svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สายควันห้ามพลาด "ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า" ผิดกฎหมายหรือไม่

01 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ประเด็นบุหรี่ไฟฟ้า ยังคงเป็นที่ถกเถียงในวงกว้างว่าที่จริงเเล้ว การครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมายหรือไม่ วันนี้มีแนวทางคำตอบมาฝากคอข่าวและบรรดาสายควัน กันตรงนี้ 

การครอบครองบุหรี่ไฟฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า อีกหนึ่งประเด็นร้อนทางสังคม ที่ในวันนี้ ขณะนี้ ได้มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่ชาวโซเชียล ชาวเน็ตให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ หลังเกิดกระแสดรามาสนั่นโซเชียล สะท้านวงการสีกากีอีกแล้ว กรณี "ดาราสาวไต้หวัน" ถูกตำรวจไทย รีดไถเงิน ขณะตั้งด่าน โดยอ้างถึงการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครอง และพบเห็นบุหรี่ไฟฟ้า วางขายและใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มวัยรุ่น จึงเกิดเสียงวิพากวิจารณ์ว่า ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดหรือไม่ 

การควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ยังไม่มีการตราหรือบัญญัติกฎหมายที่ใช้ควบคุมโดยตรง ใช้การออกประกาศ หรือคำสั่งของผู้รับผิดชอบในส่วนราชการนั้น ๆ เพื่อการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในขอบเขต

บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ??

ว่าด้วย..การนำเข้า 

ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่ และบารากู่ไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นสินค้าต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557  ให้บุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงน้ำยาและสารหรือสารสกัดที่ใช้เพื่อเป็นแหล่งกำเนิดควันหรือไอประกอบการสูบ เป็น “สินค้าต้องห้าม” นำเข้ามาในราชอาณาจักร

ผู้ใดนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 มาตรา 20 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงินห้าเท่าของสินค้าที่นำเข้าหรือส่งออก หรือทั้งจำทั้งปรับ

สิทธิการขายเเละบริการสินค้า

คณะกรรมการผู้บริโภคได้ออก คำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” มีใจความสำคัญ คือ กำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้าม ห้ามให้ผู้ใดขาย ให้เช่า ให้เช่าซื้อ ให้บริการ หรือจัดหาบุหรี่ไฟฟ้าให้ไม่ว่าด้วยประการใดๆ โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น ตลอดจนการเสนอหรือการชักชวนดังกล่าว
 

สายควันห้ามพลาด "ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า" ผิดกฎหมายหรือไม่

ผู้ใดฝ่าฝืนขายบุหรี่ไฟฟ้า จะต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 (ฉบับที่ 3) มาตรา 56 ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในกรณีที่ผู้นำเข้าและผู้ขายเป็นคนเดียวกันจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ว่าด้วย..การครอบครอง

ทนายรณรงค์ แก้วเพชร ระบุในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

การครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า มีความผิดตามกฎหมาย ผู้ใดรับไว้โดยประการใดซึ่งของที่ต้องห้ามนำเข้า มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับ 4 เท่าของราคา พร้อมภาษีที่ยังไม่ได้จ่าย ตามพระราชบัญญัติศุลกากร


จับตา!! เกณฑ์การสูบในพื้นที่สาธารณะ

หากมีผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานที่สาธารณะที่ กำหนดให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ เช่น ในโรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด ถือว่าฝ่าฝืน มาตรา 42 พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

อีกความเคลื่อนไหว ตร.แจงความผิด “บุหรี่ไฟฟ้า” นำเข้า-ครอบครอง - สูบในที่สาธารณะ

ผบช.กมค.
ให้ความรู้ ด้านกฎหมายเกี่ยวกับ "บุหรี่ไฟฟ้า" ชี้ เป็นสินค้าห้ามนำเข้าประเทศไทย ดังนั้น ผู้ครอบครอง จึงมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ส่วนการสูบในที่สาธารณะ เข้าหลักเกณฑ์ความผิด พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ

สายควันห้ามพลาด "ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า" ผิดกฎหมายหรือไม่

1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (ผบช.กมค.) ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ว่า ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 และ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องสินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ.2559 กำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำผ่านเข้ามาในราชอาณาจักร

ดังนั้น ผู้ที่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า จึงมีความผิดฐานรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่า เป็นของที่นำเข้ามาโดยหลีกเลี่ยงข้อกำจัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น ตามมาตรา 246 ประกอบมาตรา 244 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า สำหรับการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้น ตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 มาตรา 4 วางหลัก ให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบ เนื่องจากเป็นการนำสารนิโคตินเข้าสู่ร่างกาย โดยการสูบ ดังนั้น หากสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเขตปลอดบุหรี่ ก็จะมีความผิดฐาน สูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ ซึ่งมีระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุอีกว่า ขอฝากไว้ว่า เมื่อกฎหมายยังมีสภาพบังคับใช้อยู่ ตำรวจก็ยังต้องบังคับตามกฎหมาย แต่หากสภาพสังคมหรือประชาชนเห็นว่าควรจะมีการปรับปรุงกฎหมายในอนาคต ก็เป็นเรื่องของฝ่ายนโยบายหรือทางสภาต่อไป 

 

อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบว่า ประเทศปลายทางนั้น สิ่งใดสามารถนำเข้ามาในประเทศได้ หรือสิ่งใดนำเข้ามาในประเทศไม่ได้ เป็นการแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวทราบ เพื่อป้องกันการกระทำความผิดในประเทศปลายทาง

 

สายควันห้ามพลาด "ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า" ผิดกฎหมายหรือไม่

 

ทบทวนประเด็นร้อน ว่าด้วยเรื่องของ "บุหรี่ไฟฟ้า" ซึ่งมีการถกเถียงกันว่าควรจะถูกกฎหมายหรือไม่ มีหลายฝ่ายแสดงถึงความเป็นห่วงเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มที่น่ากังวลหากเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

 

 

ชาวคอข่าวเนชั่นออนไลน์ ย้อนไปเมื่อ 18 ตุลาคม 2564 ทางด้าน “พชรพรรษ์ ประจวบลาภ” เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวในงานเสวนาคนรุ่นใหม่ “Gen Z Gen Za ท้าคุย” เรื่อง ทำไมบุหรี่ไฟฟ้า จึงไม่ควรถูกกฎหมายในประเทศไทย ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ "สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย"  โดยระบุว่า ในฐานะ คนรุ่นใหม่ ที่ทำงานกับเยาวชนมานาน เรื่องของ “บุหรี่ไฟฟ้า” ที่กำลังถกเถียงในขณะนี้ ต้องยอมรับตรงๆ ว่า บุหรี่ไฟฟ้าทำลายสุขภาพ และหากมีข้อคิดเห็นว่าอันตรายน้อยกว่า “บุหรี่” ปกติ เถียงกันให้ตายก็ยังไม่มีข้อสรุป ดังนั้น วันนี้ เรารู้ว่ามันอันตรายไม่ว่าจะมากจะน้อย ไม่ควรเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกสำหรับใครเลยก็ตาม

ในทางกลับกัน หากเราพูดถึงการทุจริตคอรัปชัน โกงมาก โกงน้อย ความหมายก็เท่ากับโกง ดังนั้น ในวันนี้หากจะพูดว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าและควรเป็นสินค้าทางเลือก มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด ถึงเวลาแล้วที่เราอาจจะต้องยอมรับว่าอันตรายมากหรือน้อย ไม่ควรเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกสำหรับใครเลยก็ตาม
 

“การเลิกบุหรี่เป็นเรื่องยาก ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง คนเราอาจจะเลิกยากและง่ายแตกต่างกัน แต่สุดท้ายถ้าเราอยากจะสร้างสุขภาพร่างกายแข็งแรง การเลิกบุหรี่เป็นตัวเลือกแรกที่เราควรจะเลือก มากกว่าการหาอะไรมาทดแทน อีกเรื่องที่สำคัญ คือ วันนี้เห็นการสนับสนุนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ในขณะที่เราทำงานกันอย่างยากลำบาก ณ เวลานี้สิ่งที่ควรจะสนับสนุนในตอนนี้คือ การปราบปรามสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ในโลกสังคมออนไลน์ เช่น พนันออนไลน์ บุหรี่ไฟฟ้าที่ลักลอบจำหน่าย ไม่นับอาวุธปืน มีด ผิดกฎหมายที่ทำให้ก่ออาชญากรรม วันนี้ทำได้ดีหรือยัง”


พชรพรรษ์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้ ประเทศที่มีกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าเกิน 70 ประเทศ มีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่ยอมรับ เช่น ประเทศใกล้บ้านเรา ลาว ก็ห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า , สิงคโปร์ กฎหมายห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าประเภทของเล่น (Toy Cigarettes) ขณะที่ ประเทศที่มีกฎหมายเอื้อต่อการขายบุหรี่ไฟฟ้า หากดูประเทศเหล่านั้นอัตราการใช้ต่ำมาก ต่อให้ขาย แต่การใช้บุหรี่ไฟฟ้าก็น้อย ดังนั้น เราไม่ควรเอาบุหรี่ไฟฟ้ามาเป็นทางเลือก เราไม่สามารถเอางบประมาณ ที่ใช้รณรงเลิกบุหรี่ไปสู้กับการทำการตลาดอุตสาหกรรมยาสูบได้ เพราะเงินเราน้อยมาก แต่เราหยุดและถอยไม่ได้ การปรับพฤติกรรมคนเป็นเรื่องที่ยากมาก”

 

ว่ากันว่า...ได้ไม่คุ้มเสีย

ข้อมูลจาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ปี 2560 สรุปตัวเลข 52,182 ล้านบาท เป็นค่ารักษาผู้ป่วยที่ป่วยจากการสูบบุหรี่ แบ่งเป็น ค่ารักษา เฉพาะโรคจากการสูบบุหรี่ 21,389 ล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นค่ารักษาโรคปอด 10,000 ล้านบาท คิดเป็นส่วนต่างค่าเสียเวลา ค่าเสียโอกาสทางเศรษฐกิจกว่า 20,000 กว่าล้านบาท สรุปแล้ว ปี 2560 ประเทศไทยสูญเสียเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ ภาษีพี่น้องประชาชนกว่า 52,182 ล้านบาท

 

“หากวันนี้สนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมาย เพื่อเก็บภาษีเพิ่ม ข้อมูลจาก กระทรวงการคลัง การเก็บภาษีบุหรี่ธรรมดา 43,000 กว่าล้านบาท หากเติมบุหรี่ไฟฟ้า 1,800 กว่าล้านบาท รวม 45,000 กว่าล้านบาท หักลบมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ ค่ารักษาพยาบาลที่หักเอาเฉพาะบุหรี่ปกติ 52,182 ล้านบาท ลบ 45,000 กว่าล้านบาท รัฐยังขาดทุนอยู่กว่า 6,000 กว่าล้านบาท มันจะไม่มีความคุ้มค่าใดๆ เพราะแม้เศรษฐกิจจะดีมากๆ เราก็ต้องเอาเงินวนกลับไปรักษาคนที่ป่วยด้วยการสูบบุหรี่” พชรพรรษ์ กล่าว

 

สายควันห้ามพลาด "ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า" ผิดกฎหมายหรือไม่

ควรควบคุม บุหรี่ปกติ ให้สำเร็จ 
 

“โยธิน ทองพะวา” ประธาน สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า ต้องย้อนกลับมาดูในบริบทของเรา มีการควบคุมยาสูบ เหล้า บุหรี่ อายุที่เข้าถึงบุหรี่ เหล้า มีการกำหนด แต่เราควบคุมได้ขนาดนั้นหรือไม่ การปฏิบัติในการควบคุมยังไม่บรรลุผล หากยังควบคุมสิ่งนี้ไม่ได้ และยังเปิดโอกาสให้อีกสิ่งหนึ่งเข้ามา อันตรายจะเกิดขึ้นอย่างมหาศาล

 

"ไม่ได้ปฏิเสธว่าแนวคิดไม่ดี เพราะต้องดูผลลัพธ์อีกนาน ประเทศที่อนุญาตก็อาจจะมาทบทวนว่าผลเป็นอย่างไร แต่ประเทศไทย การควบคุมบุหรี่ปกติ ยังไม่สำเร็จ แต่เราไปต่ออีกเรื่องหนึ่ง ทุกคนมีสิทธิที่จะคิดต่างและหาเหตุผลมาอธิบาย เป็นการหาฉันทามติร่วมกัน แต่เราควรหรือยัง" 

 

อาทิ กระท่อม กัญชา บางคนกินกระท่อมมาตลอด 70 ปี กว่ากระท่อมจะปลดล็อก ต้องใช้การศึกษามากมายมหาศาล แต่เมื่อปลดล็อกกฎหมายมาแล้ว ยังต้องมาระวังกันอีกว่า การจำหน่าย เด็กๆ จะเข้าถึงได้มากน้อยแค่ไหน แม้แต่กระท่อมเองก็ใช้เวลาในการผลักดันนานมาก ขณะเดียวกัน บุหรี่ไฟฟ้า ไม่ปฏิเสธว่าอาจจะมีข้อดีบางอย่าง แต่ตอนนี้ยังมองได้น้อยว่าทำให้คนเลิกบุหรี่ได้จริงหรือไม่

เด็กเยาวชน ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
ข้อมูลทางวิชาการต่างๆ ยังไม่ชัดเจน จึงต้องใช้ข้อมูลทางวิชาการต่างๆ มาหาฉันทามติร่วมกัน สิ่งสำคัญ หากมีกฎหมายและการปฏิบัติที่ค่อนข้างได้ผลลัพธ์ชัดเจน ย้ำไปที่การควบคุมบุหรี่ปกติ หากทำได้สำเร็จมากกว่านี้ เชื่อว่าการเปิดใจรับสิ่งอื่นก็ไม่ใช่เรื่องยาก ดังนั้น ณ เวลานี้ก็ยังไม่เหมาะสม และเด็กๆ ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก เข้าถึงง่าย

“สภาเด็กและเยาวชน ทำการรณรงค์ทั้งระดับตำบล อำเภอ จังหวัด เน้นย้ำไปถึงอันตราย โทษ เนื้อหากฎหมาย ให้เข้าใจ การให้ความรู้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะสุดท้าย จะเกิดการตระหนักในผลลัพธ์หรือโทษ ต้องเกิดจากการรู้ การสร้างความรู้จึงสำคัญ เรียนรู้ สร้างความรู้ ควบคู่กันไป และดูระยะเวลาที่เหมาะสมในการรณรงค์ ใช้เวลาพอสมควร เราจึงมีส่วนที่จะให้อีกหลายคนที่ไม่รู้ปัญหา ให้รู้ปัญหา สร้างความเข้าใจกับเด็กด้วยกัน ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในการร่วมให้ความรู้ด้วย”

ควรศึกษาผลกระทบต่อ "เด็กเยาวชน"

“ณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว” ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง อธิบายถึงข้อคำถามที่ว่า หากบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย จะส่งผลอย่างไรต่อเยาวชน ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่คนทำงาน การเสนอธุรกิจหรือกิจการที่ทำลายสุขภาพโดยเฉพาะเด็กเยาวชน จะมาจากคนที่มีอำนาจ ผู้ใหญ่ ที่สามารถกำหนดนโยบาย เราไม่ได้ตั้งการ์ดว่าปฏิเสธ แต่ต้องศึกษาและทำความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน ผมมองว่าการที่นำของใต้ดินมาอยู่บนดินจะช่วยจัดการปัญหาได้ หากสามารถทำได้จริง ควรให้ของบนดินควรควบคุมให้ได้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการขายให้เด็ก

ดังนั้น สิ่งสำคัญนอกเหนือจากการศึกษาว่าจะนำเข้าได้หรือไม่ ขายได้หรือไม่ ต้องศึกษาผลกระทบหากบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย จะได้คุ้มเสียหรือไม่ ไม่ว่าประเด็นอะไรเราจะไปมองเฉพาะในมุมเศรษฐกิจที่ควรจะได้ เหมือนบ่อนพนัน ที่มีข้อเสนอให้ทำถูกกฎหมาย แต่ความจริงในประเทศไทยเล่นพนันไม่ถึง 5% บุหรี่ไฟฟ้าก็เช่นกัน


"ต้องศึกษาว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นกับสังคม โดยเฉพาะเด็กเยาวชน คุ้มหรือไม่ กับรายได้ที่จะได้มา หากติดตามข้อมูล คนไทยไม่ได้นิยมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างที่บอกว่าเกือบ 2 ล้านคน แต่จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่ามีประมาณ 8 หมื่นกว่าคน"

 

 

ณัฐพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ทำไมเราต้องมาบอกว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ควรถูกกฎหมาย หากบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เด็กเยาวชนจะเป็นลูกค้ารายหลัก เพราะตอบโจทย์ เผลอๆ จะได้เยาวชนผู้หญิงด้วย วาทกรรมที่บอกว่า บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ มองว่าแล้วแต่คน แต่จะเคลมคำพูดพวกนี้ไม่ได้ หลายคนบอกว่าเลิกบุหรี่ได้เพราะบุหรี่ไฟฟ้า แต่ปัจจุบันยังคงสูบบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ และไม่ใช่อันตรายน้อยกว่า เพราะสามารถเติมความเข้มข้นน้ำยาได้ เผลอๆ อันตรายกว่าบุหรี่มวน ซึ่งย้อนแย้งกับประเด็นสาธารณสุขที่พยายามส่งเสริมเรื่องสุขภาพ 

 

ข้อมูลล่าสุดเผย..พบเด็กผู้หญิง สูบบุหรี่มากขึ้น
 

“อนวัช แจ่มจันทร์” ประธานกลุ่มเด็กและเยาวชน UGZ อุบลราชธานี กล่าวว่า ปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้า ถือว่าได้รับความนิยม เนื่องจากไม่มีกลิ่น ไม่เหม็น ตามร้านเหล้า สถานบันเทิง มีการสูบปกติ จากการทำกิจกรรม น้องๆ หลายคนสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ใช่แค่ผู้ชาย แต่บุหรี่ไฟฟ้า มีน้องๆ ผู้หญิงให้ความสนใจ เรามองว่า ควรที่จะสร้างสื่อ องค์ความรู้เด็กและเยาวชนในเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าจะดีกว่าสนับสนุนให้ถูกกฎหมาย บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าค่อนข้างอันตราย โดยเฉพาะเด็กๆ ในต่างอำเภอ สูบบุหรี่กันตั้งแต่ ม.3 ส่วนใหญ่ที่พบกลับเป็นผู้หญิง

สูบเพราะอยากรู้ อยากลอง 
จากการสอบถามสาเหตุในการเข้าสู่วงการบุหรี่ พบว่า สาเหตุที่สูบเนื่องจากสังคมโดยรอบ ครอบครัว เพื่อน สูบบุหรี่กัน นำมาสู่การอยากรู้ อยากลอง โดยเริ่มจากสูบบุหรี่ธรรมดา ขณะที่บุหรี่ไฟฟ้าหาซื้อง่าย น้องๆ เลยรวมเงินกันเพื่อสูบด้วยกัน จึงชวนน้องๆ มาทำกิจกรรมร่วมกัน 2 กิจกรรม น้องๆ เริ่มถอยห่างจากบุหรี่ สูบน้อยลง แต่ยังสูบอยู่ ดังนั้น จึงต้องพยายามให้กำลังใจ และให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ให้แนวทางในการเลิกบุหรี่ รับข่าวสารพลังบวกมากกว่าพลังลบ

ทั้งนี้ ด้วยความที่จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่ค่อนข้างใหญ่ 25 อำเภอ กิจกรรมของกลุ่ม จึงขับเคลื่อนร่วมกับสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดอุบลราชธานี ในปี 2564 ได้ทำในประเด็นเรื่องการปกป้องนักสูบหน้าใหม่ โดยร่วมกับภาคีเครือข่ายทำกิจกรรมร่วมกัน ปัจจุบันกำลังสร้างน้องๆ แกนนำ ระดับ ม.ต้น ในการมีส่วนร่วม ล่าสุด ดำเนินกิจกรรมผลิตสื่อ ภัยอันตรายบุหรี่ไฟฟ้า โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย

บางคนสูบทั้ง บุหรี่ธรรมดา และ บุหรี่ไฟฟ้า
 

อีกบทสัมภาษณ์ น้องเอ (นามสมมุติ) ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่ อายุ 23 ปี ที่เคยสูบบุหรี่ และ บุหรี่ไฟฟ้า เล่าประสบการณ์ว่า ตอนแรกสูบบุหรี่ธรรมดา และขยับไปลองบุหรี่ไฟฟ้า แต่ก็กลับมาติดบุหรี่ธรรมดาเหมือนเดิม เพราะรู้สึกเวลาสูบดีกว่า แต่ตอนนี้เลิกสูบแล้ว เพราะเหตุผลส่วนตัวไม่ได้เลิกเพราะบุหรี่ไฟฟ้าแต่อย่างใด

 

"ช่วงนั้นเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ แค่กลืนน้ำลายก็เจ็บคอแล้ว เดินขึ้นบันไดบ้านเฉยๆ ยังเหนื่อยเลย ทำให้ไม่ได้สูบบุหรี่ติดต่อกันเป็นเดือน พอเราได้พัก ทำให้สามารถเลิกได้ ผมว่าคนที่หันไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพราะไม่มีกลิ่นมากกว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ทำให้เลิกบุหรี่ได้จริง เพราะเห็นเพื่อนๆ ก็ยังไม่เห็นมีใครเลิกได้ สุดท้ายก็สูบทั้งบุหรี่จริงและบุหรี่ไฟฟ้า” น้องเอ กล่าวทิ้งท้าย

 

จุดจบสายควัน นิวซีแลนด์ผ่านกม.ห้ามขายบุหรี่ให้คนรุ่นใหม่ตลอดชีพ

ย้อนไปดูที่ต่างประเทศ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 สภานิวซีแลนด์อนุมัติผ่านกฎหมายยาสูบฉบับใหม่ ห้ามจำหน่ายบุหรี่แก่เยาวชนที่เกิดหลัง 1 มกราคม 2009 หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 95,910 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3 ล้านบาท ถือเป็นกฎหมายควบคุมสิงห์อมควันที่เข้มงวดที่สุดในโลก

กฎหมายดังกล่าว คาดว่าจะสามารถลดปริมาณนิโคตินและลดจำนวนผู้ค้าปลีกลงได้ถึงร้อยละ 90 และคาดว่าจะนำพานิวซีแลนด์เดินหน้าสู่อนาคตที่ไร้สิงห์อมควัน โดยมุ่งลดจำนวนร้านค้าขายปลีกบุหรี่จาก 6,000 ร้าน ให้เหลือ 600 ร้าน ภายในปี 2023 และคาดว่าการผลักดันของรัฐบาลจะทำให้นิวซีแลนด์เป็นประเทศปลอดบุหรี่ภายในปี 2025

ดร. Ayesha Verrall รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า

“ผู้คนอีกหลายพันคนจะมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีสุขภาพที่ดีขึ้น และจะช่วยประหยัดงบสาธารณะสุขได้ถึง 5 พันล้านดอลลาร์ จากการที่ไม่ต้องรักษาผู้ป่วยด้วยโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง”
 

ส่วนทางด้านพรรค ACT New Zealand ซึ่งมีที่นั่งในสภา 10 ที่นั่ง ประณามว่า กฎหมายดังกล่าวอาจทำลายร้านค้ารายย่อย และทำให้ประชาชนเริ่มหันสู่ตลาดมืด
 

 

ข้อมูลด้านสถิติพบว่า จำนวนผู้ใหญ่ในนิวซีแลนด์ที่สูบบุหรี่เป็นประจำทุกวันลดลงมาเหลือเพียง8% เมื่อเทียบกับช่วง10ปีก่อนที่อยู่ในระดับร้อยละ 16 โดยมีจำนวนผู้เลิกบุหรี่ไปแล้ว 56,000 รายในปีที่ผ่านมา

สายควันห้ามพลาด "ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า" ผิดกฎหมายหรือไม่

ขอขอบคุณที่มา : กรุงเทพธุรกิจ 

ขอขอบคุณที่มา: ฐานเศรษฐกิจ

ขอขอบคุณบทความดีๆ  >> 

ทำไม "บุหรี่ไฟฟ้า" จึงไม่ควรถูกกฎหมายในประเทศไทย

จุดจบสายควัน นิวซีแลนด์ผ่านกม.ห้ามขายบุหรี่ให้คนรุ่นใหม่ตลอดชีพ

 

logoline