
จากกรณี นายธนัญชัย หมั่นมาก อายุ 45 ปี หรือ “หน่อง ท่าผา” ลูกน้องคนสนิทของกำนันชื่อดังใน จ.นครปฐม ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงก์ อายุ 32 ปี สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. จนเสียชีวิต และกระสุนปืนยังไปถูกที่บริเวณแขนของ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. ได้รับบาดเจ็บอีก 1 นาย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในบริเวณที่ทำการของกำนัน ในพื้นที่หมู่ที่1 ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ กำนันได้เดินทางเข้ามอบตัว ส่วน “หน่อง ท่าผา” ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ไล่ล่าและสามารถติดตามตัวจนพบ แต่ “หน่อง ท่าผา” ไม่ยินยอมมอบตัว พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ เพื่อเปิดทางหลบหนี ตำรวจจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ จนทำให้ “หน่อง ท่าผา” ถูกยิงเสียชีวิต
ทั้งนี้ จากการสอบถามคนใกล้ชิด “กำนันชื่อดัง” เล่าว่า ในวันจัดงานเลี้ยงที่เกิดเหตุนั้น “กำนัน” ได้เชิญผู้กำกับทางหลวง 2 ไปร่วมงานด้วย แต่ผู้กำกับฯ ไม่ว่าง จึงมอบหมายให้ พ.ต.ท.วศิน รอง ผกก.ทล. ที่ถูกยิงแขนได้รับบาดเจ็บไปร่วมงานแทน และพ.ต.ท.วศิน ได้เชิญผู้ตายคือ พ.ต.ต.ศิวกร หรือ สารวัตรแบงก์ ไปเป็นเพื่อน เมื่อถึงงานเลี้ยง ได้มีการแนะนำ พ.ต.ต.ศิวกร ให้ “กำนัน” ได้รู้จัก
ต่อมาเมื่อ “กำนัน” ทราบว่า พ.ต.ต.ศิวกร คือนายตำรวจที่จับกุมรถบรรทุกดินของตนเอง และไม่ยอมให้รถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินวิ่งผ่านบนถนนหลวงตามกฏหมายแล้ว หลังจากดื่มได้สักระยะ “กำนัน” ได้ลุกขึ้นและเดินมาที่โต๊ะของ พ.ต.ต.ศิวกร พร้อมกับได้พูดคุย และยกแก้วชนแก้วดื่ม ระหว่างนี้ "กำนัน" ได้เอ่ยปากขอให้รถบรรทุกสามารถบรรทุกน้ำหนักเกินได้ และขอวิ่งผ่านทางได้ตามปกติ โดยขอไม่ให้ตำรวจทางหลวงจับกุม ทำให้ พ.ต.ต.ศิวกร พูดตอบ “กำนันนก” ไปว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะขณะนี้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้สั่งกำชับลงมาเป็นพิเศษ ให้กวดขันและจับกุม รถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกิน ประกอบกับตำรวจทางหลวงทุกนาย ทำตามหน้าที่และข้อบังคับของกฏหมาย ไม่สามารถทำตามที่ “กำนัน” ขอมาได้ ภายหลังสิ้นเสียงของพ.ต.ต.ศิวกร “กำนัน” จึงใช้ฝ่ามือตบลงบนโต๊ะ จนทำให้เกิดเสียงดัง พร้อมกับลุกขึ้นจากโต๊ะไปทันที
เมื่อการเจรจาไม่เป็นผล "กำนัน" จึงได้เดินกลับมานั่งโต๊ะตามเดิม ขณะที่ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา" (มือปืน) และเป็นคนสนิทของกำนัน ซึ่งกำลังนั่งดื่มสุราอยู่อีกโต๊ะ เห็นสีหน้าของเจ้านาย หรือ "กำนัน" ที่ไม่สู้จะดีนัก ด้วยความเป็นห่วง จึงได้เดินเข้าไปหากำนัน พร้อมกับถามว่า “เอาเลยไหม” เมื่อสิ้นเสียง "หน่อง ท่าผา" ได้เดินมาที่โต๊ะของ "สารวัตรแบงก์" พร้อมกับชักอาวุธปืนขึ้นมาจ่อยิงตำรวจทั้ง 2 นาย ทันที ต่อหน้าเพื่อนตำรวจอีกนายที่กำลังนั่งร่วมโต๊ะอยู่
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุ ได้มีการตั้งปม หรือชนวนในการก่อเหตุว่าไปเกี่ยวพันกับเรื่องที่ “กำนัน” เกิดความไม่พอใจ จากกรณีที่ “สารวัตรแบงก์” ไม่สามารถสลับตำแหน่ง หรือโยกย้ายตำแหน่งให้กับหลานชายที่เป็นตำรวจทางหลวงสังกัดเดียวกันกับผู้ตายได้ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้ว พบว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง
คนใกล้ชิดกำนัน เล่าด้วยว่า สำหรับกรณีที่มีการระบุว่า ตำรวจทางหลวง ยศ จ.ส.ต.เป็นหลานของ “กำนัน” นั้น แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นตำรวจที่สนิทสนมกับ “กำนัน” อีกทั้งยังไม่ได้เป็นหลาน หรือน้องเขยแต่อย่างใด
สำหรับกิจการของ “กำนัน” เป็นกิจการที่บิดาได้สร้างเอาไว้ ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยได้เปิดบริษัทรับเหมาถมดิน ก่อสร้างถนน และรถบรรทุกสิบล้อ ซึ่งภายหลังบิดาเสียชีวิตไป “กำนัน” จึงขึ้นมารับช่วงแทน จากนั้นกำนันได้พยายามสร้างบารมี พร้อมกับมีลูกน้องที่คอยติดตามอยู่ประมาณ10 คน ส่วนใหญ่เป็นคนใกล้บ้าน
ส่วนนายธนัญชัย หรือ “หน่อง ท่าผา” มือปืนที่ก่อเหตุยิงตำรวจ และถูกตำรวจวิสามัญนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ในอดีตเป็นเพียงแค่คนขับรถบรรทุกสิบล้อ กระทั่งได้มารู้จักกับ “กำนัน” เพราะขับรถสิบล้อวิ่งอยู่ในเขตบ้านโป่ง ก่อนจะผันตัวเองมาคอยติดตาม “กำนัน” และคอยดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ที่เป็นเจ้านายทุกอย่าง กระทั่งมาก่อเหตุยิงสารวัตรแบงก์ จนเสียชีวิต กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ