svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

รีบพาเด็กเล็กฉีดวัคซีนโควิด สร้างภูมิก่อนการระบาดใหม่ พบติด-เสียชีวิต สูง

26 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รีบพาเด็กเล็ก ฉีดวัคซีนโควิด ไฟเซอร์ฝาสีแดง นพ.ธเรศ เผย 1 ม.ค.-22 ต.ค. เด็กอายุ 0-4 ปี ติดเชื้อกว่า 2 แสนราย เสียชีวิต 69 ราย อัตราป่วยมากกว่าเด็กโต 1.5 เท่า เสียชีวิตมากกว่า 3 เท่า ระบุ ควรเร่งฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันก่อนเข้าฤดูหนาวที่อาจจะพบการระบาดใหม่

26 ตุลาคม 2565 นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์การติดเชื้อโรคโควิด-19 ในเด็กเล็ก พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 22 ตุลาคม 2565 พบผู้ป่วยเป็นเด็กอายุ 0 - 4 ปี จำนวน 220,593 ราย มีอาการปอดบวมรุนแรง 1,342 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 365 ราย เสียชีวิต 69 ราย อัตราป่วยตาย 0.03% ซึ่งพบว่ามีอัตราป่วยมากกว่าเด็กโต 1.5 เท่า และป่วยเสียชีวิตมากกว่าเด็กโต 3 เท่า 

 

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

 

ประกอบกับพบเด็กที่มีภาวะ Mis C หรือ Long Covid ที่มีอาการรุนแรง ในผู้ป่วยเด็กเป็นสัดส่วนที่สูงขึ้น จึงควรเร่งรัดการฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายเด็ก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และลดความรุนแรงในกลุ่มเป้าหมายเด็กเล็ก แนะนำให้เด็กทุกคนควรเข้ารับวัคซีน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัว ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรครุนแรงหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนจะทำให้เด็กมีภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 และสามารถกลับสู่ระบบการศึกษาที่โรงเรียน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นพัฒนาการและทักษะทางสังคมต่อไป

นายแพทย์ธเรศ กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำแนวทางวัคซีน Pfizer ฝาสีแดง สำหรับฉีดให้กลุ่มเด็กอายุ 6 เดือน - 4 ปี โดยได้คำแนะนำจากอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ร่วมกับคำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และ คำแนะนำภายใต้การขึ้นทะเบียนของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูงสุดแก่เด็ก

 

ด้านนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมควบคุมโรคได้จัดการประชุมอบรมแนวทางการฉีดวัคซีน Pfizer ฝาสีแดงให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ และได้จัดสรรวัคซีนลงทุกพื้นที่แล้ว โดยให้จังหวัดเป็นผู้กำหนดจำนวนวัคซีนที่ต้องการขอสนับสนุน ผู้ปกครองสามารถติดต่อขอรับบริการที่รพ.สต. หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน วัคซีน Pfizer ฝาสีแดงสามารถรับพร้อมกับวัคซีนอื่น ๆ ในวันเดียวกันได้หรือห่างกันเท่าใดก็ได้ โดยเริ่มรณรงค์ฉีดในคลินิกเด็กสุขภาพดี (well baby clinic) พร้อมกันกับวัคซีนพื้นฐานตัวอื่น และ ขอความร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดพื้นที่บริการฉีดเป็นการเฉพาะสำหรับเด็กวัยนี้โดยเร็ว เพื่อให้เด็กจะได้มีภูมิคุ้มกันขึ้นพร้อมกันก่อนจะเข้าฤดูหนาวที่อาจจะพบการระบาดครั้งใหม่ ทั้งนี้การรับวัคซีนเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก ไม่ได้เป็นเงื่อนไขของการไปโรงเรียน

 

รีบพาเด็กเล็กไปฉีดวัคซีนโควิด "ไฟเซอร์ฝาสีแดง" พบ ติดเชื้อง่าย-เสียชีวิตสูง กว่าเด็กโต

นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย เสริมว่า ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยสนับสนุนให้เด็กไทยทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก กำหนดการฉีดวัคซีน Pfizer ฝาสีแดง ให้ฉีดโดสละ 0.2 ซีซี (3 ไมโครกรัม) จำนวน 3 เข็ม (สัปดาห์ที่ 0, 4, 12) ถึงแม้ว่าการฉีดวัคซีนจะไม่สามารถป้องกันโรคได้ 100% แต่จะทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนจะมีภูมิคุ้มกัน เมื่อได้รับเชื้อจะมีอาการไม่รุนแรง ที่สำคัญจะลดโอกาสการแพร่เชื้อสู่บุคคลอื่น หรือเด็กๆอื่น

 

จากการศึกษาความปลอดภัยของการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีแดง พบว่า มีความปลอดภัย อาการข้างเคียงไม่รุนแรง โดยส่วนใหญ่จะเจ็บบริเวณที่ฉีด มีไข้ อ่อนเพลีย โอกาสพบภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบน้อย เนื่องจากขนาดโดสต่ำกว่าวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีม่วง 10 เท่า แนะนำให้เด็กทุกคนควรเข้ารับวัคซีน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวมีความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง ตามข้อแนะนำของ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และ อนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ได้แก่ เด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี เด็กคลอดก่อนกำหนด โรคอ้วน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งหอบหืดที่มีอาการปานกลางถึงรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำโรคเบาหวาน กลุ่มโรคพันธุกรรม รวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางประสาทอย่างรุนแรง เด็กที่มีพัฒนาการช้า

 

 ทั้งนี้ วัคซีนจะช่วยป้องกันการป่วยอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตได้มาก สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค. 1422

 

วัคซีน ไฟเซอร์ฝาสีแดง

logoline