
31 พฤษภาคม 2566 จากกรณีพี่เลี้ยงโหด สถานสงเคราะห์สระบุรี ทำร้ายร่างกายเด็กในปกครอง ถูกผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Thanya Wannasathit" โพสต์เรื่องราวสะเทือนใจ ระบุข้อความว่า "ได้รับรู้เรื่องนี้มา ไม่นิ่งนอนใจ ที่จะหาทางตีแผ่สู่สังคม เด็กกว่า 280 ชีวิต ต้องเผชิญกับความโหดร้าย จากสังคมภายนอกมาแล้ว ยังต้องมาเจอความโหดร้ายจากผู้ดูแล ทำไมมาตรการการทำผิดต้องมีห้องมืด ฝากสื่อด้วยนะคะ ยินดีให้ข้อมูล ฝากแชร์ เพื่อเป็นสะพานบุญให้เด็กหลายร้อยชีวิตด้วยนะคะ "
กระทั่งในเวลาต่อมา นำไปสู่การควบคุมตัว "นส.อุ๊" (สงวนขื่อและนามสกุล) พี่เลี้ยงเด็ก ของสถานสงเคราะห์เด็กหญิงจังหวัดสระบุรี ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จนถูกดำเนินคดีในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 ความผิดเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพ และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุดวันนี้ (31 พ.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.กัญญาณัฐ (สงวนนามสกุล) หรือ น้องพลอย อายุ 23 ปี ที่จังหวัดเพชรบุรี หนึ่งในเหยื่อพี่เลี้ยงของสถานสงเคราะห์จังหวัดสระบุรี
น้องพลอย เปิดใจระบุว่า ตนเคยถูกพี่เลี้ยงที่ปรากฎเป็นข่าวรายนี้ ทำร้ายร่างกายเช่นกัน ทั้งการใช้รองเท้าตบหน้า เล็บจิกแขน ในขณะที่อยู่ในสถานสงเคราะห์จังหวัดสระบุรี
น้องพลอย เล่าถึงสาเหตุที่เข้าไปอยู่ในสถานสงเคราะห์สระบุรี ว่า เข้าไปอยู่ตั้งแต่อายุ 4-5 ขวบ กำลังเรียนชั้นอนุบาล ส่วนในวันเกิดเหตุเรียนอยู่ชั้น ป.6 ได้ไปเข้าแถวช้า จึงโดนพี่เลี้ยงรายนี้ใช้รองเท้าตบหน้าอย่างแรง 1 ครั้ง ขณะเกิดเหตุมีเพื่อนๆหลายคนเห็น แต่ไม่มีใครกล้าห้าม จากนั้นช่วง ม.1 และ ม.2 ก็โดนพี่เลี้ยงร้ายนี้ ทำร้ายร่างกายโดยการกระทืบอีก 3 ครั้ง ภายในห้องส่วนตัวของพี่เลี้ยงรายนี้
"ครั้งแรกไปเข้าแถวช้า ต่อมากลับเข้าโรงเรียนช้า มัวแต่ช่วยทำกิจกรรมที่โรงเรียนอยู่ พี่เลี้ยงได้เรียกเข้าไปในห้องและทำการกระทืบ โดยไม่พูดไม่จา หรือสอบถามอะไรสักคำพอ กระทืบเสร็จก็ไล่ให้กลับออกไปจากห้อง"
น้องพลอย ยังบอกอีกว่า การทำร้ายในครั้งที่ 3 เป็นเวรล้างจานตน แต่ตนได้เปลี่ยนกับเพื่อนล้างแล้ว โดยแจ้งให้พี่เลี้ยงรายนี้ทราบ แต่พี่เลี้ยงรายนี้ไม่ฟัง ก่อนเรียกตนเข้าไปในห้องลงมือกระทืบอย่างแรง
สำหรับการทำร้ายด้วยการกระทืบของพี่เลี้ยง จะเรียกเด็กเข้าไปในห้องส่วนตัว ก่อนปิดห้อง แล้วเอามือจิกผมกระชากให้ล้มลง ก่อนใช้เท้ากระทืบอย่างแรงนับสิบครั้ง
เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว เคยแจ้งพี่เลี้ยงรายอื่นๆประมาณ 3-4 คนแล้ว แต่เรื่องก็เงียบ และไม่มีเพื่อนๆแสดงตัวออกมาช่วยใครเพราะกลัวกันหมด จากนั้นจึงตัดสินใจพยายามหลบหนีออกจากสถานสงเคราะห์ จำนวน 4 ครั้ง เพราะความกลัวว่าอยู่ต่ออาจจะโดนทำร้ายอีก แต่ก็ไม่สามารถหนีออกมาได้สักครั้ง
ส่วนวิธีการจับขังห้องมืดนั้น น้องพลอย กล่าวว่า พี่เลี้ยงรายนี้จะนำเด็กเข้าไปขังในห้องมืดๆที่มีแค่ประตูเข้า-ออกแค่บานเดียว ไม่มีหน้าต่าง ขังไว้นานสุดประมาณ 1 วัน พี่เลี้ยงรายนี้มีพฤติกรรมโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยพูดคุยกับใครจะนั่งเล่นโทรศัพท์คนเดียว ซึ่งเหตุการณ์ที่ตนเจอมาตนอยากให้พี่เลี้ยงรายนี้ออกไปจากโรงเรียน เพื่อเด็กๆจะได้ไม่ต้องกลัวและหวาดระแวงอีก และมีสมาธิตั้งใจเรียน และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ซึ่งในระหว่างที่ตนอยู่สถานสงเคราะห์ก็รู้สึกเก็บกดหวาดระแวง
ส่วนทางด้านคดีตนอยากจะดำเนินคดีกับครูพี่เลี้ยงรายนี้ให้ถึงที่สุด ในข้อหาทำร้ายทารุณเด็ก หรือพยายามฆ่า อีกครั้งตนเคยเห็นพี่เลี้ยงรายนี้ใช้มีดและคีมออกมาข่มขู่เด็กๆว่าจะเอาคีมบีบปาก เอามีดตัดลิ้นให้พิการ จึงอยากดำเนินคดีกับพี้เลี้ยงรายนี้ให้ถึงที่สุดเพื่อให้เด็กๆที่ยังอยู่ได้กลับมาร่าเริงอีกครั้ง