จากเหตุการณ์สู้รบในประเทศอิสราเอล ส่งผลให้มีแรงงานชาวไทยที่เดินทางไปทำงานเสียชีวิตหลายราย โดยทางการอิสราเอลได้ดำเนินการส่งศพที่ยืนยันได้แล้ว กลับมาถึงประเทศไทยวันนี้ จำนวน 8 ศพ ในจำนวนนี้เป็นแรงงานชาวขอนแก่น 2 คน คือ นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ และ นายพิชิต นาจันทร์ ซึ่งทั้งคู่มีภูมิลำเนาใน อ.หนองสองห้อง
โดยที่บ้านของ นายลำเพย กุสะรัมย์ อายุ 62 ปี พ่อของนายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ อายุ 26 ปี และ นายอภิชาติ กุสะรัมย์ อายุ 29 ปี สองพี่น้องแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้มีบรรดาญาติๆ และชาวบ้านต่างมาเฝ้ารอรับร่างของ นายพงษ์เทพ ลูกชายเล็ก ที่ส่งกลับมาก่อน ส่วนนายอภิชาติ พี่ชาย ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์ ซึ่งระหว่างรอศพลูกชาย ผู้เป็นพ่อยังทำใจไม่ได้ คิดถึงลูก ได้แต่ยืนมองรูปที่แขวนไว้ที่ผนัง ขณะที่บรรยากาศโดยรอบบ้านของนายลำเพย บรรดาญาติๆ ได้ช่วยกันจัดเตรียมพื้นที่ เพื่อต้อนรับผู้ที่เดินทางเข้าร่วมสวดพระอภิธรรมในคืนนี้ เป็นคืนแรก
เมื่อรถตู้นำร่างของ นายพงษ์เทพ มาถึงบ้านในเวลา 17.27 น. นายลำเพย ผู้เป็นพ่อได้มาเคาะโลงเรียกลูกชายลงจากรถ ขณะที่ญาติๆ ร่วมจุดธูปทำพิธีเชิญวิญญาณ แล้วพากันกอดคอร้องไห้ จากนั้นร่างของ นายพงษ์เทพ ถูกย้ายไปใส่โลงเย็นตั้งศพไว้ภายในบ้าน มีผู้เป็นพ่อนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง พร้อมกับร้องไห้ตลอดเวลา ทำให้ทีมเยียวยาจิตใจต้องคอยปลอบและคอยประคองนายลำเพยไว้
ทั้งนี้ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายลำเพยก่อนหน้านี้ บอกว่าจะตั้งศพของนายพงษ์เทพ ไว้ที่บ้าน 3 คืน ก่อนจะฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม พร้อมกับ นายพิชิต นาจันทร์ ซึ่งเป็นญาติกัน โดยจะเผาแบบเชิงตะกอน
ขณะที่สำนักงานแรงงานจังหวัดขอนแก่น ได้เดินทางมาแจ้งสิทธิให้กับญาติผู้เสียชีวิต เบื้องต้นจะได้รับเงินช่วยเหลือจากกรมการจัดหางานรายละ 40,000 บาท และการช่วยเหลือจากทางการอิสราเอลอีกรายละ 1 ล้านบาท ซึ่งค่าตอบแทนตามข้อกำหนดจะจ่ายให้เฉพาะภรรยาและบุตรเท่านั้น กรณีนายพงษ์เทพ ไม่มีภรรยาและบุตร จะอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ของทายาทคนอื่นๆเพิ่มเติมจากฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทอาวีฟ
ส่วนที่บ้านของ นายพิชิต รถตู้ได้นำร่างมาส่งถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน คือเมื่อเวลา 17.29 น. ซึ่งทันทีที่รถตู้มาจอดหน้าบ้าน นายสุรศักดิ์ นาจันทร์ อายุ 34 ปี พี่ชายของนายพิชิต และเป็นแรงงานไทยอีก 1 คน ที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล และรอดชีวิตเพิ่งเดินกลับจากอิสราเอลเมื่อวานนี้ รวมทั้ง นายสมซา นาจันทร์ อายุ 58 ปี บิดาของนายพิชิต พร้อมด้วยญาติพี่น้อง ต่างพากันร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้า ท่ามกลางบรรดาชาวบ้านที่มารอรับและให้กำลังใจครอบครัวนาจันทร์
จากนั้นเจ้าหน้าที่ผู้นำส่งศพ ได้ให้ครอบครัวตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร มีนางหมวย นาจันทร์ อายุ 57 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ลูกหลานประคองออกมา เซ็นรับร่างของลูกชายด้วยตนเอง ก่อนลูกหลานจะประคองกลับเข้าไปพักภายในบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่นำส่งศพได้ให้นายสุรศักดิ์ พี่ชายของผู้ตาย จุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณ และยกโลงเข้าไปในตัวบ้าน สำหรับกำหนดการเบื้องต้น ทางครอบครัวนาจันทร์ จะประกอบพิธีสวดอภิธรรมศพของนายพิชิต เป็นเวลา 3 คืน ก่อนจะฌาปนกิจส่งดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้าย