน" รักษา"รพ.เด็ก" ส่งจิตแพทย์ดูแลผู้รับผลกระทบ

4 ตุลาคม 2566 จากเหตุการณ์กราดยิง "สยามพารากอน" โดยชายผู้ก่อเหตุอายุ 14 ปี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 5 ราย ขณะที่มีรายงานว่ามีประวัติรักษาอาการทางจิตเวช ที่ รพ.ราชวิถี แต่ขาดยา ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับการรักษาตัวที่ โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน

ล่าสุด นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)เปิดเผยว่า ชายอายุ 14 ปี ผู้ก่อเหตุรักษาตัวที่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หรือ รพ.เด็ก ซึ่งรักษามาเมื่อประมาณเกือบ 1 ปี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ก่อนหน้านี้อาจมีการรักษาที่อื่น อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดการรักษาได้ เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลผู้ป่วยต้องระมัดระวังในเรื่องนี้

ขณะที่ อาการของผู้ป่วย รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนคงรักษาตัวในโรงพยาบาล โดย 2 คน ยังคงอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤติ (ไอซียู) อีก 1  คนสามารถนำตัวมาพักฟื้นในห้องผู้ป่วยทั่วไปได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม การดูแลจากนี้ยังคงต้องดูแลแบบครบวงจร ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ  เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความวิตกกังวลกับผู้ประสบเหตุ  ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยอาการคนไข้มากไปกว่านี้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• "เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์" ชี้ เหตุร้ายที่พารากอน ต้องโทษพ่อ-แม่เด็ก (มีคลิป)
• ผู้ปกครองผู้ก่อเหตุ เผย ไม่ทราบว่าของกลางทั้งหมด บุตรชายนำมาจากที่ใด
• เปิดใจตำรวจชุดจับกุม เล่านาทีระงับเหตุยิงในพารากอน เผย ผู้ก่อเหตุเตรียมสู้

ขณะที่ อาการของผู้ป่วย รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนคงรักษาตัวในโรงพยาบาล โดย 2 คน ยังคงอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤติ (ไอซียู) อีก 1  คนสามารถนำตัวมาพักฟื้นในห้องผู้ป่วยทั่วไปได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม การดูแลจากนี้ยังคงต้องดูแลแบบครบวงจร ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ  เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความวิตกกังวลกับผู้ประสบเหตุ  ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยอาการคนไข้มากไปกว่านี้ได้

ด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้เข้าเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ห้างพารากอน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดจะได้รับการดูแลทั้งทางร่ายกายและจิตใจ รวมถึงการเยียวยาจิตใจครอบครัวผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย 

พร้อมทั้งได้แจ้งกับทางโรงพยาบาลว่า หากมีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือจากกรมสุขภาพจิต พร้อมให้การดูแลอย่างเต็มที่ เพราะมีทีม MCATT ที่คอยดูแลเรื่องสุขภาพจิตหลังเกิดความรุนแรงต่างๆ ซึ่งจะมีการรวบรวมตัวเลขผู้ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจเพื่อการดูแลต่อไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้กรมสุขภาพจิต จะเดินทางไปที่ห้างพารากอน เพื่อเปิดพื้นที่ดูแลเรื่องจิตใจผู้ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจจากเหตุที่เกิดขึ้น เช่น ผู้ที่อยู่ใกล้เคียง พนักงานห้างร้าน คนทำงานในห้าง

ส่วนกรณี ชายผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยจิตเวช ที่ขาดยา ทำให้เกิดภาวะหลอนแล้วไปก่อความรุนแรง นั้น พญ.อัมพร ระบุว่า ตนได้รับทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาให้ข้อมูลนี้ทางสื่อ ซึ่งเด็กอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทีมจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

ทางกรมฯ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า หากมีประเด็นทางจิตเวชที่ต้องมีการประเมิน เพื่อช่วยเหลือและรักษา ทางกรมฯ ได้เตรียมหน่วยงานรองรับไว้แล้ว และพร้อมร่วมมือกับตำรวจในการให้ข้อมูลไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเจ็บป่วย หรือเหตุเกี่ยวข้องใดๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและการดูแล

“ประเด็นที่สังคมจะได้ประโยชน์มากกว่าอาจจะไม่ใช่การสรุปว่าเด็กเจ็บป่วยหรือไม่ แต่เป็นการวิเคราะห์เหตุการณ์ว่า ไม่ว่าเด็กจะเป็นอะไรก็ตาม แต่สังคมต้องตื่นตัวกับการป้องกันความรุนแรง ไม่ว่ารายนี้จะเจ็บป่วยหรือไม่ แต่เด็กทุกคนที่เจ็บป่วยทางจิตต้องได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง ไม่ว่ารายนี้จะขาดยาหรือไม่แต่ผู้ป่วยทุกคนต้องไม่ขาดยา และต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสมจากแพทย์ พร้อมกับได้รับความร่วมมือจากครอบครัว” พญ.อัมพร ระบุ