เชียงใหม่เปิดผับถึงตี 4 วันแรก นักท่องเที่ยวต่างชาติ เมาขับเก๋งชนคนงาน ดับ 1 ราย

16 ธันวาคม 2566 เมื่อเวลา 03.55 น. ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนงานวางสายเคเบิลลงดิน บริเวณด้านหน้าลายไทยเกสท์เฮ้าส์ ถนนคชสาร อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จึงประสานสมาคมกู้ภัยร่วมล้านนาเชียงใหม่ เดินทางไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นคนงานวางสายเคเบิ้ลลงดิน สัญชาติลาว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นคนงานเช่นกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงเร่งช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

นอกจากนี้ยังพบรถเก๋ง สีขาว สภาพด้านหน้าพังยับเยิน มีชายต่างชาติเป็นคนขับ ทราบชื่อต่อมาคือ MR.WISDOM OKYERE อายุ 26 ปี นักท่องเที่ยวชาวกานา นั่งอยู่ริมถนน ในสภาพมึนเมา

สอบสวนนักท่องเที่ยวรายนี้ บอกว่า เดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 2 สัปดาห์ และได้เช่ารถขับ ก่อนเกิดเหตุไปดื่มที่ผับแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่กับเพื่อน เมื่อออกจากสถานบันเทิงและกำลังขับรถกลับที่พัก ไม่เห็นว่ามีการทำงานวางสายเคเบิ้ลอยู่ จึงขับรถพุ่งชนจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้นตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์ ซึ่งวัดได้ 121 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเกินกว่ากฎหมายกำหนดที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงได้ควบคุมตัวดำเนินคดีพร้อมแจ้ง 3 ข้อหา คือ

• 1.เมาแล้วขับ
• 2.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
• 3.ไม่มีใบอนุญาติขับขี่ 

พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่คนงานกำลังวางสายเคเบิลลงดินอยู่บนถนนคชสาร ริมคูเมืองเชียงใหม่ ปรากฏว่ามีรถยนต์เก๋งขับโดยชาวต่างชาติมาด้วยความเร็วสูงชนกลุ่มคนงานถึงแก่ชีวิตและบาดเจ็บ ตำรวจจึงแจ้งข้อหา และนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังแล้ว

ขณะเดียวกัน อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าร้านสุดท้ายที่ผู้ต้องหาไปดื่มกินนั้นคือร้านไหน และมีใบอนุญาติให้เปิดบริการถึงตี 4 หรือไม่  หากพบว่าร้าน กระทำความผิดกฎจะมีการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการด้วย สำหรับอุบัติเหตุครั้งนี้ถือว่าเป็นรายแรกของการเปิดผับถึงตี 4 วันแรกของจังหวัดเชียงใหม่ ตามนโยบายของรัฐบาล

นางพรทิตย์ (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า หลังเหตุการณ์ที่มีนักท่องเที่ยวเมาแล้วขับรถชนคนตาย ทำให้รู้สึกหวาดกลัว และไม่เห็นด้วยกับการขยายเวลาเปิดสถานบริการ เพราะไม่ได้เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจรายได้ แต่จะเป็นการสร้างภาระให้ประชาชนหาเช้ากินค่ำ จะเกิดปัญหาอุบัติเหตุและปัญหาอาชญากรรมตาม และเพิ่งขยายเวลาวันแรกก็มาเกิดเหตุสลดแล้ว อย่างไรก็ตามต้องการให้ทางรัฐบาลทบทวนนโยบายนี้ใหม่ด้วย