
29 สิงหาคม 2566 ความคืบหน้า "ปัตตานี" ปะทะเดือด คนร้ายดักบึ้ม-ยิงรถลาดตระเวนเจ้าหน้าที่ บริเวณหน้าที่ทำการเทศบาลตำบลยะรัง ม.3 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 22.50 น. วันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิต 4 นาย ประกอบด้วย 1.ด.ต.ตุแวเลาะ ลอมะ อายุ 48 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.ยะรัง 2.ม.ต.ชาญวิทย์ ดอเล็าะ อายุ 45 ปี 3.อส.อ.ณรงค์ หระแก้ว อายุ 47 ปี และ 4.ส.ต.ท.บุญกินี ดือเร๊ะ อายุ 25 ปี
นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย 1.ส.ต.ท.อิสมาแอ็น จิตหลัง อายุ 32 ปี 2.ส.ต.ท.ศราวุฒิ สูสัน อายุ 29 ปี 3.ส.ต.ต.ธนทัต โชคมาก อายุ 22 ปี และ 4.ส.ต.ต.ธวัช เส็นฤทธิ์ อายุ 25 ปี ทั้ง 4 นาย มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดและถูกยิง แพทย์ได้ทำการรักษาเบื้องต้น ก่อนจะส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ปัตตานี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสายตรวจ สภ.ยะรัง จอดอยู่หน้าที่ทำการเทศบาลตำบลยะรัง สภาพถูกยิงจนพรุน และถูกสะเก็ดระเบิดจนได้รับความเสียหายทั้งคัน ใกล้กันพบรถ จยย. ของเจ้าหน้าที่ จำนวน 2 คัน ล้มอยู่บนพื้นถนน นอกจากนี้ยังพบร่องรอยกระสุนจำนวนมาก ถูกยิงเข้าบริเวณตัวอาคารของเทศบาล และพบปลอกกระสุนอาวุธสงคราม เอ็ม 16 และอาก้า ตกเกลื่อนถนนกว่า 100 ปลอก และชิ้นส่วนระเบิดชนิดขว้างยังไม่ทราบชนิด
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ชุดปฏิบัติลาดตระเวนร่วม ตำรวจ 6 นาย และ อส.2 นาย ใช้รถยนต์สายตรวจ 1 คัน มีตำรวจ 4 นาย ขี่รถ จยย. ติดตาม 2 คัน ออกตรวจลาดตระเวนมาถึงบริเวณหน้าที่ทำการเทศบาลตำบลยะรัง ปรากฏว่ามีกลุ่มคนร้ายกว่า 10 คน ซึ่งดักซุ่มอยู่ในความมืดฝั่งตรงข้าม ใช้อาวุธสงครามเปิดฉากยิงถล่มใส่เจ้าหน้าที่ทันที พร้อมกับขว้างระเบิด จำนวน 3 ลูก ใส่เป็นระยะ จนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงต่างตื่นตกใจหลบเข้าไปในบ้าน
ขณะเดียวกันรถยนต์สายตรวจยางแตก ไม่สามารถไปต่อได้ เจ้าหน้าที่จึงรีบหาที่หลบบริเวณข้างรถสายตรวจ ก่อนจะมีการยิงตอบโต้ปะทะกันดุเดือดเกือบ 20 นาที กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสนับสนุนเข้ามาในพื้นที่ คนร้ายจึงล่าถอยหลบหนีเข้าไปในความมืด จากเหตุปะทะดังกล่าวทำให้ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และ อส. เสียชีวิต 2 นาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาไล่เลี่ยกัน คนร้ายได้ลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า จำนวน 3 จุด จุดแรกพื้นที่รอยต่อ ม.4 และ ม.5 ต.ระแว้ง อ.ยะรัง ระเบิดเสาไฟฟ้าขาด จำนวน 2 ต้น และเสาไฟโซล่าเซล 1 ต้นล้มขวางถนน จุดที่ 2 เหตุระเบิดเสาไฟฟ้า บริเวณริมถนนสายปัตตานี-ยะลา ต.กระโด ม.2 เขตรอยต่อ ต.เมาะมาวี ม.1 ระเบิดเสาไฟฟ้า 1 ต้น และจุดที่ 3 คนร้ายระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง ริมถนนสายปัตตานี-ยะลา ม.5 บ.พงสตา ต.ยะรัง ได้รับความเสียหาย โดยคนร้ายได้ลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า เพื่อทำการสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการช่วยเหลือและไล่ติดตามคนร้ายขณะหลบหนีได้
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผบ.ฉก.ปัตตานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี นำกำลังชุดปฏิบัติการณ์ร่วมและชุดสืบสวนเข้าที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้จัดกำลังไล่ล่าคนร้ายตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี และจัดกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 500 เมตร พร้อมทั้งให้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัว ทั้งบริเวณที่เกิดเหตุและตามเส้นทางต่าง ๆ
เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบสร้างสถานการณ์และพยายามตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ หลังก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้วิสามัญแกนนำระดับปฏิบัติการและมีหมายจับเสียชีวิต 1 ราย
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุตั้งแต่เมื่อคืน โดยมีการสนธิกำลังร่วม 3 ฝ่ายในพื้นที่ อ.ยะรัง และ อำเภอใกล้เคียงทำการสกัดกั้นเส้นทางเข้าออกพื้นที่และวางจุดตรวจจุดสกัดบนถนนทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง พร้อมตรวจค้นทุกรถชนิดและบุคคลต้องสงสัยตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและชุดพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อตรวจหาวัตถุพยานเพิ่มเติม รวมไปถึงพยานหลักฐานอื่น ๆ ซึ่งปรากฏว่าพบปลอกกระสุนคาดดว่าเป็นของคนร้ายอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ได้รวบรวมส่งไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ว่า มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายที่มีข้อมูลประวัติในการก่อเหตุหรือไม่ พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบภาพวงจรปิดทุกตัวทั้งของหน่วยงานและเอกชน
สำหรับการติดตามไล่ล่าคนร้าย พล.ต.ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้สั่งการให้หน่วยความมั่นคงทุกหน่วยเข้าพื้นที่ อ.ยะรัง อ.มายอ เพื่อปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายกว่า 20 จุด และประสานไปยังผู้นำท้องที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจไล่ล่าคนร้ายครั้งนี้ ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น ล่าสุด หน่วยข่าวความมั่นคง ระบุว่า เป็นฝีมือกลุ่มกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่อำเภอเมืองปัตตานีและอำเภอยะรัง มีการวางแผนก่อน
หน้านี้ตามที่ได้รับแจ้งจากสายข่าว ซึ่งการประชุมของกลุ่มคนร้ายมีแผนในการโจมตีฐาน แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีการเฝ้าระวังและป้องกันเหตุ จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะเปลี่ยนแผนก่อเหตุชุดลาดตระเวนเส้นทาง
ชมคลิป