svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"วราวุธ"คิกออฟ"ป่าชุมชนแห่งแรก สู่ตลาดคาร์บอนเครดิต"

24 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"วราวุธ"เปิดกิจกรรม "Kick off ป่าชุมชนแห่งแรก สู่ตลาดคาร์บอนเครดิต" ที่จ.เพชรบุรี ชวนประชาชนปลูกไม้ยืนต้น สร้างรายได้ชุมชน 

24 ธันวาคม 2565 ที่ชุมชนบ้านโค้งตาบาง ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  และคณะ เยี่ยมชมแปลงสาธิตการเก็บข้อมูลคาร์บอนเครดิต พร้อมทั้งชมการสาธิต การเก็บข้อมูลคาร์บอนเครดิต และความหลากหลายทางชีวภาพ  โดยมีนายฉันท์ อัครสกุลภิญโญ ประธานเครือข่ายป่าชุมชน ผู้แทนจากกรมป่าไม้ และผู้อำนวยการส่วนจัดการป่าชุมชน สำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี ให้การต้อนรับ และให้ข้อมูล พร้อมกับสาธิตวิธีการกักเก็บคาร์บอน ซึ่งในพื้นที่โซนอนุรักษ์ของป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง รวมเนื้อที่ 1,349 ไร่ สามารถกักเก็บคาร์บอนเครดิตได้ 5,259 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 

 

\"วราวุธ\"คิกออฟ\"ป่าชุมชนแห่งแรก สู่ตลาดคาร์บอนเครดิต\"

โดยนายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องคาร์บอนเครดิต เป็นตัวพลักดันสำคัญไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องสิ่งแวดล้อมแต่ยังมีเรื่องเศรษฐกิจด้วยเพราะมีรายได้ให้กับชุมชน ซึ่งสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของไทยที่เผชิญอยู่นั้น การที่มีคาร์บอนเครดิต ทำให้ป่าชุมชนสามารถแปรความสมบูรณ์ของป่าให้การเป็นคาร์บอนเครดิต จะเป็นตัวกระตุ้นประชาชน ให้ได้เข้าใจว่าความสำคัญของป่ามีค่ามากกว่าการหาของป่า หรือเป็นต้นน้ำ แต่การที่ต้นไม้หายใจได้อยู่นั้น จะสามารถเอาศักยภาพนั้นมาซื้อขายเป็นรายได้ให้กับชุมชน และเป็นตัวเร่ง คืนความสมดุลให้กับธรรมชาติ ทุกวันนี้ประเทศเจอปัญหาภัยแล้ง ปัญหาน้ำท่วมทุกปี การมีคาร์บอนเครดิตจะเป็นสิ่งที่เร่งให้สังคมหันมาปลูกต้นไม้มากขึ้น และจะคืนความสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ รวมถึงตัวกระตุ้นเศรษฐกิจระดับชุมชน 

 

ในขณะนี้เรามีป่าชุมชนอยู่ที่12,000 กว่าแห่ง ทั่วประเทศ สำหรับในพื้นที่อื่นๆ สามารถนำโมเดลจากจ.เพชรบุรีไปขยายความต่อ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เข้าไปประเมิน และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) เข้าไปช่วยประเมินแปรความสมบูรณ์และ ศักยภาพของคาร์บอนเครดิตในแต่ละพื้นที่ว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนเท่าไหร่ 

 

\"วราวุธ\"คิกออฟ\"ป่าชุมชนแห่งแรก สู่ตลาดคาร์บอนเครดิต\"

ทั้งนี้  ตามยุทธศาสตร์ชาติ20ปี เรามีพื้นที่ป่าเศรษฐกิจที่ต้องพลักดันให้ได้15 %หรือ 40-50ล้านไร่ การที่จะแปรสภาพป่าไม้ให้เป็นคาร์บอนเครดิตนั้น จากข้อมูลประเทศไทยจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดในปี 2025 ในปริมาณ 388 ล้านตัน ซึ่งจะต้องทำให้ปริมาณลดลงเหลือ 120 ล้านตัน ภายในปี2065 ดังนั้นปริมาณมูลค่าที่จะต้องใช้คาร์บอนเครดิตอยู่ที่ 300,000ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน ขายอยู่ที่ตันละ 100-2,000 บาท แต่ในอนาคตอาจจะสูง ถึง4,000-5,000บาท 
ซึ่งจากนี้ไปเมื่อมี ร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน ว่า ด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการใช้ประโยชน์จากผลผลิตและบริการป่าชมชน พ.ศ... มูลค่าคาร์บอนเครดิตจะเพิ่มมากขึ้น จึงอยากเชิญชวนประชาชนปลูกต้นไม้ใหญ่ ไม้ยืนต้นกันมากขึ้น 

 

โดยภายหลังจากการเยี่ยมชมแปลงสาธิตการเก็บข้อมูลคาร์บอนเครดิต นายวราวุธ ได้เป็นประธานเปิดกิจกรรม "Kick off ป่าชุมชนแห่งแรก สู่ตลาดคาร์บอนเครดิต" พร้อมปลูกต้นรวงผึ้ง ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10

 

\"วราวุธ\"คิกออฟ\"ป่าชุมชนแห่งแรก สู่ตลาดคาร์บอนเครดิต\"

logoline