เลิกจ้างพี่เลี้ยง-สั่งเด้งผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ฯ เซ่นพิษข่าว "ทารุณเด็ก"
เตรียมดำเนินคดี-เลิกจ้าง "พี่เลี้ยง" สถานสงเคราะห์ ตั้งกฎลงโทษเด็กเอง ส่วนผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ฯ โดนย้ายเข้าส่วนกลาง เซ่นพิษข่าวทารุณเด็ก ขณะที่พยาน เล่า เคยอาศัยอยู่ 3 ปี มีการลงโทษรุนแรงจริง
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์รูปภาพเด็กหญิงถูกปิดปาก มัดมือ มัดเท้า นั่งอยู่บนชักโครก ในห้องน้ำ และภาพเด็กหญิงนอนเรียงกัน 3 คน อยู่ในห้องอาบน้ำ สถานสงเคราะห์แห่งหนึ่ง จ.สระบุรี พร้อมระบุข้อความ ว่า เด็กกว่า 280 ชีวิต เผชิญกับความโหดร้ายจากสังคมภายนอกมาแล้ว ยังต้องมาเจอความโหดร้ายจากผู้ดูแล คนทำผิดโดนสั่งเข้าห้องมืด บางคนถูกเอาไปแช่ในท่อน้ำทิ้ง เด็กบางคนโดนจับโกนผม สร้างความอับอาย ขณะที่ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ฯ ชี้แจง เป็นเหตุการณ์รุ่นพี่กระทำต่อรุ่นน้อง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
30 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (29 พฤษภาคม) เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ , เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, เจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการ และ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี โดยเจ้าหน้าที่มีการประชุมร่วมกันกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะลงพื้นที่ไปดูสถานที่ตามคำบอกเล่าของพยาน ที่เด็กถูกบังคับทารุณกรรม ให้ลงไปแช่ในท่อระบายน้ำทิ้ง
เบื้องต้นพี่เลี้ยงเด็กยอมรับผิด มีการตั้งกฎระเบียบขึ้นมาลงโทษเอง ซึ่งผู้ดูแลคนดังกล่าว จะต้องถูกดำเนินคดีตามความผิดเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพ เเละ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
นางเตือนใจ คงสมบัติ รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางกระทรวงเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่จะเห็นได้ว่าจากกรณีนี้มีทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง เด็กต้องได้รับความปลอดภัยโดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ เมื่อเกิดเหตุอย่างแรกเด็กต้องได้รับความปลอดภัย ดูแลเด็กให้ได้รับสวัสดิภาพดูแลเรื่องสภาพจิตใจ
ด้าน พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการเลิกจ้างพี่เลี้ยงประจำบ้านทานตะวันเเล้ว เเละ สั่งโยกย้ายนางธนภร สุเทศ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ ให้เข้าไปยังส่วนกลาง พร้อมขอบคุณผู้ที่เเจ้งขอมูลเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นการช่วยตรวจสอบสังคม
เจ้าหน้าที่มูลนิธิวินวิน โทรศัพท์ไปพูดคุยกับน้องละมุด (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ตนเองเคยอาศัยอยู่ที่สถานสงเคราะห์ดังกล่าวตั้งแต่อายุ10-13 ปี ปัจจุบันตนเองอายุ 21 ปีแล้ว สำหรับประสบการณ์ที่เคยอยู่ในสถานสงเคราะห์ดังกล่าว เคยเห็นเหตุการณ์การพี้เลี้ยงลงโทษเด็ก ป.4 ด้วยการกระทืบ สาเหตุเกิดจากเด็กคนดังกล่าวแอบใส่เสื้อชั้นใน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นเด็กในหอพักไม่มีใครกล้าฟ้องผู้ใหญ่
นอกจากนี้ยังมีการลงโทษเด็กหลายวิธี ซึ่งการลงโทษนั้นจะมีหลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ตักเตือน ไปจนถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนเคยเห็นแม่บ้านลงโทษเด็กด้วยการตบหน้า ก็ไม่ทราบว่าเด็กที่โดนลงโทษนั้นทำผิดเรื่องอะไร แต่ได้ยินแม่บ้านพูดกับเด็กว่า "มึXอ่อยผัวXหรอ" ซึ่งแม่บ้านคนดังกล่าวนั้นมีสามีทำงานอยู่ในสถานสงเคราะห์ด้วยกัน
ด้าน อดีตเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ตนเองเคยปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในสถานสงเคราะห์ ตั้งเเต่ปี 2520 ก่อนจะเกษียณอายุราชการ เมื่อปี 2555 รวมระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ 35 ปี บรรยากาศการทำงานในช่วงนั้นดีมาก เจ้าหน้าที่ทุกคนที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลเด็ก จะต้องผ่านการอบรมและมีการตรวจสุขภาพจิตจากนักจิตวิทยาเป็นประจำทุกปี ซึ่งการดูแลเด็กจะไม่มีการลงโทษโดยการทำร้ายร่างกาย หรือทารุณกรรมเด็ก
ส่วนตัวก็ยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และ ไม่ควรฟังความข้างเดียว เพราะเด็กที่อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์ มีที่มาและนิสัยแตกต่างกัน แต่ถ้าหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็รู้สึกหดหู่ เพราะมองว่าคนที่จะมาดูแลเด็กนั้น ควรจะต้องมีความรัก มีความเมตตา เเละมีจิตวิทยากับเด็ก