
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.00 น. พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด เดินทางไปยัง สภ.เมืองตราด เพื่อติดตามคดีคนร้ายชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง หญิงสาวอายุ 24 ปี ชาว ต.ท่าพริก อ.เมือง จ.ตราด เมื่อช่วงเวลา 19.00 น. ของวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา จนกระทั่งทราบว่าคดีนี้เป็นเรื่องโกหก
ขณะที่ พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด ได้สั่งการทางวิทยุสื่อสาร ให้ทุกสภ. ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อเฝ้าสังเกตลักษณะคนร้ายทั้ง 2 คน พร้อมให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตราด แกะรอยจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาเส้นทางหลบหนี ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจเริ่มพบพิรุธหลายอย่าง เช่น ผู้เสียหายและพื้นที่จุดเกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ เส้นทางหลบหนีของคนร้ายไม่ชัดเจน กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 9 ชั่วโมง ตำรวจจจึงเชื่อว่า คดีนี้น่าจะไม่ใช่เรื่องจริงจึงนำตัวหญิงสาวอายุ 24 ปี มาสอบปากคำที่ สภ.เมืองตราด กระทั่งเวลา 03.00 น. หญิงสาวยอมรับว่าเป็นเรื่องที่โกหก ไม่มีใครมาชิงทรัพย์
พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นคดีที่ 2 แล้วที่มีการแจ้งความเท็จ เวลาห่างกันไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งคดีแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 มีบุคคลอ้างว่าถูกชายฉกรรจ์ 4 คน ปล้นเงินไป 84,000 บาท แต่สุดท้ายเป็นเรื่องโกหก เพราะมีปัญหาเรื่องหนี้สิน ส่วนกรณีที่ 2 นี้ หญิงสาว 24 ปี จะถูกดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ แจ้งความเท็จและเล่นพนันออนไลน์
อย่างไรก็ตาม ขอเตือนไปยังประชาชนชาวตราด เป็นครั้งที่ 2 อย่าแจ้งความเท็จอีก เพราะการแจ้งเหตุในแต่ละครั้ง ตำรวจต้องระดมกำลังเต็มที่เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว และกรณีของหญิงสาว 24 ปี รายนี้ ตำรวจทำงานกันตลอดทั้งคืนไม่ได้พัก แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องโกหก จึงขอให้คนที่กำลังจะแจ้งความเท็จคิดให้ดีๆ เพราะมีโทษตามกฎหมาย