15 สิงหาคม 2566 ที่ จ.นครราชสีมา กลุ่มชาวบ้านกว่า 50 คน รวมตัวกันที่บริเวณศาลา และหน้าเมรุเผาศพ วัดโตนด ต.พันดุง อ.ขามทะเลสอ เพื่อประท้วงเจ้าอาวาสวัด บริหารเงินไม่โปร่งใส ไม่สามารถตรวจสอบได้ ปล่อยให้ญาติสนิทเข้ามาครอบงำ กิจการภายในวัด แบ่งฝักแบ่งฝ่าย จนชาวบ้านเอือมระอา โดยเฉพาะที่ผ่านมา เจ้าอาวาสมีการออกกฎกำหนดค่าใช้จ่ายบำรุงวัด พิธีงานศพ มีรายละเอียดดังนี้
ค่าบำรุงเมรุ ต่อครั้ง 2,000 บาท , ค่าบำรุงโลงศพ 1,000 บาทต่องาน , ค่าไฟฟ้าต่อคืน 1,000 บาท , ค่าเครื่องไฟ 1,000 บาทต่อคืน , ค่าบำรุงโรงครัว 1,000 บาทต่องาน , ค่าน้ำประปา 200 บาทต่องาน , ค่าสัปเหร่อ 3,000 บาทต่องาน
ทำให้ชาวบ้านต้องเสียค่าใช้จ่าย ในพิธีงานศพไม่น้อยกว่า 10,000 บาท จึงมองว่าไม่ยุติธรรม เป็นการซ้ำเติมความเจ็บปวดของชาวบ้าน ที่ต้องสูญเสียญาติ หรือคนรักไปแล้ว ยังต้องมาเสียค่าใช้จ่ายสูงอีก
เมื่อก่อนชาวบ้าน แค่บริจาคเงินให้วัดตามกำลังศรัทธา ตามฐานะความเป็นอยู่ งานละ 3,000-5,000 บาท คนมีเงินฐานะดี ก็บริจาคมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความศรัทธา ไม่มีการกำหนดตัวเลขแบบนี้
ลุงเย็น อายุ 65 ปี โชว์เอกสารค่าใช้จ่ายที่ทางวัดเรียก เก็บเงินเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 10,200 บาท หลังเสร็จสิ้นงานศพภรรยา ที่เสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อเดือนก่อน พร้อมกล่าวด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจว่า รู้สึกน้อยใจมากที่ทางวัด กำหนดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในงานศพ เสมือนเป็นค่าเช่าสถานที่ ทั้งค่าเช่าเมรุ เช่าศาลา ค่าไฟ ค่าน้ำ ไม่น่ามากำหนดตัวเลขแบบนี้ เหมือนวัดไม่ใช่ของชาวบ้าน
หลังจากนี้ หากชาวบ้านมีญาติเสียชีวิต ไม่กล้านำศพมาไว้ที่วัด เพราะกลัวค่าใช้จ่ายแพงเกินไป บางรายถึงขั้นคิดว่าจะไปก่อกองฟอน ทำพิธีเผาตามท้องไร่ท้องนากันเอง ขณะเดียวกัน กลุ่มชาวบ้านยังเคลือบแคลงสงสัย บัญชีการเงินของวัด ที่ไม่เคยชี้แจงให้ชาวบ้านรับรู้รับทราบ
รวมถึงสถานะของเจ้าอาวาส ที่ไม่รู้บวชมาจากไหน จู่ ๆ ก็ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัด เมื่อปี 62 แถมยังมีลูกมีเมียด้วย จึงเรียกร้องให้หน่วยงานราชการ ตรวจสอบบัญชีการเงินของวัด และสถานะของเจ้าอาวาส ให้ชัดเจน พากันตะโกนลั่น “...เงินวัดอยู่ไหน...ๆๆ...”
พระอาจารย์วรรณะ เจ้าอาวาสวัดโตนด บอกกับชาวบ้านว่า อยากรู้เรื่องอะไร ทั้งเรื่องทรัพย์สินของวัด เงินวัด ให้ไปทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการ ให้มาตรวจสอบ ถ้าอยากจะมีเรื่องกับวัด ก็ให้ไปแจ้งความ เจ้าอาวาสก็จะไปชี้แจง