svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิดตำนาน 5 พระเครื่องของขลังคู่กายขุนพันธ์ พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

14 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชวนคอข่าวสายมู ย้อนตำนานแห่งความเชื่อ ร่วมส่องของขลังคู่กายมือปราบจอมขมังเวท "ขุนพันธ์" พกติดตัวออกไปปราบผู้ร้ายตลอด เชื่อช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย

เปิดตำนาน 5 พระเครื่องของขลังคู่กายขุนพันธ์ พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

ย้อนตำนานความเชื่อ ของขลังคู่กาย "ขุนพันธ์" มือปราบจอมขมังเวท ที่บรรดาโจรผู้ร้ายได้ยินเชื่อก็พากันเกรงกลัว โดยมีข้อมูลว่าของขลังคู่กาย "ขุนพันธ์" ที่มักพกติดตัวไปปราบโจรอยู่เสมอนั้นมีอยู่ 5 อย่างด้วยกัน เชื่อว่าช่วยป้องกันภัย พุทธคุณแคล้วคลาด

"ขุนพันธ์" มือปราบจอมขมังเวท

ชวนคอข่าวสายมู ร่วมส่อง ของขลังคู่กายมือปราบจอมขมังเวท "ขุนพันธ์" พกติดตัวออกไปปราบผู้ร้ายตลอด เชื่อช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย ตามตำนานมีอยู่ด้วยกัน 5 อย่าง

สำหรับ "ขุนพันธ์" พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) อดีตนายตำรวจชื่อดังของวงการตำรวจไทย ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอันมากในการปราบโจรร้ายในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทย ในภาคกลางเช่น เสือฝ้าย เสือย่อง เสือผ่อน เสือครึ้ม เสือปลั่ง เสือใบ เสืออ้วน เสือไหว เสือมเหศวร ที่พัทลุง ปราบ เสือสังหรือเสือพุ่ม ที่นราธิวาส ปราบผู้ร้ายทางการเมือง ในปี พ.ศ. ๒๔๘๑ หัวหน้าโจรชื่อ "อะเวสะดอตาเละ" จนท่านได้ฉายาจากชาวไทยมุสลิมว่า "รายอกะจิ" ซึ่งแปลว่า "อัศวินพริกขี้หนู"

 "ขุนพันธ์" พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์)

ตามตำนานเล่าขานกันมา ยกเว้นเพียงคนเดียวที่ขุนพันธรักษ์ราชเดช ไม่ได้ทำการจับกุม แต่แลกกับอิสระภาพนั้นคือ เสือดำ โดยใช้ศพลูกน้องของเสือดำเองเสียสละชีพว่าเสือดำถูกฆ่าแล้ว ภายหลังจึงทราบว่า ตัวตนเสือดำยังมีชีวิตอยู่ โดย เสือไบ เสือมเหศวร ได้พบเจอกันช่วงอายุมากแล้ว และเสือดำได้ออกรายการในที่สุด คือบุคคลเดียวที่ ขุนพันธรักษ์ราชเดช ยอมเสี่ยงทำผิดกฏหมาย แต่คดีไม่มีใครทราบความจริงสุดท้ายจึงหมดอายุความลง

ขุนพันธรักษ์ราชเดช ในช่วงที่ออกไล่จับโจรผู้ร้ายทั่วประเทศ โดยได้มีคำกล่าวของท่านว่า "ในการเลือกพระเครื่องนั้นเราต้องดูว่าอาจารย์ที่ทำพิธีปลุกเสกนั้นมีความเก่งกล้าในทางไสยเวทย์หรือไม่นอกจากอักขระเลขยันต์ที่ได้รับการประสิทธิ์จากครูบาอาจารย์เเละยังมีวิชาต่างที่ได้ที่ได้รำเรียนจากสำนักเขาอ้อ ไม่ว่าจะ คาถาเวทมนต์ สักยันต์ เเช่ว่านลงยากินเหนียวกินมันตามตำหรับเขาอ้อ"

 "ขุนพันธ์" พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์)

ซึ่งพระคู่กายของขุนพันธ์ในอดีตมี ๕ องค์ที่ใช้ห้อยคอตลอดเวลาที่ออกไปปฎิบัติหน้าที่ก็คือ

๑. พระปรุหนังอยุธายา

พระเครื่องประเภทประณีตศิลป์ ซึ่งกำเนิดเมื่อประมาณสมัยอยุธยายุคต้น เป็นพระศิลป์อยุธยาบริสุทธิ์ที่งดงาม ยากจะหาพระพิมพ์ใดเสมอเหมือน พระเครื่องพิมพ์นี้สร้างด้วยฝีมือสกุลช่างชั้นครูแห่งอยุธยา ได้ออกแบบให้แบบพิมพ์ของพระพิมพ์นี้ แหวกม่านกลิ่นไอเมืองแห่งการทำสงครามออกมาได้อย่างอลังการเป็นเลิศ เหนือพระเครื่องเนื้อชินของอยุธยาทั้งหมด ที่มีชื่อว่า พระปรุหนัง เพราะลักษณะของเนื้อหาองค์พระที่ปรากฏ ช่างยุคนั้นออกแบบการเทหล่อเนื้อพระ ต้องการเทหล่อแบบให้องค์พระบาง เพื่อให้องค์พระที่ได้ มีพิมพ์พระที่เจาะโปร่ง ทะลุแบบมีลวดลายฉลุ จนดูคล้ายแผ่น หนังตะลุง หรือคล้ายกับแผ่น หนังใหญ่ ที่ใช้เชิดทำการแสดงในสมัยก่อน พระบางองค์เป็นไปได้ว่า ขณะเทหล่อมีเนื้อมวลสารมากกว่า พระที่เทจึงมีความหนากว่าพระทั่วไป ทำให้องค์พระตัน ไม่ทะลุเจาะโปร่งแบบมีลวดลายฉลุ

เปิดกรุ 5 พระเครื่อง ของขลังคู่กาย "ขุนพันธ์" พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

๒. หลวงปู่ทวด วัดช้างให้

"แขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วไม่ตายโหง" คือคำกล่าวของ พระครูวิสัยโสภณ "ทิม ธัมมธโร" เมื่อครั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดช้างให้ โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยท่านกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2497 กว่าครึ่งศตวรรษ คำกล่าวนี้ยังคงจารึกในศรัทธา ซึ่งมีคติความเชื่อสืบกันต่อมาว่า "อานุภาพแห่งพระคาถานี้ ประมาณมิได้เลย ภาวนาก่อนออกเดินทาง เป็นแคล้วคลาดปลอดภัย ภัยอันตรายไม่กล้ำกลาย"

เปิดกรุ 5 พระเครื่อง ของขลังคู่กาย "ขุนพันธ์" พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

๓. พระปิดตาหลวงพ่อทับ วัดทอง

มีพุทธคุณและพุทธศิลป์เป็นเลิศ เรียกได้ว่า "เป็นที่นิยมแสวงหาควบคู่กันมากับพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เลยทีเดียว" และยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน "เบญจภาคีเนื้อโลหะ" อีกด้วยการกำหนดเลขยันต์ที่จะบรรจุลงบนพระนั้น ท่านจะเลือกอักขระที่เหมาะสม มีความหมาย มีอำนาจแห่งพุทธาคม บรรจุลงตามส่วนต่างๆ ขององค์พระ เว้นช่องไฟได้เหมาะเจาะสวยงาม

เปิดกรุ 5 พระเครื่อง ของขลังคู่กาย "ขุนพันธ์" พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

๔. พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า

ต้นตำรับ พระเล็กจิ๋วแต่แจ๋ว ด้วยพุทธคุณด้านมหาอุด คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งอาจารย์ยุคโบราณได้สร้างไว้โดยเน้นความเล็กจิ๋ว เพื่อสะดวกในการพกพา หรือซ่อนไว้ในตัวอย่างมิดชิด ยามที่ต้องออกรบในศึกสงคราม

เปิดกรุ 5 พระเครื่อง ของขลังคู่กาย "ขุนพันธ์" พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

๕. ตะกรุดของพระคูกาชาด พ่อท่านย่อง วัดวังตะวันตก

พ่อท่านย่อง เป็นพระสมัยอยุธยา ธรบุรี และ รัตนโกสินทร์ ตอนต้น ตามตำนานเล่าว่าท่านเป็นพระครู มากอาคม เป็นเกจิชื่อดัง ที่พระเจ้าตากสินทร์มหาราช เคารพนับถือยิ่ง ทั้งยังสร้าง กุฏิกลิ่นสตอ ซึ่งถือเป็นสิ่งมหัสจรรย์สิ่งหนึ่งในประเทศไทย เพราะ ไม่ว่าผ่านไปกี่ร้อยปี ก็ยังคงมีกลิ่น สตออยู่ตลอดเวลา ตะกรุดของพระคูกาชาด ของพ่อท่านย่อง ถือว่ามีพุทธคุณ มากล้น แคล้วคลาดปลอดภัย ที่สำคัญเลยคือหายากยิ่ง

 

เปิดกรุ 5 พระเครื่อง ของขลังคู่กาย "ขุนพันธ์" พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

ขณะที่โลกออนไลน์ ก็มีดรามาเกี่ยวกับประเด็นหนังที่ลดโรงฉายลง!!

ก่อนหน้านี้ทางสมาคมผู้กำกับฯ ออกมาขอปกป้องคนทำหนังไทย หลังจากหนัง ขุนพันธ์ 3 มีดราม่าถูกตัดโอกาสฉาย เพราะหนัง ทิดน้อย ไปเบียดพื้นที่การฉาย แต่แม้จะโดนตัดโอกาส ตารางรายได้ล่าสุดมีแววว่า ขุนพันธ์ 3 มีสิทธิ์ทำรายได้พุ่ง 100 ล้านแบบไม่ไกลเกินเอื้อม

ดราม่าถูกตัดโอกาสฉาย แต่ ‘ขุนพันธ์ 3’ รายได้พุ่ง 100 ล้านไม่ไกลเกินเอื้อม

-โซเชียลวิจารณ์ถึงโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ มีการลดราคาค่าตั๋วของหนังเรื่อง ทิดน้อย ทั้งยังจัดรอบและจำนวนโรงฉายที่เยอะกว่า ทั้งๆ ที่ ทิดน้อย เข้าฉายมาตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. 2566 แล้ว ทำเอาหลายคนรู้สึกว่า หนัง ทิดน้อย ไปเบียดพื้นที่การฉายของหนังเรื่องใหม่อย่าง ขุนพันธ์ 3 ที่เพิ่งออกฉายขณะนี้

 

-จาก ดราม่า ดังกล่าว ก็ทำเอาสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ได้ส่งจดหมายเปิดผนึก ในเรื่องความไม่เป็นธรรมของการฉายหนังไทย โดยระบุว่า 


"จดหมายเปิดผนึก เรื่อง การจัดโรงและรอบฉายภาพยนตร์ไทย ที่ไม่เป็นธรรม

สืบเนื่องจากมีประเด็นการจัดโรงและรอบฉายภาพยนตร์ไทยหลายครั้ง ล่าสุดคือเรื่อง ขุนพันธ์ 3 โดยปัญหาการจัดโรงและรอบฉายที่ไม่เป็นธรรม ตัดโอกาสของภาพยนตร์ไทย เป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นเรื่อยมา เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางในหมู่คนทำงานในวงการภาพยนตร์ไทย

เมื่อการสร้างภาพยนตร์ไม่อาจเป็นหลักประกันได้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนั้นจะมีโรงและรอบฉายที่มาก เหมาะสมสำหรับการสร้างรายได้ให้กับภาพยนตร์ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้สร้างจำนวนมาก ไม่กล้าลงทุนในภาพยนตร์คุณภาพที่มีเนื้อหาหลากหลาย จนเป็นเหตุให้ผู้ชมจำนวนมาก รู้สึกเสื่อมศรัทธากับภาพยนตร์ไทย เพราะมีเนื้อหาที่ซ้ำซาก ไร้การพัฒนาแต่ในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องที่มีเนื้อหาแปลกใหม่ มีคุณภาพ กลับได้รับการจัดโรงและรอบที่น้อยจนหมดโอกาสในการสร้างผู้ชมและรายได้

เปิดตำนาน 5 พระเครื่องของขลังคู่กายขุนพันธ์ พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

ทาง สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ในฐานะคนทำหนัง ขอแสดงจุดยืนในการปกป้องผู้กำกับภาพยนตร์และคนทำงานที่ควรได้รับโอกาสในการเผยแพร่ผลงานอย่างเป็นธรรม ดังนี้

1. ขอให้สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจาต่อรอง หรือจัดสรรรอบฉายของภาพยนตร์ไทยให้เกิดความเป็นธรรม และเป็นไปเพื่อนำเสนอภาพยนตร์ไทยคุณภาพออกสู่สายตาผู้ชม สร้างความหลากหลายในการชมภาพยนตร์ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ชม และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาวงการภาพยนตร์ไทยในระยะยาว

2. ขอให้สื่อมวลชนนำเสนอประเด็นปัญหานี้ ให้ผู้ชมได้รับรู้และเข้าใจถึงปัญหาในวงการภาพยนตร์ไทย อันจะนำไปสู่การสนับสนุนให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ขอเรียกร้องให้หนังไทยทุกเรื่องมีพื้นที่ฉายอย่างสมศักดิ์ศรี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเกิดการแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายในวิกฤตการณ์ครั้งนี้"

 

-ต่อมา ทางด้าน โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ ผู้กำกับหนังเรื่อง ขุนพันธ์ 3 ก็มีความเคลื่อนไหวถึงเรื่องนี้เช่นกัน โดยได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า "รู้สึกเป็นเกียรติไหมครับ รู้สึกชนะหรือเปล่า ภูมิใจใช่ไหม เล่าให้ญาติหรือคนที่รักฟังแล้วรู้สึกดีจริงไหม เกมนี้มันห่วยและสะเหล่อมากในฐานะคนทำหนัง ผมเสียใจและอายแทนพวกคุณจริงๆ เราเดินลงจากเวทีคนละความรู้สึกแน่ๆ ขอยกวงการนี้ให้พวกคุณไปเลยครับ เดินหน้าก็ยากจะทำให้ถอยหลังทำไม อย่าอ้างเกมธุรกิจ #RIPหนังไทย"

เปิดตำนาน 5 พระเครื่องของขลังคู่กายขุนพันธ์ พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

-จากนั้นในโซเชียล ยังมีการแชร์ภาพโปสเตอร์ภาพยนตร์ ขุนพันธ์ 3 ที่ถูกภาพโปสเตอร์ ทิดน้อย แปะทับไว้ โดยนักแสดงอย่าง ยะสะกะ ไชยสร เป็นผู้นำภาพดังกล่าวมาเผยแพร่ พร้อมระบุว่า ‘แหม่ ทิด จะอะไรกับท่านขุนนักหนา 5555 ขนาดนี้กันเชียว’ มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ‘จงใจเกินไปครับเเบบนี้ ไม่รู้ทางโรงทำเองหรือเป็นคำสั่งจากส่วนกลาง เเบบนี้ ไม่ไหวครับ’ ซึ่ง ยะสะกะ ไชยสร ได้เข้ามาตอบกลับว่า ‘น่าเกลียด เกินไปครับ’

เปิดตำนาน 5 พระเครื่องของขลังคู่กายขุนพันธ์ พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

เปิดตำนาน 5 พระเครื่องของขลังคู่กายขุนพันธ์ พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

-ล่าสุดวันนี้ 8 มีนาคม 2566 มีการรายงานรายได้จากโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ทุกสาขาทั่วประเทศ และรายได้ประมาณการณ์จากโรงภาพยนตร์อื่นๆ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทาง THAILAND BOX OFFICE ซึ่งเป็นข้อมูลถึงวันที่ 6 มีนาคม 2566 ว่า “ทิดน้อย” ฉายไป 41 วันกวาดรายได้ไป 72.6 ล้านบาท และหนังใหม่มาแรง อย่าง “ขุนพันธ์ 3” ฉายไป 6 วัน รายได้ยังพุ่ง 41.2 ล้านบาท คาดว่ามีสิทธิ์ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านอีกไม่ไกลเกินเอื้อม

เปิดตำนาน 5 พระเครื่องของขลังคู่กายขุนพันธ์ พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

"โขม ก้องเกียรติ" ผู้กำกับ "ขุนพันธ์ 3" โพสต์ห่วยและสะเหล่อ เพราะน้อยใจ หนังถูกลดรอบฉาย เหตุหนัง "ทิดน้อย" ไปเบียดพื้นที่ ทำหนังมา 20 ปี ไม่เคยเจอแบบนี้ส่วนหนัง "หุ่นพยนต์" โดนกองเซ็นเซอร์ หั่นฉาก 2 รอบ ติด ฉ 20- มองว่าหนังไม่ได้รุนแรงอะไรขนาดนั้น

ล่าสุด ทาง "คมชัดลึก บันเทิง" ได้พูดคุยกับ ผกก.โขม ขอนำเอาบทสัมภาษณ์ดีๆ ตรงๆ ชัดๆ มาฝากคอข่าวเนชั่นออนไลน์ กันอีกสักครั้ง ตรงนี้

เปิดตำนาน 5 พระเครื่องของขลังคู่กายขุนพันธ์ พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

สบโอกาสเจอ ผู้กำกับภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ 3" เจ้าตัวได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า รู้สึกน้อยใจ ทำหนังมา 20 ปี ไม่เคยเจอแบบนี้ ส่วนหนัง "หุ่นพยนต์" โดนกองเซ็นเซอร์ หั่นฉาก 2 รอบ ครั้งแรกโดนห้ามฉาย ครั้งที่สองได้เรตติ้ง ฉ 20- ทั้งที่จะเข้าฉาย 9 มี.ค. 2566 มองว่าหนังไม่ได้รุนแรงอะไรขนาดนั้น

พูดถึงเรื่องที่โพสต์? 

มันก็คือความรู้สึกน้อยใจ ผมก็แค่รู้สึกว่าคนเราเสียใจก็มีสิทธิ์ร้องไห้ มีสิทธิ์บ่นอะไรบางอย่าง แล้วก็ไม่ได้จะมาเรียกร้องความสนใจหรือทำมาเป็นดราม่า เพราะงานของเรามันเสร็จไปแล้ว ต่อให้ขายได้หรือขายไม่ได้ มันก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่เราทำมันมาเราก็อยากให้มันมีพื้นที่แค่นั้นแหละ

จริงๆ แล้ว 3 วันมานี้เราก็คุยกันอยู่กับสื่อ อยากให้สื่อไปคุยกับคนที่เขารับผิดชอบเรื่องนี้จริงๆ เพราะคุยกับผมมันก็ปลายทาง ในฐานะคนทำมันก็ได้เท่านี้แหละ กลัวว่าเดี๋ยวจะเข้าใจกันไปผิดๆ ว่าอยากจะทำให้มันเป็นดราม่าระหว่างหนังกับหนังหรือเปล่า หรือว่าผมกับโรงมีปัญหากันเหรอ มันไม่ใช่ จริงๆ ก็แค่ใครอยู่ตรงนี้ก็ทำ ก็จะบ่นแบบนี้แหละ แต่คนก็อาจจะตีความผิดไปเรื่อยๆ

ขั้นตอนการเอาหนังเข้าฉาย มีเงื่อนไขยังไงบ้าง? 

อันนี้ผมไม่ทราบเลย เพราะผู้กำกับไม่ได้มีสัดส่วนในเรื่องการเอาไปขายเพื่อฉายในโรงกี่วันๆ ไม่รู้เรื่องเลยครับ 

เปิดตำนาน 5 พระเครื่องของขลังคู่กายขุนพันธ์ พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด
ตอนนี้เราอยากให้เขาทำยังไงบ้าง?

คือมันเป็นเรื่องใหญ่เกินตัวเราแล้ว สิ่งที่เราทำ หรือความรู้สึกของเราก็ทำไปแล้ว หลังจากนี้ก็คงให้ผู้ใหญ่ได้คุยกันหารือกัน ทางโรงหนังกับทางสตูดิโอ ทางสหมงคลฯ ได้คุยกันว่าจะหาทางออกยังไงที่มันจะไม่เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก

 

หลังจากที่มีข่าวออกไปก็ยังไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรเลยใช่ไหม? 

ไม่มีครับ โรงก็เหมือนเดิมครับ แต่เราก็อยู่ในจุดที่แล้วแต่แล้วกัน เราก็ทำเต็มที่แล้ว เรารู้สึกว่าหนังมันก็ทำงานของมันเต็มที่แล้ว วันนี้มันก็ 50 ล้านเท่าที่โรงมันมี ผมว่าขุนพันธ์ 3 ก็สู้แล้วแหละ ในฐานะคนทำงานคนนึงเราก็ไม่อาย ส่วนคนดูจะชอบไม่ชอบอันนี้มันรสนิยมส่วนตัวอยู่แล้ว

 

ถ้ารอบหนังมากกว่านี้ หนังน่าจะไปได้ไกลกว่านี้? 

เชื่อว่าอย่างนั้น ถ้ามีรอบฉายมากขึ้นมันก็มีโอกาสมากขึ้นที่จะได้โชว์จริงๆ ความรู้สึกผมหนังก็เหมือนลูกสาวผม แล้วไปคุยกับโรงเรียน โรงเรียนบอกว่าจะมีโชว์ เราก็ซ้อมกันมาปีนึงลูกสาวผมก็ตื่นเต้น แต่พอขึ้นโชว์จริงๆ ให้โชว์ 2 นาทีอย่าง มันก็แค่ความรู้สึกเหมือนพ่อคนนึงที่รักลูก ก็ได้แต่นั่งบ่นแต่ผมก็ไม่รู้จะไปบ่นใคร บ่นผอ.เหรอ บ่นโรงเรียนเหรอ บ่นค่าไฟ ค่าน้ำเหรอ อันนี้ไม่รู้

ในกลุ่มผู้กำกับได้คุยกันถึงเรื่องนี้ไหม? 

ก็คุยกันผ่านสมาคมครับ ทางสมาคมเขายื่นหนังสือไป คือเรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับใครมันก็ไม่ดี ไม่น่าจะมีใครแฮปปี้ ส่วนใหญ่คุยกันก็ให้กำลังใจกัน สู้ๆ นะ

 

ความรู้สึกของเราเวลามีหนังเข้าฉาย แล้วโดนตัดรอบเป็นยังไง? 

มันก็เสียใจนะ แต่ไม่ได้บั่นทอนนะ ผมทำหนังมา 20 กว่าเรื่องแล้ว เรื่องแบบนี้เอาจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เราก็ยังทำต่อไป อย่าง The Promise วันนี้ก็เป็นงานของบริษัท ก้องเกียรติ โปรดักชั่น ก็ยังผลิตงานอีกเยอะ คือหน้าที่คนทำก็ทำให้ดีที่สุด ทำให้คนดูรักเราที่สุด ทีนี้ส่วนธุรกิจก็เป็นเรื่องของธุรกิจให้เขาคุยกัน

ได้มีการพูดคุยกับนักแสดงและทีมงานไหม? 

คุยกันอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ให้กำลังใจกัน พร้อมจะลุยกัน ยังคิดถึงกัน เพราะหนังเรื่องนี้มันมีเมมโมรี่ ความรู้สึกดีๆ ของคนทำงาน เพราะมันเหนื่อยกันมา แล้วพอทุกคนเจอสถานการณ์อย่างนี้ก็รู้แหละว่าข้างในเขารู้สึกยังไงเรื่องนี้ไม่น่าห่วงหรอก น่าห่วงรุ่นเด็กๆ ที่จบฟิล์มมาใหม่ๆ ถ้ามาเจอสถานการณ์แบบนี้ อย่างที่บอกว่าถ้าบางทีรัฐบาลหรือคนที่เกี่ยวข้องก็อยากให้เขามาคุยกัน

ถือเป็นเคสแรกของเราเลยไหม ถึงทำให้เฟล? 

จริงๆ แล้วถ้ามันสัก 2 อาทิตย์แล้วออกจากโรงมันก็โอเค ผมทำหนังมา20 กว่าเรื่อง ไม่เคยถูกดึงออกตั้งแต่อาทิตย์แรกนะ นี่กลางอาทิตย์ด้วย คือมันลดโรงลงไปแบบตกใจ ก็อย่างที่เราเห็นตามข่าวแหละครับ

เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนไหม? 

ไม่ครับ แต่เคยเห็นหนังบางเรื่องโดน มันก็เกิดการเอาไปเปรียบเทียบกัน แต่มันต่างกรรมต่างวาระ หนังเรื่องนี้มันมีทีท่าว่ากระแสดีไง แต่ทำไมมันถูกลด ลองคำนวณค่าเงินดูสิ ถ้าตั๋วใบละ 150 แล้วโรงครึ่งนึง เจ้าของครึ่งนึง แล้วคนดูขนาดนี้ มันก็ยังได้ตังค์นะ แต่ทำไมถึงลด ในแง่ธุรกิจก็คงต้องไปคุยกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ถึงลด

เปิดตำนาน 5 พระเครื่องของขลังคู่กายขุนพันธ์ พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

มีการลดราคาลงด้วย? 

เรื่องลดราคามันก็เป็นสิทธิ์ของเขาแหละ แต่พอมันมาชนกัน เศรษฐกิจแบบนี้คนก็ต้องเลือกของถูก คนดูก็ไม่ผิด แต่แค่พื้นที่ของเรามันถูกลดลงไปก็น่าเสียดาย

คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้? 

ใช่ คาดไม่ถึงเลยครับ ต้องไปหาว่าต้นตอมาจากไหนกันแน่ ที่โปรโมทว่าจะฉายบางภาค แล้วอยู่ดีๆ ก็ไม่ฉาย วันนั้นรู้ข่าวก็เลยค่อนข้างช็อก เสียใจแหละ เราก็ระบายในพื้นที่เราแค่นั้นเอง จริงๆ ไม่ได้มีปัญหากับหนัง แต่ฟีดแบ็กก็เข้ามาถล่มประมาณว่าเรามาเรียกร้องความสนใจ พยายามจะอธิบายไปว่ามันไม่ใช่ ไม่ได้มาขายหนัง ไม่ได้มาพีอาร์ แค่น้อยใจ ไม่ต้องสนใจก็ได้ ไม่เป็นไร

กลายเป็นว่าดึงกระแสมาที่เรา? 

ใช่ๆ เขาว่าผมออกมาพีอาร์หนัง คือมันคนละเรื่องกันเลยครับ คนละความรู้สึกกันเลย ไม่คุ้มเลย ให้พีอาร์เขาทำงานไปผมไม่ต้องออกมานั่งทำแบบนี้หรอก มันไม่คุ้มด้วย มันไม่ใช่วิธีพีอาร์ที่ฉลาดสำหรับผมนะ 

เราแค่ออกมาบ่นๆ ใช่ไหม?

ใช่ แค่นั้น คือเรารักมันน่ะ เราก็แค่รู้สึก

ในฐานะของผู้กำกับ พอทำหนังเสร็จ มีการโดนจัดเรตติ้งหนัง รู้สึกยังไง? 

ก็ต้องอยู่ที่ความเหมาะสมครับ คือเรตติ้งเนี่ยมันมีอยู่แล้วแหละ แต่มันเกินว่าเหตุไหม ให้หนังมันพิสูจน์แล้วกัน แต่เชื่อเถอะว่าสถานการณ์หนังไทยตอนนี้มันแย่แล้วล่ะ สมมติเราหวังจะไปพึ่งผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เอกชนก็แบบนึง ผู้ใหญ่ที่เป็นรัฐบาลก็เป็นอีกแบบ มองง่ายๆ ไม่ต้องลึกซึ้งอะไรเราก็ประเมินได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น คนทำหนังก็เหนื่อย

อย่างเรื่อง หุ่นพยนต์ พอโดนจัดเรตติ้ง ก็ถูกเลื่อนฉายไม่มีกำหนด? 

คือทุกคนที่ไปดูหนังก็พูดกันหมดว่ามันไม่ได้รุนแรงอะไรขนาดนั้น แต่อันนี้ก็เหมือนกัน ต้องไปคุยกับผู้ใหญ่ ว่าทำไมคณะกรรมการเขาถึงคิดอย่างนั้น ต้องไปเอาคำตอบจากเขา

เวลาจัดเรตมันมีผลกับตัวหนังมาก? 

มันก็มีอยู่แล้วแหละ ถ้าโดน 20- โดยที่ทาร์เก็ตเป็นวัยรุ่น วัยรุ่นก็เข้าไปดูไม่ได้ หรือดูแล้วต้องตรวจบัตร มันก็น่าจะมีเอฟเฟ็กต์ตามมา

เปิดตำนาน 5 พระเครื่องของขลังคู่กายขุนพันธ์ พุทธคุณแคล้วคลาด พกติดตัวตลอด

ขอขอบคุณที่มา คมชัดลึก 

ขอขอบคุณที่มา: Thainews

logoline