อนุทิน ย้ำ ปลัดสาธารณสุข เร่งสอบไลน์หลุดหักหัวคิวค่าเสี่ยงภัย รพ.อีสานใต้
“อนุทิน” ย้ำ ปลัดสาธารณสุข สอบปมไลน์หลุดหักหัวคิวค่าเสี่ยงภัยผู้ปฏิบัติงานแถบโรงพยาบาลอีสานใต้ ยืนยันไม่ใช่ทิป แต่เป็นสิทธิที่ต้องได้
4 ตุลาคม 2565 สั่ง ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เร่งสอบปมไลน์หลุดหักค่าหัวคิว "จ่ายค่าเสี่ยงภัย" โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการการทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่สังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อความจากไลน์กรุ๊ปบุคลากรในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แถบอีสานใต้ ระบุถึงปัญหาการเบิกจ่ายเงินค่าเสี่ยงภัยผู้ปฏิบัติงานโควิด-19 ว่า
“ จากที่เป็นข่าวเมื่อวานนี้ ตนได้ขอให้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร แต่ในเรื่องพฤติกรรมผิดอยู่แล้ว เพราะในทางราชการการเบิกเงินสดไม่มีอยู่แล้ว ก็ต้องดูว่ามีเหตุอะไร ”
เมื่อถามว่าถ้าพบความผิดจะลงโทษอย่างเต็มที่ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็มีกฎระเบียบอยู่ ที่กระทรวงสาธารณสุขจะมีคณะกรรมการ กปร. โดยมีตนเป็นประธานและมีการประชุมร่วมกันเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของวินัยและการดำเนินการกับข้าราชการและพนักงานของรัฐที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทุจริต ซึ่งมีอยู่ทุกวาระการประชุมสำคัญ
“ผมยืนยันว่าไม่มีเรื่องหัวคิว ถ้ามีก็คือคนขี้โกง เรื่องพวกนี้ในสมัยนี้ ถ้าลองขี้โกงเงินเดือน และค่าเสี่ยงภัยหักหัวคิวพยาบาล โอ้โห ออกเฟซบุ๊กกันมันระเบิดเลย ผมว่าไม่มีใครกล้าทำนะ หรือถ้าทำไปก็ไม่มีทางรอด”
ส่วนที่หลายพื้นที่ออกมาระบุว่ายังไม่ได้รับเบี้ยเสี่ยงภัยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้เพิ่งผ่าน ครม. ไปได้เมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็มีขั้นตอนที่ต้องโอนเงินมาที่กระทรวงสาธารณสุข จากนั้นทางกระทรวงฯ ก็จะโอนไปในพื้นที่ ตนยืนยันว่าได้รับเงินแน่นอน และไม่มีขาดด้วย
เมื่อถามย้ำว่า ในโซเชียลมีการเผยว่าเป็นการหักเงินสด นายอนุทิน กล่าวว่า หักไม่ได้ เพราะเงินพวกนี้เข้าบัญชีธนาคาร ถามว่าจะไปหักได้อย่างไร ไม่ใช่ก้อนนึงไปฝากไว้ก่อน แล้วซอยออกมาไปใส่ซองให้ เพราะค่าเสี่ยงภัย ค่าตอบแทน ค่าเวร จดชัดเจนว่าเป็นชื่อของใครบ้าง ซึ่งเขาก็มีเงินเดือนในฐานะเป็นข้าราชการพนักงานของรัฐ มีเลขบัญชีทุกอย่างเข้าไปตามระบบอยู่แล้ว มันไม่ใช่ว่ากระทรวงสาธารณสุขจะเบิกมาแล้วไปฝากแพทย์หัวหน้าเวร แล้วนำไปแจกลูกน้อง นี่ไม่ใช่ค่าทิป แต่เป็นค่าที่เขาต้องได้ตามแบบที่เขามีอยู่ ไม่ต้องห่วงหากทำผิดจริงก็ต้องมีการสอบสวน ถ้าเงินเข้าไปในบัญชีของแต่ละคนถูกต้อง ก็ไม่ต้องตั้งกรรมการสอบอะไร เราไม่รู้ว่าใครเป็นหนี้ใคร ถ้าเขาเอาไว้จ่ายกันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตราบใดที่เงินเข้าบัญชีเจ้าตัวก็ไม่มีปัญหา