svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

เร่งเคลียร์เส้นทางหลังดินสไลด์ลงปิดทับเส้นทาง ขณะที่ สนทช.เตือนรับมือฝนตกหนักในพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน จ.น่านน้ำทะลักท่วม จมน้ำบ้าน 500 กว่าหลังคาเรือน จ.พะเยาใช้โดรนช่วยลุงกลางน้ำป่าทะลัก ส่วนจ.พิจิตรน้ำท่วมยังสูง

22 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลัง ฝนภล่มพื้นที่ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย จนมีหลายพื้นที่น้ำท่วมสูง และน้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ปิดเส้นทาง จนบ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก ในหลายจังหวัด 

 

แม่ฮ่องสอน-เร่งเคลียร์เส้นทางค้าชายแดนไปช่องทางบ้านห้วยผึ้ง ต.ห้วยผา อ.เมือง ฯ หลังดินสไลด์ลงปิดทับเส้นทาง

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

 

ทั้งนี้ นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก อส.ที่ประจำป้อมยาม/จุดตรวจบ้านทรายขาว ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ว่า ได้เกิดดินภูเขาสไลด์ลงปิดทับเส้นทางระหว่างบ้านห้วยผึ้ง – ช่องทางจุดผ่อนปรนเพื่อการการค้าห้วยผึ้ง เนื่องจากช่วง 18-20 สิงหาคม 2567 ได้เกิดฝนตกต่อเนื่อง ต้นไม้ล้ม และดินสไลด์ ทำให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไป-มา ได้ โดยผู้ประกอบการค้าชายแดนได้สนับสนุน เครื่องจักร รถแบคโฮ เข้าดำเนินการ ปรับเกลี่ยดินสไลด์ เพื่อเปิดเส้นทาง และสามารถดำเนินการเปิดเส้นทางได้เมื่อเวลา 17.00 น.เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.67) ผ่านได้เป็นปกติ

 

สำหรับเส้นทางสายดังกล่าวเป็นเส้นทางลำเลียงสินค้าจากแม่ฮ่องสอน ส่งออกไปยังประเทศเมียนมา และเป็นช่องทางการค้าหลักของจังหวัดที่มีมูลค่าการค้าสูงที่สุด ในห้วงฤดูฝนเป็นต้นมา พบว่า ในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะช่องทางบ้านห้วยผึ้งมีฝนตกชุกมาก ทำให้ดินภูเขาสไลด์ลงปิดทับเส้นทาง มาแล้ว 6 ครั้ง 

นอกจากนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้ออกประกาศ ฉบับที่ 11/2567 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยทาง สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 24 – 30 สิงหาคม 2567 ดังนี้ ในพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ทั้ง 7 อำเภอได้แก่

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

1.อำเภอปาย

2.อำเภอปางมะผ้า

3.อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน

4.อำเภอขุนยวม

5.อำเภอแม่ลาน้อย

6.อำเภอแม่สะเรียง

7.อำเภอสบเมย

 

โดยได้เน้นให้เฝ้าระวังพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ริมน้ำ และพื้นที่เกิดเหตุซ้ำซาก รวมถึงอำเภออื่นที่มีฝนสะสม

 

โดย สทนช. จะดำเนินการทำแผนที่คาดการณ์รายวันและสามวัน จึงขอให้หน่วยงานในพื้นที่นำแผนที่คาดการณ์ไปประกอบในการเฝ้าระวัง) ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้ 

1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน (สภาพพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ควรเฝ้าระวังเมื่อเกิดฝนตกหนักสะสม 24 ชั่วโมง มากว่า 40 มิลลิเมตร ในพื้นที่ให้แจ้งเตือนศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการณ์ฉุกเฉินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเมื่อเกิดฝนตกหนัก สะสม 24 ชั่วโมง เกิน 70 มิลลิเมตร ให้ชุดปฏิบัติการในระดับต่างๆ เข้าพื้นที่ทันที ) 


2. ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและพนังกั้นน้ำ เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ อาคารชลศาสตร์ให้พร้อมใช้งาน และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ 
3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก น้ำในลำน้ำ รวมถึงเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ 


4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์

 

พะเยา-นาทีระทึก!! ใช้โดรนช่วยลุงชัย ติดกระท่อมกลางนาถูกน้ำป่าพัด

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

เมื่อวานนี้ สภาพอากาศเกิดฝนตกหนักทั้งวันทั้งคืนจนเกิดน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่อำเภอปง จังหวัดพะเยา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ไร่นา อย่างรวดเร็ว จนเป็นเหตุให้ นายชัย อายุ 56 ปี ชาวบ้านบ้านแสะ ม.6 ต.ควร อ.ปง จ.พะเยา ได้รีบเดินข้ามลำน้ำห้วย ไปในไร่นา ท้ายหมู่บ้านเพื่อเก็บสิ่งของ ใต้กระท่อม ไว้ข้างบน

 

ขณะเดียวกันได้มีมวลน้ำป่าไหลเชี่ยวกรากมาอย่างเร็ว และพัดเอากระท่อมจน พัง หายไปกับสายน้ำ จนตัวเอง ยืนจับต้นไม้ ไว้แน่น และไม่สามารถเดินข้ามฝ่ากระแสน้ำที่ไหลแรงมาขึ้นฝั่งได้ 

 

จึงตะโกนร้องเรียกเพื่อน บ้านและญาติ ช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ จนต้องแจ้งผญบ.กำนัน เจ้าหน้าที่ อบต. ควร นำเอารถแบคโฮ มาใช้แขนรถยื่นไปช่วยแต่ไม่ถึง แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ อีกทั้งกระแสน้ำป่าไหลแรงและมีระดับเพิ่มสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง และหาวิธีช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพราะช้าลุงชัยจะถูกน้ำป่าพัด ไหลไป 

 

โดยทาง เจ้าหน้าที่ อบต.ควร และทีมงาน นายอนุกุล จำแน่ และนายวิทยา คำหล้า ได้ใช้โดรนตัวใหญ่ที่ใช่พ่นยาของตนเอง มาดัดแปลงเป็นโดรนนักกู้ภัยช่วยเหลือลุงชัย ที่ถูกน้ำป่าไหลเชี่ยวพัดอยู่ไว้กลางทุ่งนา แทนคน โดยใช้โดรน ผูกเชือก มัดเสื้อชูชีพ ส่งไปให้ลุงชัย กลางน้ำป่า ที่ไหล ใส่ไว้พร้อมกับเชือกส่งไปให้ลุงชัยมัดลำตัว 1 เส้น และผูกมัดต้นไม้ไว้ 1 เส้น และให้ลุงชัย จับเชือกไว้แล้วให้

 

หลังจากนั้นส่งสัญญาณเสียงด้วยผ่านโทรโข่ง บอกให้ลุงชัยพร้อม ก็ทำการดึงตัวลุงชัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวมาขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางเสียงลุ้นด้วยความเสียว ท่ามกลางชาวบ้านและญาติต่างแสดงความดีใจที่ลุงชัย ปลอดภัย ในครั้งนี้ 

 

โดยวันนี้ในพื้นที่อำเภอปงยังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำป่าไหลหลาก ท่วมถนน ขาด บ้านเรือน ไร่นา เรือกสวน อย่างหนักหลายทั้งอำเภอ เนื่องจากอำเภอปงเป็นพื้นที่มีภูเขาล้อมรอบอยู่กลางหุบเขา

 

น่าน – ฝนถล่ม น้ำทะลัก บ้านเรือนจมน้ำแล้ว 500 กว่าหลังคาเรือน 

 

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดน่าน ขยายวงกว้างใน 8 อำเภอ ได้แก่

1.อำเภอเฉลิมพระเกียรติ

2.อำเภอทุ่งช้าง

3.อำเภอเชียงกลาง

4.อำเภอปัว

5.อำเภอท่าวังผา

6.อำเภอบ้านหลวง

7.อำเภอเวียงสา

8.อำเภอนาน้อย

 

โดยฝนที่ตกหนักส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำ และแม่น้ำสาขาต่างๆ เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับประชาชนจำนวนมาก ขณะที่ระดับน้ำที่ อำเภอท่าวังผา เข้าสู่วิกฤต ระดับน้ำได้ล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถเก็บข้าวของหนีน้ำได้ทัน ทำได้เพียงย้ายรถยนต์หนีน้ำไปจอดไว้ที่เกาะกลางถนน

 

โดยน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ใน10 ตำบล 68 หมู่บ้าน โดยเฉพาะที่บ้านท่าวังผา ม.2 และ ม.7 และบ้านอาฮาม ม3. สบยาว ม4 ต.ท่าวังผา ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้าน 500 กว่าหลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมหลายหลังเป็นบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปอาศัยอยู่บ้านญาติ และที่จุดอพยพที่ทางอำเภอจัดเตรียมไว้ที่โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม และล้นทะลักเข้าท่วมถนนสาย 101 ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ระดับสูงกว่า 1 เมตร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านสัญจรได้ 

 

โดยเมื่อเวลา 20.00 น. (วันที่ 21 ส.ค.67) นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย นายสุทัศน์ จินตเวชศาสตร์ นายอำเภอท่าวังผา และ นายวรวิทย์ อินต๊ะใจ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงเรือเข้าพื้นที่น้ำท่วมอำเภอท่าวังผา สำรวจความเดือนร้อนของชาวบ้าน พร้อมเร่งจัดอาหารและน้ำดื่มเข้าแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ติดค้างอยู่ในบ้านเรือน โดยมีทางมูลนิธิเพชรเกษมน่าน นำเรือเข้าไปส่ง และรับส่งชาวบ้านที่มีความต้องการออกมาข้างนอก ขณะที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติมีดินสไลด์ทับเส้นทางหลายจุด 

 

โดยหนักที่สุดที่ ระหว่างบ้านด่านหมู่ 3 ตำบลขุนน่านมุ่งหน้าบ้านนาคุ หมู่ 5 ตำบลขุนน่าน ระหว่างบ้านเปียงก่อ หมู่ 2 ตำบลขุนน่าน -บ้านด่านหมู่ 3 ตำบลขุนน่าน ระหว่างบ้านง้องเปาหมู่ 1 ตำบลขุนน่าน-บ้านเปียงก่อหมู่ 2 ตำบลขุนน่านทั้ง 3 จุดดินได้สไลด์ลงมาทับเส้นทางรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ 

 

นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ฝนยังคงตกหนักสลับเบาอยู่อย่างนี้จนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่ริมตลิ่ง พื้นที่ลุ่มต่ำระมัดระวัง เตรียมการ เฝ้าระวังและติดตามข่าวอากาศอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้ประสานทุกหน่วยเฝ้าระวังพร้อมออกช่วยเหลือประชาชน และเตรียมแผนรับมือกับมวลน้ำขนาดใหญ่จากทางสายเหนือที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อำเภอเมืองน่าน

 

คาดว่าจะเกิดน้ำล้นตลิ่ง พื้นที่ลุ่มต่ำในคืนนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้มีน้ำล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองน่านบางส่วนได้ โดยทางเทศบาลเมืองน่านได้มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำและปิดประตูระบายน้ำทั้งหมดบริเวณริมน้ำน่าน ด้านนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ได้กล่าวว่า เนื่องด้วยมีฝนตกสะสม ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านลำน้ำสาขา ลำน้ำห้วยลี่ เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง 

 

จึงได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ณ คลองเจ้าฟ้า อาจจะระบายน้ำปริมาณมากในตัวเมืองไม่ทันซึ่ง ตอนนี้ในเขตเทศบาลเมืองน่าน ได้มีน้ำระบายไม่ทันทำให้เอ่อล้นเข้า ในเขตเทศบาลหลายจุด ทั้งนี้ทั้งนั้น ให้ประชาชนที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมในที่ลุ่มต่ำขอให้ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองน่าน โดยเฉพาะชุมชนที่เคยประสบภัยน้ำท่วม เมื่อปี พ.ศ.2554 เก็บข้าวของเครื่องใช้ขึ้นบนที่สูงและเตรียมอาหาร+น้ำดื่ม+ยารักษาโรค ให้พร้อมเพื่อเตรียมรับสถานการณ์มวลน้ำ ที่จะไหลเข้ามาถึงตัวเขตเทศบาลเมืองน่าน ประมาณตี 1 - ตี 2 ของวันที่ 22 สิงหาคม ณ เวลา 24.00 น. N1 จุดวัดระดับน้ำกาดแลง เขตเทศบาลเมืองน่าน อยู่ที่ 7.87 เมตร   เวลา 24.00 น้ำ. N64 สะพานผาขวาง 10.00 เมตร สถานการณ์ระดับน้ำก็ได้เพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ

 

 


พิจิตร-น้ำท่วมยังสูง

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

ภาคเหนืออ่วม! แม่ฮ่องสอนดินสไลด์ พะเยาใช้โดรนช่วยลุงติดกลางน้ำป่าทะลัก

 

 

ที่ จ.พิจิตร สถานการณ์น้ำท่วมยังคงเพิ่มขึ้นสูงหลังคันกั้นน้ำแตก มีทรัพย์สอนของชาวบ้านเสียหายจำนวนมาก หลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมในเขตตำบลห้วยพุก อำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร คันกั้นน้ำคลองห้วยพุก พังก็ทำให้น้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยล่าสุดวันนี้ระดับน้ำยังคง เพิ่มขึ้นสูง เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และยังมีน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรไหลมาสมทบ

 

ทำให้หมู่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านใดลึก ตำบลห้วยพุก ที่อยู่ใกล้คันกั้นน้ำพัง ยังคงถูกน้ำท่วมขังสูง ทรัพย์สินชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังรายรายการ เช่นตู้เสื้อผ้า ที่เย็น ที่ไม่สามารถขนหนีน้ำได้ทันเกิดความเสียหาย บางหลังเสียหายทั้งหมดเนื่องจากในขณะเกิดเหตุ ไม่มีคนอยู่บ้าน 

 

ด้าน นายที พันแดง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านใดลึก เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้นำเต้นท์มากางให้ชาวบ้าน 8-10 ครอบครัวที่ไม่สามารถนอนบนบ้านได้มานอนบนถนน ส่วนสาเหตุที่คันคลองแตกเพราะคันคลองต่ำ เมื่อมีน้ำมาจำนวนมากก็พังลง ส่วนการช่วยเหลือชาวบ้าน ชาวบ้านเองก็พยามช่วยเหลือกันยกสิ่งของหนีน้ำแต่มีบ้านที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้เพราะเจ้าของบ้านไม่อยู่ทำให้ไปช่วยยกขอหนีน้ำไม่ได้ ล่าสุดสถานการณ์ยังคงมีน้ำเพิ่มสูงจากฝนที่ตกลงมาและน้ำด้านบนยังมีปริมาณมาก โดยน้ำชุดนนี้จะไหลไปทางจังหวัดนครสวรรค์ต่อไป