
19 ธันวาคม 2568 พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.อนุสรณ์ ทองไสย รรท.ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ต.จอมพฤทธิ์ แก้วเรือง และ พ.ต.ต.ภัทราวุธ ดำราษฎร์ สว.กก.6 บก.ป.
นำกำลังจับกุม นายพรเทพ อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ลง 17 ต.ค. 2567 ข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบฟอกเงิน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และอั้งยี่”
โดยจับกุมตัวได้ที่ หอพักครูแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.6 ต.ผาสิงห์ อ.เมือง จ.น่าน
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2566 ได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์มาลวงเงินเหยื่อ โดยการอ้างตัวเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ อ้างว่าผู้เสียหายมีบัญชีธนาคารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต้องโอนเงินที่มีในบัญชีทั้งหมดมาให้เพื่อตรวจสอบ จนเหยื่อหลงเชื่อยอมทำตาม ก่อนจะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวหลอกเงินในบัญชีทั้งหมด รวมเกือบล้านบาท หนีหายไป
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงเร่งแกะรอยสืบหาเบาะแสคนร้ายกลุ่มนี้ กระทั่งทราบว่า ทำกันเป็นขบวนการ มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายมิจฉาชีพฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ในลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
โดยมีนายทุนชาวจีนเป็นผู้ควบคุมสั่งการ ผ่านหัวหน้าพนักงานคนไทย ซึ่งทำหน้าที่ควบคุม ดูแล มอบหมายงาน และออกแบบบทสนทนาในการหลอกลวงเหยื่อ
จึงรวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด 14 ราย ก่อนสามารถตามจับกุมตัวได้แล้วจำนวน 12 ราย คงเหลือผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนีอีก 2 ราย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่า นายพรเทพ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการที่อยู่ระหว่างการไล่ล่าติดตามตัว ปัจจุบันได้ลักลอบหนีกลับจากประเทศเพื่อนบ้านมาซ่อนตัวกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.น่าน จึงนำกำลังตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
สอบสวน นายพรเทพ ให้การปฏิเสธอ้างว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ
เนื่องจากแนวทางสืบสวนพบว่า นายพรเทพ คือ หนึ่งในหัวหน้าพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่คอยควบคุมคนงานตามคำสั่งของนายทุนชาวจีน
เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป