svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

อึ้ง 2 ฝ่ายงัดหลักฐานโต้เดือดออกสื่อ เปิดความจริงปมร้อนนักร้องถูกลวงขืนใจ

คู่กรณีปมสาวแจ้งความถูกเจ้าของร้านเหล้าลวงไปขืนใจ งัดหลักฐานโต้กันเดือดออกสื่อ พร้อมเปิดวงจรปิดในหมู่บ้าน เผยความจริงคืออะไรกันแน่ ฝ่ายนักร้องสาวร่ำไห้กลางรายการ

จากกรณี หนุ่มนักดนตรี พาแฟนสาวไปแจ้งความเอาผิด สองผัวเมียเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง พื้นที่ สภ.ลำลูกกา ว่าถูกลวงไปขืนใจ และทำร้ายร่างกาย ต่อมาอีกฝ่ายที่ถูกแจ้งความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมนำคลิปหลักฐานมายืนยันกับตำรวจว่าไม่ได้มีการขืนใจแต่อย่างได้ แต่เป็นการสมยอมกันทั้งสองฝ่าย  

วันที่ 8 สิงหาคม 2567 คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้ไปออกรายการ "โหนกระแส" เพื่อให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยฝ่ายนักร้องสาว (ผู้เสียหาย) ระบุในรายการว่า วันที่เกิดเหตุได้นั่งดื่มอยู่ที่ร้าน หลังจากร้านปิด สามีซึ่งเป็นมือกลอง เดินทางกลับไปก่อน โดยตนเองได้นั่งดื่มต่อกับภรรยาเจ้าของร้านจนเมา ต่อมาภรรยาเจ้าของร้านชวนไปดื่มต่อที่บ้าน ซึ่งไปตอนไหนไม่รู้ จำได้แค่ว่าไป และพอไปถึง ภรรยาเจ้าของบ้านให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดอะไรไม่รู้ จำไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็ใส่ หลังจากนั้นภรรยาเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของร้าน ได้เดินจูงมือตนเองขึ้นไปบนห้อง พอเปิดประตูเข้าไปก็เจอฝ่ายชายซึ่งเป็นเจ้าของร้านที่ตนเองไปทำงานนอนอยู่ หลังจากนั้น ตนก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ภาพตัดไป มารู้เรื่องอีกทีคือคิดว่าตนเองน่าจะถูกล่วงละเมิดไปแล้ว จึงเอะใจว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากเห็นฝ่ายภรรยาเจ้าของร้านกำลังเอากล้องมือถือมาถ่ายตนเองเอาไว้ จึงตกใจ และตะโกนไปว่า "มึงหลอกกู กูจะเอาพวกมึงเข้าคุก" จากนั้น เธอพยายามหนีออกมา เมื่อมาถึงด้านล่างมีคนพยายามมาดึงเธอไว้ 

อึ้ง 2 ฝ่ายงัดหลักฐานโต้เดือดออกสื่อ เปิดความจริงปมร้อนนักร้องถูกลวงขืนใจ

ขณะเดียวกัน ก็ตนเองพยายามกดโทรศัพท์วีดีโอคอลไปหาแฟนหนุ่มให้มาช่วย เมื่อแฟนหนุ่มรับโทรศัพท์ คุยกันได้ไม่นานได้ยินฝั่งทางภรรยาเจ้าของร้านตะโกนเข้ามาด้วย และยังมีการปักหมุดที่อยู่ไปในแชทข้อความ โดยคนที่ปักหมุด คือ ฝ่ายที่อยู่บ้านของเมียเจ้าของร้าน เพื่อให้สามีของเขามารับตัว 

ฝ่ายนักร้องสาว (ผู้เสียหาย) บอกอีกว่า  ระหว่างที่เธอโทรศัพท์ได้ถูกผู้หญิงที่อยู่บ้านเมียเจ้าของบ้าน ยึดมือถือไป จากนั้น เธอจึงเดินไปหา รปภ.หมู่บ้าน เพื่อขอยืมโทรศัพท์ รปภ.โทรหาแฟนให้มารับจนกระทั่งแฟนเดินทางมารับตัวไป

"หนุ่มมือกลองแฟนร้องสาว" ผู้เสียหาย ระบุว่า วินาทีแรกที่เห็นแฟนสาว ยืนอยู่กับ รปภ. พอเขาเห็นรถ เขาก็เดินมาขึ้นรถจากนั้นก็ขับออกมา แต่ระหว่างที่ขับรถออกมา มีผู้หญิง กับสาวประเภทสอง เดินมาหาเพื่อจะขอคุย แต่ตนเองไม่ได้คุย แล้วขับรถออกมา

ส่วนสภาพใบหน้าแฟนสาวตอนนั้น ยังไม่เห็น คือ ขึ้นรถมาแล้วค่อยเปิดไฟดู ก็เห็นตาข้างขวาเป็นรอยแดงจุดเดียว ส่วนคลิปที่มีเลือดออกจมูก ไม่รู้ว่าออกตอนไหน แต่เป็นสะเก็ดเลือดแล้ว เป็นภาพช่วงประมาณ 9-10โมง วันเดียวกันที่เกิดเหตุ 

ทั้งนี้ หลังจากแฟนสาวไปหาหมอ ก็บอกกับตนเองว่ามีคลิปให้ดู ตนจึงบอกมีอะไรให้ส่งมาจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และจะเอาผิดกับใครยังไงบ้าง 

ด้านภรรยาเจ้าของร้านอาหาร บอกว่า วันนั้นมีการนั่งดื่มด้วยกันจริง ปกติเวลาเขามาร้องเพลงที่ร้าน ก็จะชวนกันดื่มอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ดื่มกันสองคน มีน้องที่ร้านนั่งดื่มด้วย ระหว่างนั้นได้ถามเขาว่าแฟนกลับไปหรือยัง น้องบอกว่าน่าจะยังคงนั่งกินต่อที่หน้าร้าน เนื่องจากเป็นวันเกิดมือกีตาร์ ต่อมาถามอีกว่าแฟนกลับหรือยัง น้องบอกว่าคงเขากลับไปแล้ว ตนจึงบอกว่าเดี๋ยวทะเลาะกันนะ ให้โทรไปให้มารับ แต่ก็ยังนั่งกินกันไปเรื่อย ช่วงนั้นน้องน่าจะมึนๆ ยังไม่เมาถึงขนาดไม่รู้เรื่อง จนนั่งไปสักพักน้องบอกขอไปนอนที่บ้านด้วย เพราะเข้าห้องไม่ได้ ตนเองจึงชวนน้องที่ร้านไปด้วย ว่าไปกินต่อที่บ้านพี่ไหม จากนั้นจึงพาไปที่บ้าน เมื่อไปถึงก็นั่งดื่มที่ข้างล่าง ผ่านไปประมาณ 10-15 นาที น้องขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ตนเลยบอกโอเค จะขึ้นไปบอกสามีด้วยว่ามาถึงบ้านแล้ว

พอไปถึงห้องสามีตนก็นอนอยู่ และตนเองกำลังจะหาชุดให้ แต่น้องเขาก็ถอดชุดตัวเองออกหมดแล้วที่ปลายเตียง ไม่ยอมเดินตามมาเอาชุดที่ตู้เสื้อผ้า ซึ่งชุดที่เตรียมให้เป็น "ชุดนอน แต่ไม่ได้นอน" เนื่องจากก่อนหน้านี้อยู่ที่้ร้านน้องพนักงานเสิร์ฟเอาชุดนอนมาขาย 2 ชุดเลยแบ่งให้ชุดหนึ่ง แต่น้องอยากใส่ชุดนอนไม่ได้นอน แล้วมานอนที่บ้าน จึงเอาชุดนั้นให้เขาใส่ และส่วนมากตนก็มีชุดนอนแบบนั้น และหลังจากที่น้องถอดบาร์ออกก็ไปคร่อมสามีตนเอง

ขณะที่ ชายเจ้าของร้าน หรือ เดี่ยว (นามสมมติ) บอกว่า น้องผู้หญิงเดินมาที่ปลายเตียงแล้วถอดเสื้อเลย จากนั้นภรรยาเลยรีบเอาชุดนอนให้ใส่ จากนั้นเข้าเดินมานั่งเอนหลังมาทับโดนของลับตนเอง ยืนยันว่าฝ่ายนักร้องสาวเริ่มก่อน ไม่ได้เป็นละเมิดใดๆ แต่เป็นการสมยอมกัน

จากนั้น ย้ายไปอีกห้องพร้อมกัน 3 คน ซึ่งน้องเขายังถามภรรยาตนว่า พี่โกรธหนูไหม ภรรยาตนเลยตอบว่า xx ไม่โกรธหรอก ซึ่งการทำแบบนี้เป็นรสนิยมของเราสองคน 

นอกจากนี้ ทางสองสามีภรรยาเจ้าของบ้าน ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าบ้านมาเปิดในรายการ เพื่อยืนยันกรณีที่น้องบอกว่าวิ่งออกมาจากบ้าน โดยในคลิปวงจรปิดดังกล่าวพบว่า น้องเดินออกจากบ้านแบบปกติ มีเซๆ และมีน้องที่ร้าน หรือ ซี(นามสมมติ) เดินตามไป 

อึ้ง 2 ฝ่ายงัดหลักฐานโต้เดือดออกสื่อ เปิดความจริงปมร้อนนักร้องถูกลวงขืนใจ

คุณเดี่ยว (นามสมมติ) กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้เดินไปถาม รปภ.หมู่บ้านที่เข้าเวรคืนนั้นว่าเห็นใบหน้าหญิงสาวมีรอยอะไรหรือไม่ ซึ่ง รปภ.ยืนยันว่าไม่เห็นหน้ามีอะไร ใบหน้าเขาก็ปกติ และเขาพร้อมเป็นพยานให้ด้วย

ขณะที่ นักร้องสาวผู้เสียหาย ยืนยันว่า เมียเจ้าของร้านเป็นคนประเคนตัวเขาให้กับสามี ส่งถึงที่เลย ตอนนั้นตนจำได้ว่า สามีเขานอนเล่นโทรศัพท์อยู่ ส่วนบาดแผลที่เกิดขึ้น เชื่อว่าเป็นพี่ที่อยู่ในบ้านทำร้าย

"พี่เขาเป็นหัวหน้าที่ดีมาก หนูยอมรับที่อยู่ที่ร้าน หนูรักเจ้ รักหัวหน้า ถ้าวันนั้นหนูเมามาก จนหนูแก้ผ้าแล้วทำแบบนั้น ทำไมไม่ดึงหนูออกมาจากผัวพี่ แล้วเอาหนูลงไปข้างล่าง  หนูอยากเปลี่ยนชุด ทำไมไม่เอาชุดไปให้เปลี่ยนข้างล่าง ทำไมให้แก้ผ้าต่อหน้าผัวพี่ แล้วปล่อยให้หนูกับผัวพี่มีอะไรกันแล้วนั่งดู" สาวนักร้องผู้เสียหาย กล่าวทั้งนำตา

ภรรยาเจ้าของร้าน ระบุว่า ก็เห็นว่าน้องเขาสมยอม ปกติตนก็มีรสนิยมแบบร่วมเพศสามคน ถ้ามีบางโอกาสก็ปล่อยทำไป

ด้านน้องที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น เล่าว่า ยืนยันว่านักร้องสาวไม่ได้เมาขนาดนั้น ยังมีสติอยู่ และหลังที่พี่นักร้องขึ้นไปข้างบน พี่เขาก็เดินลงมาปกติ ไม่มีอาการ้องไห้อะไรเลย และพูดวนไปวนมา ว่า อยากกลับบ้านสุพรรณ ไปให้ลูกไหว้ เจ้าของบ้านก็บอกให้เงียบ เขามายอมบอกจะกลับบ้านอย่างเดียว

คุณเดี่ยว (นามสมมติ) กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ 2-3 อาทิตย์ น้องเคยโทรมาปรึกษา จะขอยืมเงินหลายหมื่นบาท บอกว่าจะไปใช้หนี้นอกระบบ ตนบอกไม่สะดวก เขาก็โทรไปหาหุ้นส่วน และภรรยาอยู่ต่อเนื่อง แต่ตนก็ไม่อยากคิดในเรื่องนี้ ซึ่งนักร้องสาว ยืนยันว่า ไม่ได้เรียกร้องอะไร เป็นการแจ้งความดำเนินคดีตามปกติ 

อึ้ง 2 ฝ่ายงัดหลักฐานโต้เดือดออกสื่อ เปิดความจริงปมร้อนนักร้องถูกลวงขืนใจ

ด้านนายปรเมศวร์ อิทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สรุปเบื้องต้น คือ เมา และมีการร่วมประเวณี ซึ่งอาจเข้าข่าย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา  276 ระบุว่า ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ แม้ว่าจะดูเป็นเหมือนยอม แต่เป็นการกระทำในภาวะที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาจจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำอื่นใด จนหญิงนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่อาจขัดขืนได้ กรณีที่ฝ่ายชายเจ้าของบ้าน ระบุว่า ถือเป็นเรื่องโชคดีที่ถ่ายคลิปไว้ ก็อาจจะไม่โชคดีก็ได้ พร้อมยกตัวอย่างคดีของ "สมรักษ์" ที่ผู้หญิงซ้อนท้ายไปด้วย ยังโดนฟ้องคดีแล้ว

ภรรยาเจ้าของบ้าน ยังกล่าวอีกว่า ถ้าน้องบอกไม่มีสติ ทำไมตอนเอาถุงยางไปให้ น้องยังบอกว่าไม่เป็นไร ทำหมันแล้ว โดยช่วงนี้ นายปรเมศวร์ พยายามแนะนำว่าอย่าพยายามพูดอะไรมากกว่านี้ เพราะการเอาถุงยางไปให้ถือว่าร่วมเลยนะ ให้ใจเย็นๆ บางเรื่องอย่าตอบเยอะ เพราะอยู่ในคดี