เจาะลึก"วีระกร"ย้ายเข้าค่าย"ภูมิใจไทย"มองข้ามช็อตหลังศึก"เลือกตั้ง66"

"รายการคมชัดลึก" โดย "วราวิทย์ ฉิมมณี" ได้สัมภาษณ์  "วีระกร คำประกอบ" สมาชิกพรรคภูมิใจไทย และ"ไพบูลย์ นิติตะวัน" ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

 

พปชร.ส่อแตก 4 ส.ส.นครสวรรค์ทิ้งลุงป้อม

 

"วราวิทย์" เป็นเรื่องที่ค่อนข้างช็อกในทางการเมืองพอสมควร เพราะว่าก่อนหน้านี้ก็มาคุยกับผมในรายการว่ายังไง"ลุงป้อม"เหมาะจะเป็นนายกฯ เหมาะกว่า"ลุงตู่"เพราะว่า"ลุงตู่"เหลือเวลาแค่ 2 ปี ทุกคนก็คิดว่า"คุณวีระกร"เป็นหนึ่งในขุนพลของลุงป้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป ของพรรคพลังประชารัฐ จู่ๆลาออกกลางสภาไปเปิดตัวกับภูมิใจไทย 

 

 

"วราวิทย์" ถามว่า การที่"บิ๊กตู่"ไม่อยู่พลังประชารัฐแล้วมีส่วนในการตัดสินใจให้"คุณวีระกร"ย้ายไปภูมิใจไทยมั้ย

 

"วีระกร" ก็มีส่วนอยู่พอสมควรนะครับ มีหลายเหตุผลที่เรารวมๆแล้วก็จะมองเหตุว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้า การที่"ลุงตู่"มีส.ส.อาจจะไม่ถึง 40 คนด้วยซ้ำไปแล้วไปตั้งเป็นแกนนำรัฐบาลโดยการสนับสนุนตามมาตรา 272 ใช้เสียงวุฒิสมาชิก 250 ยกมือให้ ถึงแม้จะได้เป็นแต่มีความมั่นคงหรือมีเสถียรภาพหรือ จะอยู่ได้ยังไงมันไม่น่าจะเป็นไปได้ ด้วยเหตุผลนี้จึงมองอีกว่า ไม่มีทางที่"ลุงตู่"จะแยกพรรคไป เพราะยิ่งไปแยกจะถึง 25 เสียงหรือป่าวก็ยังหวั่นใจอยู่ เมื่อไม่ถึง 25 เสียงท่านก็ไม่สามารถเป็นนายกฯได้ อยู่ตรงนี้ดีๆยังไง"ลุงป้อม"ก็ดันให้เป็นนายกฯอยู่แล้ว

"วราวิทย์" ถามว่า แล้วพลังประชารัฐก็ต้องเล็กลงตามไปด้วยมั้ย

"วีระกร" พลังประชารัฐอาจจะถูกดูดส่วนหนึ่งไปอยู่พรรค"ลุงตู่" เมื่อลักษณะของพรรคมีการแบ่งแยกมันไม่นิ่ง การดูแลการที่จะเข้าถึงหัวหน้ายากนิดนึงมันก็ไม่อบอุ่น คนนั้นไปคนนี้ก็ไป แล้วเราจะอยู่ได้ไงสิ่งเหล่านี้มันไม่น่าเกิด อยู่นิ่งๆอยู่เฉยๆถ้าคุณไม่ตั้งรวมไทยสร้างชาติสิ่งนี้ก็ไม่เกิด

 

"วราวิทย์" ถามว่า ด้วยสัญชาติญาณส.ส. 8 สมัย มองพลังประชารัฐจะได้กี่ที่นั่งในครั้งนี้

"วีระกร" ต้องดูที่กลุ่มสามมิตร ซึ่งจริงๆผมก็รู้ว่าจะอยู่หรือไม่อยู่แต่ผมพูดไม่ได้ ให้พี่น้องจับตาดูกลุ่มสามมิตรเขาจะอยู่หรือไม่อยู่

"วราวิทย์" ถามว่า ทำไมกลุ่มสามมิตรถึงเป็นจุดชี้ขาด"พลังประชารัฐ"

"วีระกร" อย่างที่ผมเรียนตอนนี้เริ่มมีการออกไปอยู่"รวมไทยสร้างชาติ" ออกมาอยู่"ภูมิใจไทย" คือพอเริ่มมี"รวมไทยสร้างชาติ"ทำให้พรรคระส่ำระสาย ความมั่นใจในพรรคเดิมของตัวเองมันไม่มีแล้ว นักการเมืองต้องการความมั่นคง ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวก็ออกๆแล้วเราจะอยู่เป็นคนสุดท้ายหรือป่าวเนี้ย ถามว่าทำไมสามมิตรถึงมีความสำคัญถ้าสามมิตรซึ่งมีอยู่หลายเสียงไม่ต่ำกว่ายี่สิบกว่าเสียง ออกไปก็จะมีอาฟเตอร์ช็อกตามออกไปอีก ยังหนักใจนะ แต่ผมไม่บอกว่าสามมิตรเขาจะอยู่หรือไม่อยู่

"วราวิทย์" ถามว่า มีข่าวว่า"บิ๊กเนม"ในพลังประชารัฐเริ่มไม่ค่อยพอใจโครงสร้างของพลังประชารัฐ คนรอบข้างมีปัญหาอะไร

"วีระกร" เปิดมากไม่ได้เพราะว่าเราย้ายออกจากพรรคเขาแล้ว เพียงแต่จะบอกว่าการจะเข้าพบ"ลุงป้อม"ยาก โอกาสจะเข้าพบเดือนละครั้งก็ยาก ซึ่งจะแตกต่างจากที่เราเป็นนักการเมืองมา 40 ปีในชีวิต 40 ปีในชีวิตเราจะพบหัวหน้าพรรคเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พอเรามาเจอระบบเขาซึ่งไม่ใช่ว่าผิดนะมันเป็นความคุ้นชินของระบบทหารเขาเป็นแบบนี้

"วราวิทย์" ถามว่า มันติดที่ตัวท่านเองหรือติดที่ตัวรอบข้างท่าน

"วีระกร" ก็คงทั้งคู่ด้วยระบบของเขาต้องอย่างนี้ต้องไปนั่งรอ จะได้พบหรือไม่ได้พบอยู่ที่คนรอบข้างอีก

หลังจากที่ "วีระกร คำประกอบ" พลาดพิงถึงการเข้าถึง "พล.อ. ประวิตร วงศ์สุวรรณ" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ "วราวิทย์ ฉิมมณี" จึงได้พูดคุยถึงปัญหาในพรรคพลังประชารัฐ กับ "ไพบูลย์  นิติตะวัน" รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ 

"วราวิทย์" ถามว่าเหตุผลที่ ส.ส.ไหลออก เพราะ การเข้าพบ "พล.อ. ประวิตร" ยากเพราะมี เสธรอบตัว จนทำให้ ส.ส.ลาออกจากพรรค 

"ไพบูลย์" ตอบว่า  ไม่น่าจะมีการกีดกันแบบนั้น  แต่น่าจะมาจาก "พล.อ. ประวิตร" เป็นทั้งหัวหน้าพรรค และรองนายกรัฐมนตรี ภารกิจก็มาก และให้ความสำคัญกับ ส.ส.ที่จะเข้าพบ แต่ยอมรับว่าเวลา ส.ส.
มาพบมีหลายเรื่องเข้ามามาก  ซึ่งปกติ ส.ส.ก็รบกวนทุกเรื่อง 

 

"วราวิทย์" ถามว่า ไพบูลย์เป็นหนึ่งในผู้ที่กีดกันหรือไม่ 

"ไพบูลย์" ปฏิเสธ ไม่ได้อยู่ในสารบบ เพราะเป็นคนที่เข้าพบ "พล.อ. ประวิตร" แต่เรื่องงานเท่านั้น และใช้เวลาไม่มาก 

 

"วราวิทย์" ถามว่า เมื่อเวลาจะพบ "พล.อ. ประวิตร" ต้องติดต่อผ่านใคร หรือไม่ 

"ไพบูลย์" ตอบว่า ไม่ต้อง ส.ส.สามารถติดต่อโทรตรงหา "พล.อ.ประวิตร"ได้ 

 

"วราวิทย์"  โต้แย้งว่า แต่คุณวีระกร บอกว่าโทรหาไม่ได้ เวลาเจอต้องมีบัตรคิว นั่งรอนาน 

"ไพบูลย์" ตอบว่า จริงก็สนิทกับวีระกร อดีตส.ส.  ซึ่งการเดินออกจากพรรค พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ห้ามแต่หาก ส.ส.ในพรรคอยากใก้ลชิด ก็พร้อมรับฟังความคิดเห็น และให้โอกาสหากใครจะเดินออกไป ส่วนทีมเสธ.เป็นทีมทำงานทุกอย่างที่ปกติ  ซึ่ง"พล.อ.ประวิตร"เป็นผู้บริหารประเทศ ซึ่งการไม่ได้พบส.ส.ก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ตำหนิกัน โดย"พล.อ.ประวิตร" พร้อมรับฟังเสียงทักท้วงตลอด  อีกทั้ง ส.ส.ที่ลาออกไปก็เคารพการตัดสินใจ 

 

"วราวิทย์" ถามว่า  จะทำให้พรรคระส่ำมั้ย กรณีจังหวัดนครสวรรค์ ก็มีคนออกไปเยอะ

"ไพบูลย์" ตอบว่า การที่พรรคโดนดูด ส.ส. หรือ ย้ายออก ก็เสียดาย แต่ต้องแยกเรื่องพรรคมีปัญหาคนละเรื่องกันพรรคยังมีส.ส.อยู่อีกเยอะ 84 คน แม้จะมีคนที่เตรียมย้ายออก ประมาณ 10 คน แต่ยังมีคนไหลเข้าพรรคอีกมาก ยอมรับว่าเสียดาย"คุณวีระกร"เป็น ส.ส.คุณภาพ  แต่มั่นใจว่าพลังประชารัฐยังมีความมั่นคงมาก ส่วนสถานการณ์ที่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ  หรือ ส.ส.ไม่อยู่ ก็เสียดาย แต่หากอยู่แล้วพรรคมีปัญหาต้องยอมแต่ก็มี ส.ส.จากพรรคอื่นเข้ามา  เช่น คุณมิ่งขวัญ  เชื่อว่า พรรคพลังประชารัฐ จะมีการปรับโฉม และมีทีเด็ด ของจริง เพื่อรวบรวมส.ส.จำนวนมาก เพื่อจัดตั้งรัฐบาลและ "พล.อ. ประวิตร" จะเป็น นายกรัฐมนตรีด้วย 

กลับมาที่ คุณวีระกร คำประกอบ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย 

"วราวิทย์" ถามว่า "คุณวีระกร" ขี้น้อยใจไปหรือไม่ เพราะส.ส.โทรหาได้ตามที่ คุณไพบูลย์ บอก 

"วีระกร" ตอบว่า  ไม่ใช่หรอก ลองสุ่มให้ ส.ส.โทรหาดูซิ  จริงๆท่านไพบูลย์ เป็น รองหัวหน้าพรรค มีข้อยกเว้น 

 

"วราวิทย์" ถามว่า  หากมองเกม พลังประชารัฐ น่าจะมีดีกว่ามีความได้เปรียบเพราะจะเป็นตัวแปรที่ทั้งสองขั้วอยากนำไปร่วมรัฐบาล แต่ ภูมิใจไทย อาจถูกผลักไปอีกขั้ว 

"วีระกร" ตอบว่า  ก่อนที่จะมองเกมร่วมรัฐบาล  อยากให้ตัดเรื่อง เสียง ส.ว. 250  ออกไปก่อน แต่ให้มองถึงหลังวันที่ 6 เมษายน 2567 หลังจากที่ "พล.อ.ประยุทธ์" มาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งใหม่ 10 เดือน ต้องมองไปที่จุดไหน ที่รวมไทยสร้างชาติ เหลือเพียง 30-40 เสียง ส่วนพลังประชารัฐ เหลือ 50 เสียง แล้วมาร่วมกันเป็นรัฐบาล โดยมีภูมิใจไทยได้เสียงมาก ถึง 120 เสียง ถามว่าอะไรจะเกิดขึ้นต้องมองให้ไกลๆ แต่การที่พล.อ. ประยุทธ อยู่จะเป็นช่วงที่อำนาจของวุฒิสมาชิกที่จะยกมือให้ เหลือเพียงแค่ 10 เดือนจะอยู่อย่างมีความสุขหรือไม่ ไม่ทราบได้แต่ส่วนตัวหากเทียบกับสมัยรัฐบาลเสียงข้างน้อย 18 เสียงของ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธ์ ปราโมทย์ ช่วงเวลานั้นจะเกิดการต่อรองจากพรรคร่วมรัฐบาลตลอดและอยู่ได้เพียง 8 เดือน  ไม่มีความสุขซึ่งตนเองมองว่า สถานการณ์ไม่แพ้กันจะมีการต่อรองเรื่องตำแหน่งตลอดไป  จะอยู่อย่างไม่มีความสุขเช่นกัน  เพราะช่วง 10 เดือนที่เหลือ ก็จะต้องยกหูหาหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ผ่านงบประมาณก็ลำบาก เชื่อว่าภูมิใจไทยจะเป็นแกนนำรัฐบาล ส่วนเพื่อไทยจะเป็นเสียง ส.ส.มากสุดในขั้วฝ่ายค้าน  และเชื่อว่า ส.ว. 250 จะไม่เลือก ภูมิใจไทย แต่ต้องดูหลังการเลือกตั้งก่อน 

 

"วราวิทย์" ถามว่า เส้นแบ่งคือ อำนาจ ส.ว.250 ที่คอยสนับสนุน พลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ  

"วีระกร" ตอบว่า  ส.ว.250 เป็นตัวแปร แต่จะมีเวลาแค่ 10 เดือน 

"วราวิทย์" ถามว่า แล้วพี่น้อง 3 ป.ละ 

"วีระกร" ตอบ ต่างคนต่างเดิน แต่ความเป็นนักการเมือง กับนักการทหารคิดต่างกัน จึงเลือกที่จะอยู่แบบสบายๆ เดินออกมาจาก พลังประชารัฐดีกว่า 

 

คลิป>>> เบื้องลึก "วีระกร"ย้ายค่ายมองข้ามช็อตเกมการเมือง