svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

แรงงานไทยในอิสราเอลบอกญาติ 'ถ้าเป็นห่วงไม่ต้องติดต่อ'

แรงงานไทยในอิสราเอลสั่งญาติ ถ้าเป็นห่วงห้ามติดต่อ เกรงโดนจับสัญญาณได้แล้วเป็นอันตราย ด้านพี่สาวบอกกู้หนี้ร่วม 2 แสน เป็นค่าเดินทาง หวังไปขุดทอง แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว อยู่ที่ไหนไม่ปลอดภัยเท่าเมืองไทย หนี้ค่อยหาใช้

วันที่ 9 ตุลาคม 2566 หลังเกิดสถานการณ์ความรุนแรงที่ประเทศอิสราเอล มีการโจมตีด้วยจรวดรวมถึงการสู้รบภาคพื้นดิน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งในจำนวนนี้มีคนไทยรวมอยู่ด้วยหลายคน เนื่องจากมีคนไทยเดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลถึงกว่า 30,000 คน ทั้งยังมีแรงงานไทยถูกกองกำลังฮามาสจับกุมไปด้วย
    
ผู้สื่อข่าวรายงานได้เดินทางไปยัง ต.ช่อผกา อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของ นายประมาณ เคนพันค้อ อายุ 35 ปี  หนึ่งในแรงงานไทยในอิสราเอล ที่ยังไม่รู้ชะตากรรม หลังจากแจ้งกับครอบครัวครั้งสุดท้าย ว่า 'ถ้าเป็นห่วงไม่ต้องติดต่อไป' 

แรงงานไทยในอิสราเอลบอกญาติ  'ถ้าเป็นห่วงไม่ต้องติดต่อ'

นางบุญล้อม บุญคำ อายุ 57 ปี พี่สาวคนโตของนายประมาณ กล่าวทั้งน้ำตาว่า น้องชายนำที่ดินของครอบครัวไปจำนองเป็นเงินร่วม 200,000 บาท  โดยหวังจะไปหารายได้ที่มากกว่าอยู่เมืองไทย  เพิ่งไปได้ประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้น  หลังทราบข่าวว่ามีสงครามก็รู้สึกตกใจมาก  เกรงว่าน้องจะได้รับอันตราย ที่ผ่านมาตั้งแต่น้องไปทำงาน จะส่งคลิปการทำงานมาให้ครอบครัวดูเป็นประจำ หลังจากมีการยิงกันเกิดขึ้น น้องชายก็วีดิโอคอลมาแจ้งสถานการณ์เป็นระยะ 

แรงงานไทยในอิสราเอลบอกญาติ  'ถ้าเป็นห่วงไม่ต้องติดต่อ'

แรงงานไทยในอิสราเอลบอกญาติ  'ถ้าเป็นห่วงไม่ต้องติดต่อ'

แต่มาตกใจและเป็นห่วงมากที่สุดคือเมื่อวานนี้ (8 ตุลาคม 2566) น้องชายโทรมาแจ้งว่าตอนนี้ยังปลอดภัยดี  "ถ้าเป็นห่วงไม่ต้องติดต่อมาอีก" เพราะเกรงว่าทหารจะจับสัญญาณโทรศัพท์แล้วจะเป็นอันตราย  ตอนนี้ครอบครัวเป็นห่วงน้องชายมาก  อยากจะให้รัฐบาลช่วยนำตัวน้องกลับมาเมืองไทยโดยเร็ว  ไม่หวังจะไปขุดทองอีกแล้ว  เพราะไม่คุ้ม  หนี้สินที่ค้างไว้ร่วม 200,000 บาท  ค่อยหาเงินที่เมืองไทยใช้หนี้ก็คงจะหมด  เพราะอยู่ที่ไหนไม่ปลอดภัยเท่า "เมืองไทย"

นางบุญล้อม ยังได้จุดธูปปักกลางแจ้ง อธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งวิญญาณญาติผู้ล่วงลับ ให้ช่วยปกป้องคุ้มครองน้องชายให้แคล้วคลาดปลอดภัยด้วย 

แรงงานไทยในอิสราเอลบอกญาติ  'ถ้าเป็นห่วงไม่ต้องติดต่อ'