svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย

12 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หมอมนูญ ออกโรงเตือนคนไทยดังๆ อีกครั้ง ให้เผฝ้าระวัง จับตา "โควิดสายพันธุ์ XBB" ที่ระบาดในประเทศอินเดียขณะนี้ คาดอีกไม่นานอาจพบการแพร่ระบาดในประเทศไทย

อีกความเคลื่อนไหว COVID-19 เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 โดยโพสต์ล่าสุดของ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ส่งโพสต์เนื้อหาที่น่าสนใจทาง เฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ระบุว่า

ประเทศไทย ต้องจับตาเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อะไร...ที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศอินเดีย เพราะหลายครั้งที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่ในประเทศอินเดีย หลังจากนั้นอีกไม่นานก็พบการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์นั้นในประเทศไทย

ดูย้อนหลัง ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาพบครั้งแรกในประเทศอินเดียปลายปี พ.ศ. 2563 ต่อมาแพร่กระจายเร็ว เกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก และประเทศไทยก็มีการแพร่ระบาดระลอกใหญ่จากสายพันธุ์เดลตาเมื่อกลางปี พ.ศ.2564 

เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ประเทศอินเดียพบไวรัสโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 ครั้งแรก เชื้อสายพันธุ์นี้แพร่เร็วกว่า เข้ามาแทนที่สายพันธุ์ย่อย BA.5 แพร่ระบาดในประเทศอินเดีย และกระจายไปหลายประเทศ ขณะนี้ประเทศไทยกำลังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิดระลอกใหม่ เกิดจากไวรัสสายพันธุ์ BA.2.75


ประเทศอินเดีย เริ่มเห็นการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิดสายพันธุ์ XBB ซึ่งเป็นลูกผสมของไวรัสโควิดสายพันธุ์ BA.2.10.1 กับ BA.2.75 (ดูรูป) เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะแทนที่สายพันธุ์ BA.2.75 ในประเทศอินเดีย ประเทศไทยเตรียมตัวได้เลยว่า หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ BA.2.75  อีกไม่นานก็จะมีสายพันธุ์ XBB แพร่ระบาดเหมือนประเทศอินเดีย เพราะสายพันธุ์ใหม่นี้ติดต่อกันง่ายกว่าสายพันธุ์เดิม และหลบหลีกภูมิคุ้มกันไม่ว่าจากการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อธรรมชาติได้ดีกว่าสายพันธุ์เดิม  

ที่มา >> 

 

เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย

ปัจจุบัน ไวรัสโควิดสายพันธ์ุใหม่ ใช้เวลาสั้นกว่าเดิม เพียง 3-4 เดือน ก็เข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดิม และทำให้เกิดการระบาดใหญ่ระลอกใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีกไปทั่วโลก โชคดีที่ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ไม่ได้ทำให้คนป่วยหนักและเสียชีวิตเหมือนสายพันธุ์เดลตา โดยเฉพาะคนที่ได้รับวัคซีน 4 เข็ม คือได้วัคซีนครบ 2 โดสและตามด้วยเข็มกระตุ้นอีก 2 เข็ม

เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย
ย้อนไปอ่านโพสต์ก่อนหน้า ทางคุณหมอมนูญ ไดเเผยแพร่อีกหนึ่งบทความที่น่าสนใจ ระบุว่า 
..
เชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถคงอยู่ (persistent)ในร่างกาย และทำให้เกิดปอดอักเสบซ้ำแล้วซ้ำอีก

เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย

ในคนที่เคยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งคนกลุ่มนี้อาจจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ แพร่กระจายเชื้อให้คนอื่นๆต่อไป ถ้าเป็นไปได้ต้องพยายามกำจัดเชื้อไวรัสในร่างกายของคนเหล่านี้ให้หมดด้วยการให้ยาต้านไวรัสพร้อมกันหลายขนานร่วมกับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป

ผู้ป่วยชายอายุ 67 ปี เคยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองรักษาหายแล้วด้วยเคมีบำบัดเมื่อ 5 ปีก่อน มีปอดอักเสบจากไวรัสโควิดถึง 4 ครั้งในเวลา 4 เดือน 

ครั้งที่ 1 : เดือน ก.ค.2565 
มีไข้ ไอ เหนื่อย เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาว รหัสพันธุกรรม RT-PCR SARS-CoV 2 บวก CT value 17.40 ได้ยาเรมเดซิเวียร์ทางเส้นเลือดครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 ก.ค.เป็นเวลา 5 วัน หลังให้ปอดอักเสบดีขึ้น 

ครั้งที่ 2 : เดือน ส.ค.2565 
มีไข้ ไอ เหนื่อย และเอกซเรย์มีปอดอักเสบอีก ATK บวก ได้ยาเรมเดซิเวียร์ทางเส้นเลือดเมื่อวันที่ 23 ส.ค.เป็นเวลา 10 วัน หลังให้ปอดอักเสบดีขึ้น 

เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย

ครั้งที่ 3 : เดือน ก.ย.2565
มีอาการไอ เหนื่อย ตรวจ ATK บวก เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ได้ยาโมลนูพิราเวียร์กิน 5 วัน หลังกินยาดีขึ้น 

ครั้งที่ 4 : เดือน ต.ค.2565
มีไข้ ไอ เหนื่อย เอกซเรย์มีปอดอักเสบอีก ตรวจรหัสพันธุกรรม RT-PCR SARS-CoV2 บวก CT value 19.04 ให้ยาเรมเดซิเวียร์ทางเส้นเลือด เป็นเวลา 10 วัน เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2565 หลังได้เรมเดซิเวียร์ครบแล้ว ให้ยาแพ็กซ์โลวิดและโมลนูพิราเวียร์กินต่อพร้อมกันอย่างละ 5 วัน
ผู้ป่วยรายนี้เคยได้รับวัคซีนป้องกันโควิดทั้งหมด 4 เข็ม เป็นแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม ไฟเซอร์ 1 เข็ม และโมเดอร์นา 1 เข็ม แต่ตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันในเลือด Anti spike protein antibody พบว่าไม่มีภูมิเลย (น้อยกว่า 50) ผู้ป่วยได้ Evusheld ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป หลังฉีดเข้ากล้ามโดสแรกวันที่ 16 ส.ค. 2565  1 เดือนต่อมา ตรวจวัดระดับ Anti spike protein antibody ขึ้นมา 19,876 หลังให้ Evusheld โดสที่ 2 วันที่ 22 ต.ค. 2565  ตรวจวัดระดับ Anti spike protein antibody 2 สัปดาห์ต่อมา ภูมิคุ้มกันขึ้นมากกว่า 40,000 AU/ml 

เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย

จากการติดตามผู้ป่วย 5 สัปดาห์หลังจากได้ยาต้านไวรัสโควิด 3 ขนานพร้อมกันคือ เรมเดซิเวียร์ชนิดฉีด แพ็กซ์โลวิด โมลนูพิราเวียร์ ชนิดกิน รวมทั้งภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Evusheld ฉีดเข้ากล้ามหลังจากป่วยเป็นปอดอักเสบครั้งที่ 4 จากโรคโควิด  ผู้ป่วยดีขึ้นมาก ไม่ไอ ไม่เหนื่อย ไม่มีไข้ ออกกำลังกายได้ ตรวจ ATK สัปดาห์ละครั้งติดต่อกัน 4 สัปดาห์ให้ผลลบ เอกซเรย์ปอดล่าสุดกลับมาเป็นปกติ (ดูรูป) เชื่อว่าการรักษาครั้งนี้ สามารถกำจัดเชื้อไวรัสโควิดในร่างกายให้หมดไปได้ ต้องติดตามใกล้ชิดต่อไป

มีรายงานคนไข้ 1 คนในประเทศสหราชอาณาจักรแบบเดียวกับผู้ป่วยรายนี้ ได้รับยาเรมเดซิเวียร์คู่กับแพ็กซ์โลวิดแล้วได้ผลดี (ดูรูป) แสดงว่าการใช้ต้านไวรัสร่วมกันหลายขนานช่วยเสริมฤทธิ์การฆ่าเชื้อไวรัสให้ดียิ่งขึ้น และผลข้างเคียงไม่เพิ่มขึ้น

เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย
ติดตามข้อมูลระบาดวิทยา รู้ทันว่ามีโรคไวรัสอะไรระบาดบ้าง


เดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ข้อมูลของโรงพยาบาลวิชัยยุทธที่ติดตามโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไวรัสไข้หวัดใหญ่ อาร์เอสวี (RSV) และ Human metapneumovirus (hMPV)

เดือนที่แล้วพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการตรวจทั้ง ATK และ RT-PCR 1536 ราย อยู่ในช่วงขาขึ้น 2 เดือนติดต่อกัน (ดูกราฟ)
พบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เดือนที่แล้ว 34 ราย อยู่ในขาลง (ดูกราฟ) เชื้อไวรัสทางเดินหายใจ RSV 23 ราย อยู่ในขาลง (ดูกราฟ) และเชื้อไวรัสทางเดินหายใจ hMPV Human metapneumovirus 5 ราย

เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย
พบโรคไข้เลือดออกที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่เพิ่มสูงขึ้นเป็น 56 ราย (ดูกราฟ) พบโรคชิคุนกุนยา หรือไข้ปวดข้อยุงลาย 5 ราย
โรคไวรัส Noro (โนโร) และ Rota(โรตา) ทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เดือนที่แล้วพบโนโรไวรัส 8 ราย พบโรตาไวรัส 6 ราย

สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โอมิครอน อยู่ในช่วงขาขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ไวรัสไข้หวัดใหญ่และ RSV ลดลง ขณะนี้ โรคไข้

  • เลือดออกที่ติดจากถูกยุงกัดกำลังพบมากขึ้น
  • การใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ ช่วยป้องกันการติดเชื้อและแพร่เชื้อไวรัสทางเดินหายใจทุกชนิด
  • ขอให้ทุกคนไปรับวัคซีนป้องกันโรคโควิดอย่างน้อย 3 เข็ม ตามด้วยเข็มกระตุ้นเพิ่มอีก 1 เข็ม 4 เดือนหลังเข็มสุดท้าย โดยเฉพาะคนที่ยังไม่ติดเชื้อไวรัสโควิดตามธรรมชาติ สำหรับคนที่ฉีดวัคซีน 3-4 เข็ม แล้วติดเชื้อตามธรรมชาติแล้ว ให้รอไปฉีดวัคซีนรุ่นใหม่ปีหน้าเลย และทุกคนควรไปรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละครั้ง

เดือนธันวาคมจะเป็นอย่างไร ติดตามรายงานเดือนหน้าครับ

จับตาอีกหนึ่งรายงานความเคลื่อนไหวทางวิชาการ คอข่าวไม่ควรพลาดในการเฝ้าติดตาม เพื่อความรู้ ความเข้าใจและก้าวทันข่าว(ภัยเงียบ)

โรคฝีในปอด (Lung abscess)

บางรายเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เจริญได้ในภาวะที่ไม่มีออกซิเจน (anaerobic bacteria) อาศัยอยู่ในเหงือกและรากฟันที่อักเสบ ปนกับน้ำลาย ไหลลงไปในหลอดลม และทำให้เกิดฝีในปอด รักษาโดยการใส่ท่อระบายหนองจากฝีในปอด และให้ยาปฏิชีวนะที่ครอบคลุมเชื้อชนิดนี้

ผู้ป่วยชายไทยอายุ 46 ปี ปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 เริ่มเจ็บหน้าอกข้างซ้าย หายใจลำบาก ไม่ค่อยไอ แต่เวลาไอจะเจ็บหน้าอก ไม่มีไข้ เอกซเรย์ปอดวันนั้นปกติ วันที่ 9 พฤศจิกายน ยังเจ็บหน้าอก ไปทำเอกซเรย์ปอดซ้ำ ครั้งนี้พบฝ้าขาวในปอดด้านซ้าย ได้ยาปฏิชีวนะ azithromycin กินแล้วไม่ดีขึ้น มาปรึกษาวันที่ 17 พ.ย.หลังจากเจ็บหน้าอกข้างซ้าย 20 วัน เมื่อสอบถามผู้ป่วยยอมรับว่าเจ็บฟันข้างขวาล่างเล็กน้อยก่อนเจ็บหน้าอก

เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย

ตรวจร่างกายมีไข้ต่ำๆ 37.5 องศาเซลเซียส ฟังปอดข้างซ้ายได้ยินเสียงลดลง เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาวบริเวณปอดด้านซ้าย (ดูรูป) ได้ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอดพบลักษณะคล้ายฝีในปอดข้างซ้าย (ดูรูป) เจาะเลือดเม็ดเลือดขาวในเลือดสูง 12,530 ผู้ป่วยได้รับการใส่ท่อระบายหนองจากฝีในปอดข้างซ้าย พบหนองสีน้ำตาล 20 ซีซี  ย้อมพบเชื้อแบคทีเรียแกรมลบรูปร่างเป็นแท่ง (gram negative bacilli) ไม่พบเชื้อวัณโรค ไม่พบเชื้อรา เพาะเชื้อขึ้นแบคทีเรียที่เจริญได้ในภาวะที่ไม่มีออกซิเจนเท่านั้น (anaerobic bacteria) Fusobacterium nucleatum และเชื้อแบคทีเรียอีก1 ตัวไม่ทราบชื่อ

เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย

ผู้ป่วยได้รับยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือด ceftriaxone และ clindamycin อาการเจ็บหน้าอกค่อยๆดีขึ้น สามารถถอดท่อระบายหนองออกจากฝีในปอดข้างซ้ายได้ใน 2 วัน 

ได้ปรึกษาทันตแพทย์ตรวจช่องปากและฟัน ส่งเอกซเรย์รากฟัน พบติดเชื้อแบคทีเรียในรากฟัน ต้องถอนฟัน 2 ซี่  ได้ยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือด 2 สัปดาห์ เอกซเรย์ปอดดีขึ้นช้าๆ (ดูรูป) ให้ยาปฏิชีวนะไปกินต่อที่บ้านอีก 4 สัปดาห์

เตือน ระวังโควิดพันธุ์ XBB ระบาดที่อินเดีย คาดอีกไม่นานอาจแพร่ในไทย

ขอขอบคุณที่มาข้อมูล : เฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC


 


หมอมนูญ แนะฉีดวัคซีนโควิด "หากเคยติด" ให้รอวัคซีนรุ่นใหม่ l SPRiNGสรุปให้ >> คลิกที่นี่

logoline