"หมอธีระ" รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน) มีเนื้อหาที่น่าสนใจ ระบุไว้ว่า
2 ธันวาคม 2565
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 333,293 คน ตายเพิ่ม 786 คน รวมแล้วติดไป 648,304,681 คน เสียชีวิตรวม 6,641,600 คน ชี้ 5 อันดับประเทศที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลิใต้ สหรัฐอเมริก และไต้หวัน
ชวนคอข่าวร่วมเปิดโพสต์ "หมอธีระ"
2 ธันวาคม 2565
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 333,293 คน ตายเพิ่ม 786 คน รวมแล้วติดไป 648,304,681 คน เสียชีวิตรวม 6,641,600 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และไต้หวัน
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 91.47 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 73.4
...อัปเดตสถานการณ์ Long COVID ในสหราชอาณาจักร
ข้อมูลล่าสุดเมื่อคืนนี้ Office of National Statistics ของสหราชอาณาจักรได้เผยแพร่รายงาน Prevalence of ongoing symptoms following coronavirus (COVID-19) infection in the UK: 1 December 2022
สำรวจจนถึง 6 พฤศจิกายน 2565 สหราชอาณาจักรกำลังมีผู้ป่วยที่ประสบปัญหา Long COVID สูงถึง 2.2 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนราว 3.4% ของประชากรทั้งหมด
ในจำนวนผู้ที่ประสบปัญหา Long COVID ทั้งหมด 2.2 ล้านคนนั้น มีถึงกว่าหนึ่งในสาม หรือ 764,000 คน (35%) ที่ติดเชื้อในช่วงสายพันธุ์ Omicron ระบาด
ทั้งนี้ 1.6 ล้านคน (75%) รายงานว่าภาวะ Long COVID ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
และมีถึง 370,000 คนที่พบว่าทำให้จำกัดสมรรถนะในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมาก
อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ อ่อนเพลีย/เหนื่อยล้า ซึ่งมีรายงานสูงถึง 70%
รองลงมาคือ ไม่มีสมาธิ หอบเหนื่อย และปวดกล้ามเนื้อ ซึ่งแต่ละอาการนั้นพบได้ราวครึ่งหนึ่งของผู้ป่วย Long COVID ทั้งหมด
ปัญหา Long COVID นั้นพบได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ โดยพบมากในช่วง 35-69 ปี และเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
...สถานการณ์ของไทยเรานั้น ช่วงสองปีที่ผ่านมามีคนติดเชื้อจำนวนมาก ทั้งที่เป็นตัวเลขในระบบและนอกระบบ
ข้อมูลวิชาการทั่วโลกยืนยันให้เห็นชัดเจนว่า Long COVID is real...
ไม่กระจอก ไม่จิ๊บๆ แบบเป็นแป๊บเดียวแล้วหายเหมือนที่เราเห็นข่าวลวงที่เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ
ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท และพยายามป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ หรือไม่ให้ติดเชื้อซ้ำ
การติดเชื้อแต่ละครั้งนั้น ไม่ใช่แค่รอลุ้นว่าจะป่วยหนักไหม จะเสียชีวิตไหม แต่ที่ควรตระหนักคือภาวะผิดปกติในระยะยาวที่เกิดกับร่างกายเราในหลากหลายระบบ ซึ่งจะบั่นทอนคุณภาพชีวิต สมรรถนะการใช้ชีวิต ทั้งทำงาน เรียน หรืออื่นๆ รวมถึงผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับสมาชิกในครอบครัว ภาระค่าใช้จ่ายทั้งทางตรงและทางอ้อม
ณ จุดนี้ เตือนดังๆ ว่าระบาดกันมาก
ระมัดระวังการกินดื่มใกล้ชิดร่วมกับผู้อื่นนอกบ้าน ทั้งระหว่างทำงาน เรียน หรือไปเที่ยว
เลี่ยงสถานที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี
ควรไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อลดโอกาสป่วยรุนแรง เสียชีวิต และ Long COVID
สำคัญที่สุดคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
ตั้งสติกันให้ดี อย่าหลงไปกับข่าวสายพันธุ์ย่อยต่างๆ มากเกินไปจนเบลอ เดลตาครอนหรืออะไรก็ตามแต่ ไม่มีประโยชน์ไปกว่าการทราบข้อมูลรายละเอียดสถานการณ์ระบาดจริงที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที
ไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหน "พฤติกรรมป้องกันตัวของเราคืออาวุธที่ดีที่สุด"
ตอนนี้วิกฤติปะทุซ้ำ ไม่ใช่เวฟเล็ก จำเป็นต้องป้องกันตัวเองให้ดี
..
ย้อนอ่านโพสต์ "หมอธีระ" ก่อนหน้านี้ อีกความน่าสนใจ ที่คอข่าวไม่ควรพลาด!!!
..
1 ธันวาคม 2565...เริ่มต้นเดือนแห่งเทศกาลอย่างระมัดระวัง...
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 372,982 คน ตายเพิ่ม 741 คน รวมแล้วติดไป 647,708,741 คน เสียชีวิตรวม 6,639,450 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และไต้หวัน
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 90.41 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 81.1
...อัปเดตจาก WHO
องค์การอนามัยโลกออกรายงานล่าสุด WHO Weekly Epidemiological Update เมื่อคืนนี้ 30 พฤศจิกายน 2565
Omicron ครองการระบาดถึง 99.9% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
หากวิเคราะห์สายพันธุ์ในสัปดาห์ล่าสุด พบว่า BA.5 มีสัดส่วน 73%, BA.2 เพิ่มขึ้นเป็น 10.1% (เดิม 7.9%), BA.4 ลดลงเหลือ 2.8% (เดิม 3.4%)
สำหรับสายพันธุ์ย่อยที่น่ากังวลสำหรับทั่วโลกนั้น พบว่า BQ.1.x นั้นมีการระบาดเพิ่มขึ้นเป็น 27.3% (เดิม 23.1%), ในขณะที่ BA.2.75.x เพิ่มขึ้นเป็น 6.6% (เดิม 5.4%), ส่วน XBB เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.8% (เดิม 2.7%)
ปัจจุบัน BQ.1.x นั้นแตกหน่อต่อยอดไปจนมีลูกหลานกว่า 30 สายพันธุ์ย่อยแล้ว
...อัปเดต Long COVID หลังติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron
Magnusson K และคณะ จากประเทศนอร์เวย์ เผยแพร่ผลการศึกษาในวารสารการแพทย์ Nature Communications เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565
โดยศึกษาความชุก และความเสี่ยงในการเกิดอาการผิดปกติต่างๆ ของ Long COVID ในกลุ่มประชากรที่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า จำนวน 23,767 คน และ Omicron จำนวน 13,365 คน เปรียบเทียบกับกลุ่มประชากรที่ไม่ได้ติดเชื้อ จำนวน 105,297 คน
สาระสำคัญคือ ในช่วง 3 เดือนแรกหลังจากที่ติดเชื้อนั้น ความเสี่ยงและอัตราการเกิดปัญหา Long COVID ของกลุ่มผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า และ Omicron นั้นไม่แตกต่างกัน
แต่หลังจาก 3 เดือนเป็นต้นไป กลุ่มผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron นั้นจะมีอัตราการเกิดปัญหา Long COVID โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ น้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้าอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม ในแง่ความเสี่ยงที่จะเกิดอาการผิดปกติหลักๆ ของ Long COVID ในระบบต่างๆ ของร่างกายนั้น หากเทียบกับกลุ่มผู้ที่ไม่ได้ติดเชื้อแล้ว การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า Omicron ไม่ได้แตกต่างจากเดลต้า
ดังนั้น จึงตอกย้ำให้เราเห็นถึงความสำคัญของการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ หรือไม่ให้ติดเชื้อซ้ำ
สถานการณ์ปัจจุบันของไทยนั้นมีการติดเชื้อแพร่เชื้อกันมากระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน
การใช้ชีวิตอย่างมีสติ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและคนใกล้ชิด (Responsible living) เป็นเรื่องที่ควรทำอย่างเป็นกิจวัตร
หากไม่สบาย ตรวจพบว่าติดเชื้อ ควรแยกตัวจากคนอื่นอย่างน้อย 7-10 วัน จนกว่าจะอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ และตรวจ ATK แล้วได้ผลลบ ก่อนออกมาใช้ชีวิตและป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดจนครบสองสัปดาห์
แต่หากมีอาการป่วย แต่ตรวจได้ผลลบ อย่าเพิ่งวางใจ ควรตรวจซ้ำทุกวันอย่างน้อย 3 วันติดกัน
คอยสังเกตรอบข้าง รักษาระยะห่างจากคนที่ไม่ได้ป้องกันตัว ใช้เวลาสั้นๆ ในการพูดคุยพบปะหรือบริการ
เลี่ยงการกินดื่มร่วมกับผู้อื่นนอกบ้าน ไม่ควรแชร์ของกินของใช้ร่วมกับคนอื่น
เลี่ยงสถานที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี
การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
ข้อมูลอ้างอิง :
Magnusson K et al. Post-covid medical complaints following infection with SARS-CoV-2 Omicron vs Delta variants. Nature Communications. 30 November 2022.
.
ขอขอบคุณที่มา : Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)