ร่องมรสุมกำลังแรง กรมอุตุฯเตือน 39 จว. รับมือ"ฝนตกหนักมาก" พร้อมอัปเดต 3 พายุ
4 กันยายน 2566 พยากรณ์อากาศวันนี้ “ร่องมรสุมกำลังแรง” รับมือ “ฝนตกหนักถึงหนักมาก” กรมอุตุนิยมวิทยา ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ลงนามในประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 17 (242/2566) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีผลกระทบจนถึงวันที่ 6 กันยายน 2566 ระบุว่า..
ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
“ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย”
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้
วันที่ 4 กันยายน 2566
- ภาคเหนือ: จังหวัดลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม
- ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
วันที่ 5-6 กันยายน 2566
- ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร
- พิษณุโลก พิจิตรและเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
- ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย
กรมอุตุนิยมวิทยา ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่ เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ประกาศ ณ วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 05.00 น.
อัปเดตเส้นทางพายุ
เช้าวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา พายุ"เซาลา(SAOLA)" ได้อ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชัน และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ RSMC โตเกียว ไม่ได้ติดตามแล้ว
ส่วนพายุไต้ฝุ่น "ไห่ขุย (HAIKUI)" บริเวณมหาสมุทรตะวันตก กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวันวันนี้ จึงขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปจีนตอนใต้และเกาะไต้หวัน ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในระยะนี้ สำหรับพายุโซนร้อน "คีรอกี (KIROGI)" ยังอยู่ห่างมาก
พายุทั้ง 3 ลูก ไม่มีผลต่อสภาพอากาศของไทย มีใกล้เคียงหน่อยคือพายุ"เซาลา" ที่จะสลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ซึ่งอาจจะช่วยดีงร่องมรสุมกลับมาพาดผ่านบริเวณตอนบนของไทยได้ ฝนที่เกิดขึ้นในขณะนี้มาจากมรสุมและร่องมรสุม
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ระบุว่า
กรุงเทพและปริมณฑล
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
- อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคเหนือ
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
- ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ
- สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส
- ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี
- นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม
- อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร, บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส
- ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
- ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ที่มา กรมอุตุนิยทวิทยา
ออกประกาศ 04 กันยายน 2566