svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ภาคประชาสังคม" ซัด "รายงาน กมธ." หนุนเปิดกาสิโนถูกกม. ไร้มาตรการควบคุม

12 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ภาคประชาสังคม จวก รายงาน กมธ. เอียงชัดหนุนเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย ไร้มาตรการควบคุม จี้ตอบ 3 ข้อ วัดใจ สส. ลงมติรับใช้นายทุนกาสิโน หรือห่วงใยประชาชน ถามตรงๆ ไม่ฟอกเงิน-ไม่กระทบสังคม แน่หรือ?

12 มกราคม 2566 กรณีคณะกรรมธิการการวิสามัญศึกษา การเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่รระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้า และการพนันออนไลน์ ซึ่งเตรียมเสนอรายงานต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในเร็ว ๆ นี้ นั้น

นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า จากที่ได้อ่านรายงานของกรรมาธิการฯ พบว่ายังมีข้ออ่อน และบิดเบี้ยวอย่างมาก เนื้อหาส่วนใหญ่มุ่งไปที่การสนับสนุนให้เปิดกาสิโน แทบไม่มีการกล่าวถึงมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์แต่อย่างใด

เพราะในตอนต้นของรายงาน ระบุว่า สถานบันเทิงแบบครบวงจรนี้ จะมีกาสิโนสัดส่วนแค่ 5% อีก 95% เป็นกิจการอื่น เช่น ศูนย์การประชุมขนาดใหญ่ โรงแรมระดับห้าดาว ห้างสรรพสินค้า สวนสัตว์ สวนสนุก และสนามกีฬาต่าง ๆ แต่ไส้ในของการศึกษากลับแทบไม่ได้ศึกษารายละเอียดของกิจการเหล่านี้เลย

กลายเป็นว่า 95% ของรายงานไปกล่าวถึงการเปิดกาสิโนแทน นี่น่าจะสะท้อนให้เห็นเจตนาของการศึกษาครั้งนี้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งต้องเข้าใจว่าการศึกษาครั้งนี้เป็นข้อเสนอของฝ่ายที่ต้องการเปิดกาสิโน ที่เลือกรับฟังข้อมูลจากฝ่ายที่สนับสนุน การศึกษาไม่รอบด้าน ทำให้ผลที่ออกมาอาจมีความโน้มเอียงไปในทางที่เห็นดีเห็นงามในการให้เปิด

นายธนากร กล่าวว่า ที่น่าสังเกตคือผลที่ออกมานี้ถือเป็นการศึกษาที่ยังไม่เสร็จ แม้จะใช้เวลากว่า 8 เดือน เพราะสาระสำคัญขาดหายไป อาทิ ไม่มีการศึกษามาตรการในการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย อันอาจจะเกี่ยวข้องกับกิจการกาสิโน เช่น การใช้กาสิโนเป็นแหล่งฟอกเงินของธุรกิจใต้ดินต่าง ๆ ที่โยงใยกับเครือข่ายอาชญากรรมในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังไม่มีการศึกษาผลกระทบทางสังคม และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขใด ๆ เป็นต้น ดังนั้น ภาคประชาชน จึงขอฝากไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังจะพิจารณารายงานการศึกษาดังกล่าว 3 ข้อ ดังนี้

1. ประชาชนเข้าใจว่าประเทศมีความจำเป็นในการเปิดแหล่งดึงดูดทางเศรษฐกิจใหม่ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่กำหนดให้เป็นกิจการอื่น 100% เลยดีกว่าหรือไม่ เพราะถึงแม้จะอ้างว่ามีกิจการกาสิโน แค่ 5% แต่เนื้อหา 1 ใน 4 ของข้อเสนอกลับกล่าวถึงแต่การเสนอให้เปิดการพนันออนไลน์ด้วย ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจะสามารถจำกัดสัดส่วนของแหล่งพนันให้อยู่ในขอบเขต 5% ได้จริงหรือไม่

2. กรรมาธิการฯ ข้าราชการ นักการเมือง มีความเชื่อมั่นแค่ไหน ที่จะป้องกันไม่ให้สถานกาสิโน เป็นแหล่งฟอกเงินของธุรกิจผิดกฎหมาย

และ 3. จะรับผิดชอบอย่างไร ต่อผลกระทบหากเกิดกับเด็ก เยาวชนและครอบครัว เพราะสวนทางกับคำพูดที่รัฐ บอกว่า “การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย” หรือครูสอนเด็กว่า “การพนันเป็นสิ่งไม่ดี” จะต้องปรับเปลี่ยนไปเป็นคำพูดว่าอะไร

“เราขอให้สภาผู้แทนราษฎรตอบสามคำถามนี้ต่อประชาชนก่อน หากตอบให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นไม่ได้ สภาผู้แทนราษฎรก็ยังไม่ควรรับรองรายงานการศึกษาฉบับนี้ เพราะสิ่งที่ท่านกำลังจะตัดสินใจ บ่งบอกว่าท่านรับใช้ใครระหว่างนายทุนกาสิโน ที่มุ่งเป้าขยายฐานการเติบโตในภูมิภาคนี้ผ่านนอมินีบางกลุ่ม หรือรับใช้ประชาชนห่วงใยคุณภาพชีวิตคนไทย ห่วงผลกระทบ” นายธนากร กล่าว

logoline