ส่อง"กกต." รื้อระเบียบพิจารณาคดี"ยุบพรรค"แบบติดจรวด (มีคลิป)

"รายการคมชัดลึก" โดย วราวิทย์ ฉิมมณี ได้สัมภาษณ์  "รศ.ดร.ณรงค์เดช สรุโฆษิต" คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ "นิกร จำนง"  ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา มาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น ภายหลังกกต.ออกระเบียบการพิจารณาคดีพรรคการเมืองให้รวดเร็วขึ้น 

 

ติดจรวด “ยุบพรรค” หักศัตรูการเมือง?

 

"วราวิทย์"  ยุบพรรคแบบติดเทอร์โบคือ 7+30+30 ยุบพรรคได้แล้ว ถามอาจารย์ณรงค์เดชว่ามันยุบง่ายยุบเป็นเทอร์โบแบบนั้นมั้ยครับ อาจารย์มองยังไงครับ

 

 

"รศ.ดร.ณรงค์เดช"  คือ เขาก็กำหนดกรอบระยะเวลาในการทำงานของกกต.และนายทะเบียนนักการเมืองว่าต้องเสร็จภายใน 7+30+30 นะครับ ในด้านหนึ่งอาจจะเป็นการติดเร่งติดเทอร์โบเพราะมีระยะเวลากำหนดไว้แล้ว แต่ถ้าเราลองไปดูในรายละเอียดจริงๆยังมีช่องว่างช่องทางในการที่จะสามารถดึงเวลาออกไปได้อีก แต่ขั้นตอนแรกในการตรวจสอบข้อเท็จจริงขั้นต้นอันนี้เป็นสิ่งที่เพิ่งจะเพิ่มขึ้น

 

"วราวิทย์" สรุปอาจารย์คิดว่ามันก็ยังเร่งได้แล้วก็ยังดึงหรือดองได้เหมือนกันใช่มั้ยครับ

 

"รศ.ดร.ณรงค์เดช" ดองได้อีกนานครับ

 

"วราวิทย์" ขั้นตอนแรกเขาต้องตรวจสอบชั้นต้นก่อนของปี 64 ไม่มี ระเบียบใหม่มี 7 วัน

 

"รศ.ดร.ณรงค์เดช"  ในปี 64 ไม่ได้มีขั้นตอนนี้ ในระเบียบใหม่ดีขึ้นครับต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงชั้นต้นก่อนว่าสิ่งที่ยื่นมามีตัวตนจริงหรือไม่ มีพยานหลักฐานประกอบพอสมควรหรือป่าว ที่จะทำให้ดำเนินการต่อไปได้พอล็อกเวลาไว้ 7 วันดีมากเลย ขั้นตอนต่อมาพอเขาได้เรื่องแล้วก็เสนอให้นายทะเบียนพิจารณาว่าจะรับคำร้องต่างๆไว้ดำเนินการหรือไม่ ระเบียบปี 64 ไม่มีอันใหม่ก็ไม่มีว่านายทะเบียนต้องพิจารณาภายในกี่วัน แต่โดยสภาพพิจารณานานไม่ได้ เดี๋ยวนายทะเบียนจะโดน 157 ซะเอง

 

"วราวิทย์" เพราะว่ามันมีกรอบในชั้นต้นอยู่แล้ว

 

"รศ.ดร.ณรงค์เดช" ใช่ครับ ผมประมาณการว่า ให้เวลานายทะเบียนสัก 7-15 วันไม่เกินนี้ จากนั้นนายทะเบียนถ้าคิดว่ามีมูลก็สั่งตั้งคณะบุคคลไปรวบรวมข้อเท็จจริงรวบรวมพยานหลักฐาน แล้วไปไตร่สวนไปเปิดโอกาสให้คนที่ถูกร้องทั้งหลายเขามาชี้แจ้งพยานหลักฐานหักล้าง ในกระบวนการนี้ระเบียบปี 66 เขียนว่า 30 วัน ระเบียนปี 64 ก็ 30 วัน แต่จุดที่ต่างกันคือปี 64 ดีกว่าเพราะปี 64 บอกว่า 30 วันต้องทำให้เสร็จถ้าไม่เสร็จขยายได้อีกครั้งละ 30 วันแต่ขยายได้แค่ 2 ครั้ง

 

ง่ายๆล็อกไว้เลยช้าที่สุดคือ 90 วัน แต่พอปี 66 เหมือนว่าจะเร็วบอกว่าต้องทำเสร็จภายใน 30 วันแต่ต่อได้ครั้งละ 30 วันแต่แบบไม่มีกำหนดต่อแบบจะแล้วเสร็จ

"วราวิทย์" ไม่ได้กำหนดเอาไว้ว่าต่อได้กี่ครั้ง

 

"รศ.ดร.ณรงค์เดช" ใช่ครับ ตรงนี้ถ้าถามว่าติดเทอร์โบมั้ยมันมาดึงตรงนี้ได้ครับ ถ้าต้องการจะดึงก็สอบไปเรื่อยๆ ขอต่อเวลาไปเรื่อยๆตรงนี้ทำได้

"วราวิทย์" ส่วนถ้าจะติดเทอร์โบทำให้จบภายใน 30 วันได้เหมือนกัน

"รศ.ดร.ณรงค์เดช"  ใช่ครับ ถัดมาพอเสร็จนายทะเบียนต้องมาพิจารณาว่าคณะบุคคลที่ไปรวบรวมข้อเท็จจริงมาเห็นพ้องด้วยหรือไม่ เห็นด้วยกับเหตุยุบพรรคหรือไม่ ของเก่าไม่มีกำหนดเวลาของใหม่ก็ไม่มีกำหนดเวลา แต่นายทะเบียนต้องรีบทำให้แล้วเสร็จโดยเร็วแล้วเสนอ กกต. ในชั้นการพิจารณาของกกต.แต่ก่อนไม่มีกำหนดเวลา แต่คราวนี้มีกำหนดเวลา 30 วัน หมายความว่า นับตั้งแต่กกต.ได้รับเรื่องท่านจะต้องบรรจุเรื่องนี้เข้าระเบียบวาระการประชุมและต้องพิจารณาวินิจฉัยให้เสร็จภายใน 30 วัน

 

 

ตรงนี้เหมือนเร็วแต่ในการวินิจฉัย ออกได้หลายแนว ถ้าวินิจฉัยว่าเห็นชอบให้มีการเสนอเรื่องว่ามีพรรคการเมืองกระทำผิดตามมาตรา 92 เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญอันนี้อยู่ในกรอบ 30 วัน ไม่เห็นชอบก็ 30 วัน แต่มันมีอันนึงกรณีที่กกต.เห็นว่า การรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ให้ส่งเรื่องให้นายทะเบียนดำเนินการเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ตรงนี้ไม่ได้มีการล็อกเวลา ส่งกลับไปนายทะเบียนไม่ได้มีล็อกเวลาแล้วว่าต้องใช้เวลากี่วัน แต่ตีความอีกด้านหนึ่งก็คือฟรีสไตล์เลย แต่ตีความอีกด้านก็คือไปวนลูปใหม่

 

"วราวิทย์" สมมติว่ากกต.เห็นตามที่ทางฝ่ายนายทะเบียนว่ามีพยานหลักฐานเข้าข่ายจะยุบพรรคได้ก็ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ทีนี้ในกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้เกี่ยวกับกกต.แล้ว ทางศาลรัฐธรรมนูญท่านก็ไม่ได้มีกรอบระยะเวลากำหนดเอาไว้ถูกมั้ยครับ

 

"รศ.ดร.ณรงค์เดช" คือตอนที่มีกรอบกำหนดเวลาคือ 1 ปี แต่คดียุบพรรคมันก็มีทั้งเร็วและช้า แต่ก็สามารถทำเสร็จได้ภายใน 1 เดือนก็ได้

"วราวิทย์" กกต.ออกแถลงเมื่อวานใช้คำอธิบายเหตุผลว่าทำไมจะต้องออกกรอบเวลาเหล่านี้ เพราะเป็นไปตามพระราชบัญญัติกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม อันนี้เป็นเหตุผลที่อ้างอิงจากกกต.ได้มั้ย

 

"รศ.ดร.ณรงค์เดช" ได้ครับ คือกฎหมายกำหนดเขาก็มากำหนดแล้ว เพียงแต่ว่าคำถามที่ 1 กำหนดแล้วครบถ้วนหรือไม่ คำถามที่ 2 กำหนดแล้วมันดีขึ้นหรือแย่กว่าเดิม หรือมันกลางๆ ผมคิดว่าบางส่วนก็ดีขึ้น บางส่วนดูเหมือนจะแย่กว่าเดิม อย่างกรณีที่บอกว่ากรอบเวลาเดิมนั้นมี 30 วันต่อได้ไม่เกิน 2 ครั้งครั้งละ 30 วันรวมทั้งสิ้น 90 วัน คราวนี้กลายเป็นว่า 30 วันจริงแต่ต่อได้ Unlimited นี่ก็เป็นช่องว่างที่เกิดขึ้น

 

"วราวิทย์" หยิบระเบียบการยุบพรรค ของกกต.มาสอบถามพรรคการเมืองที่เคยถูกยุบในอดีตบ้าง

 

"นิกร จำนง" ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นพรรคที่เคยถูกยุบพรรคมาก่อน แสดงความคิดเห็นว่า เมื่อการยุบพรรคเหมารวมไปถึงการตัดสิทธิทางการเมืองต่อกรรมการบริหารพรรค ทำให้ตนเองยึดหลักการว่าจะไม่เป็นกรรมการบริหารพรรคอีกต่อไป เพราะเป็นความเจ็บช้ำที่ถูกแขวนทางการเมือง ซึ่งประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อพรรคชาติไทยถูกยุบ เป็นความเจ็บช้ำมากตั้งแต่ยุค บรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่เสียน้ำตาจากการถูกยุบพรรคชาติไทย ทำให้สมาชิกพรรคจำนวนล้านคนถูกแขวนทางการเมือง เราผิดหวัง และน้อยใจมาก ที่ถูกกล่าวหาว่ารองเลขาธิการพรรค ให้ผู้หญิง 3 คนไปซื้อเสียง ถูก กกต.ให้ใบแดง

 

แม้ว่าเราจะต่อสู้ต่อศาล ว่าเป็นเงินเพื่อไปจ่ายกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งศาลให้เหตุผลว่า กกต.ตัดสินไปแล้วว่าให้ใบแดง ทั้งที่เมื่อสอบสวนในชั้นอัยการไม่มีมูล ประเด็นที่ กกต.สรุปว่าขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะ กกต.เป็นองค์กรอิสระ มีอำนาจในการตัดสินให้ยุบพรรค ซึ่งไม่เห็นด้วยที่ให้อำนาจในการยุบพรรค เพราะเป็นการกระทำผิดของบุคคล จะไปกระทบต่อพรรคการเมืองไม่ได้

 

"วราวิทย์" ถามว่า การออกระเบียบใหม่ออกมาจะยิ่งทำให้ การยุบพรรคง่ายขึ้นหรือไม่

"นิกร" จำนงมองว่า ยิ่งเร็วขึ้น ง่ายขึ้น ภายใน 7 วัน 30 วันและต่อได้ การจะไปอ้างว่าเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการยื่นตรวจสอบของประชาชน แต่ไม่เป็นคุณและเป็นโทษกับสมาชิกพรรค ไม่ถูกต้อง ใครผิดก็ไปดำเนินคดีกับคนนั้นไม่ใช่ทั้งหมด ทำลายพรรค ผิดตั้งแต่หลักการแล้ว

 

"วราวิทย์" มองว่าจะกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือไม่

 

"นิกร จำนง" ตอบว่า แท้ที่จริงสามารถประกาศที่หลังก็ได้ ช่วงเลือกตั้งออก กฎระเบียบแบบนี้จะทำให้ กกต.เป็นตำบลกระสุนตก ทำให้คนมองในแง่ลบ ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะสังคมจับจ้อง กกต.เป็นพิเศษอยู่แล้ว เป็นการตัดสินใจที่ไม่ได้ประโยชน์ต่อสมาชิกพรรค เพราะกกต.เป็นนายทะเบียนพรรคการเมืองต้องปกป้อง

 

"วราวิทย์" ถามเรื่องการแบ่งเขต คนที่มีสัญชาติ ไม่มีสัญชาติ ที่รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 3 มีนาคม

 

"นิกร จำนง" ตอบว่า เชื่อว่าจะเหมือนเดิม คือ รวมที่ไม่มีสัญชาติเข้าไปด้วย หากไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหา เพราะในอดีตก็ใช้การนับประชากรแบบนี้ เพราะจะเกิดความวุ่นวาย ซึ่งคนต่างด้าวพร้อมเป็นคนไทย ความเป็นรัฐหรือสภาฯ ต้องดูแลเขา แม้ว่าเขาจะไม่มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ต้องรวมด้วย มั่นใจว่าศาลจะวินิจฉัยยืนตามเดิม แม้ว่าจะมีปัญหาบางเขตเท่านั้น ก็ไปแบ่งเขตกันใหม่ เชื่อว่าไม่กระทบต่อไทม์ไลน์การเลือกตั้ง

 

คลิป >>>  ส่องกกต.รื้อระเบียบพิจารณาคดียุบพรรคให้เร็วขึ้น