svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

อดีต ผอ.รร.อ่างทอง ร่ำไห้ ร้องสภาทนายความ ช่วยคดีให้การศึกษาเด็กต่างด้าว

25 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จิตวิญญาณความเป็นครู! อดีต ผอ.รร.อ่างทอง ร่ำไห้ ร้องสภาทนายความ ช่วยคดีให้การศึกษาเด็กต่างด้าว ยันทำไปด้วยความปรารถนาดีต่อเด็ก ด้านนายกสภาทนายความ รับช่วยทางกฏหมายแล้ว ยกฎีกาเคยชี้ไม่ผิด เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน

25 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้ากรณีที่หน่วยงานราชการไทย ได้ร่วมกันผลักดัน เด็กนักเรียนต่างด้าว ที่ไม่มีเอกสารทางทะเบียนราษฎร์ 126 คน จากโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง กลับประเทศเมียนมา ท่ามกลางเสียงทักท้วง ถึงเรื่องสิทธิการศึกษา เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้ ต้องออกจากการเรียนกลางคัน และการคุ้มครองเด็ก เนื่องจากในเมียนมา ยังเกิดการสู้รบอาจ ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการดำเนินคดี กับคณะผู้บริหาร และกรรมการ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 จำนวน 5 คน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ขณะที่ สภาทนายความ เตรียมยื่นมือช่วยเหลือเด็กต่างด้าว 126 คน ที่ถูกผลักดันกลับประเทศเพื่อนบ้าน และเตรียมแถลงข่าวชี้ผิดหลักสิทธิมนุษยชน ด้าน ผอ.รร.ไทยรัฐ 6 เผยเด็กถูกส่งกลับเกือบหมดแล้ว เหลือ 4 คน เป็นห่วงเสียโอกาสการศึกษา
อดีต ผอ.รร.อ่างทอง ร่ำไห้ ร้องสภาทนายความ ช่วยคดีให้การศึกษาเด็กต่างด้าว
 

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ น.ส.กัลยา ทาสม อดีต ผอ.โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 และนายพิเชษฐ ปั้นงาม ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยนายกวี เจริญเศรษฐี  ทนายความได้ เดินทางมาที่สภาทนายความ เพื่อขอความช่วยเหลือทางคดี

กรณีถูกเจ้าหน้าที่รัฐ ตั้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 นำเด็กต่างด้าว เข้าเรียนในราชอาณาจักรไทย มี ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ พร้อม นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความ , ดร.วิรัลพัชร เวธทาวริทธ์ธร อุปนายกฝ่ายวิชาการ และ นายธีระเกียรติ อนันตรสุชาติ ประธานสภาทนายความจังหวัดอ่างทอง เป็นผู้รับเรื่อง
อดีต ผอ.รร.อ่างทอง ร่ำไห้ ร้องสภาทนายความ ช่วยคดีให้การศึกษาเด็กต่างด้าว  

น.ส.กัลยา กล่าวว่า ขอคุณสภาทนายความ ที่รับเรื่องร้องทุกข์ แล้วเข้ามาช่วยเหลือ ตอนนี้นอกจากคดีความ ที่ตนถูกสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอ่างทอง ตั้งกรรมการสอบวินัย โดยกล่าวหาว่า  ไม่ได้ดําเนินการตามขั้นตอน ทั้งที่จริง ๆ แล้ว การดําเนินการครั้งนี้ มีระเบียบที่รองรับไว้ก็คือ ระเบียบของการรับนักเรียนว่าด้วยหลักฐานการศึกษา

จะมีบัญญัติไว้ว่า การที่เราจะรับนักเรียน จะต้องมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง แต่นักเรียนเหล่านี้ ที่เขาได้รับโอกาสจากโรงเรียนไทยรัฐวิทยา เขาได้แจ้งไว้ว่า เขาไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรเลย ในวันที่เรารับ แล้วก็ผู้ปกครองเขาพามาสมัครเรียนก็สามารถทําได้ โดยที่เราใช้แบบบันทึกทะเบียนประวัติบุคคลเข้าไป เพื่อที่จะแนบในการขอรหัสเพื่อที่รับค่าใช้จ่าย ในการจัดการศึกษา เราได้ทําตามระเบียบตรงนี้ 
อดีต ผอ.รร.อ่างทอง ร่ำไห้ ร้องสภาทนายความ ช่วยคดีให้การศึกษาเด็กต่างด้าว
 

ส่วนอีกข้อกล่าวหาคือ ให้การศึกษาเด็กที่ไม่มีสิทธิ์ เด็กที่เรียนกับเรา ต้องทําความเข้าใจว่า มีอยู่ก่อนแล้วช่วงหนึ่ง เมื่อปีการศึกษา 2565 โดยพวกเขาได้รับการศึกษา การดูแลจากมูลนิธิ ให้ที่อยู่ให้อาหาร ตนก็เห็นว่า ตรงนี้เป็นโอกาส เป็นสถานที่จะให้การศึกษา ก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหา ในการเรียนของกลุ่มเด็ก ๆ นี้

เเต่ที่มามีปัญหาปีนี้ อาจเป็นเพราะ เราขอยื่นขอรหัส จํานวนเยอะขึ้นกว่าเดิม จึงมีการตรวจสอบ โดยที่เราก็ไม่รู้ว่า เขาได้ปรึกษากับต้นสังกัดหรือไม่ เเต่ในวันดังกล่าว เหมือนการมาจับกุมมากกว่า ทำให้ตนกลายเป็นคนผิด เป็นจําเลยของสังคมว่า ทําผิดกฎหมาย ที่พาเด็กต่างด้าวเข้ามา

ยืนยันว่า การเพิ่มจำนวนเด็ก เราได้ขออนุญาต ทำหนังสือแจ้งไปที่ต้นสังกัดว่า เราจะไปรับเด็กมาเรียน โดยค่าใช้จ่ายที่รัฐ ต้องจ่ายต่อหัว เป็นเด็กอนุบาล 1,700 บาทต่อปี เเต่ถ้าเป็นเด็กประถมก็คือ 1,900 ต่อคนต่อปี โดยเด็กส่วนมากก็จะเป็นชนเผ่า ไม่ใช่คนเมียนมาทั้งหมด เป็นคนชนเผ่าเป็นคนไทยก็มี เป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ตะเข็บชายแดน ซึ่งตอนนี้เด็กได้ถูกส่งกลับไปเมียนมา เกือบหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเด็กที่อยู่ในบ้านพักอยู่ 4 คน ซึ่งยังไม่มีผู้ปกครองมารับ 

ตนเป็นคนจังหวัดเชียงราย แล้วเป็นคนที่ฐานะยากจน ในสมัยก่อน ได้รับโอกาสทางการศึกษา โดยที่ได้รับทุนเรียนมาตั้งแต่มัธยมจนถึงระดับปริญญาตรี ในวิชาชีพครู  ก็ได้เล็งเห็นว่าโอกาสที่เราได้รับ เราควรจะแบ่งปันให้กับคนอื่นบ้าง ก็ได้ตั้งปณิธานกับตนเองว่า วันหนึ่งเราจะแบ่งปันโอกาสที่เราได้รับ ให้กับคนอื่น พอได้มาเป็นครู ก็ได้บรรจุในอยู่บนดอย ก็ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวเขา ของเด็กเหล่านี้ ที่มันมีอยู่แล้วตามตะเข็บชายแดนเกือบทุกโรงเรียน

“ตอนนี้ที่โดนเเจ้งข้อหา มี ผอ. ผู้ใหญ่บ้าน ครู เเละก็ภารโรง เป็นคดีที่ สภ.ป่าโมก ส่วนเด็ก ๆ ก็พยายามที่จะถามว่า ผอ.หนูจะได้กลับไปเรียนไหม เมื่อไหร่จะได้กลับ สงสารเด็ก ๆ ค่ะ อยากฝากไปถึงคุณครูทั่วประเทศ ที่มีเด็กเหมือนเด็ก 126 คนนี้ หากได้รับผลกระทบในวงกว้าง อยากให้ท่านได้ใช้เวทีนี้ ลุกขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องการทํางาน

ทุกวันนี้ ท่านอาจจะกังวลว่า ฉันจะผิดหรือไม่ ฉันจะถูกจับ ถูกดําเนินคดีหรือไม่ อยากให้มาช่วยกันว่า กระทรวงศึกษาธิการ ทําไมถึงไม่ช่วยครู ในวันนี้แจ้งความดําเนินคดียังไม่พอ ยังแจ้งสอบสวนวินัยร้ายแรงด้วย” อดีต ผอ.รร.ไทยรัฐวิทยา 6 ระบุทั้งน้ำตา 
ราชูปถัมภ์  น.ส.กัลยา ทาสม อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 จ.อ่างทอง  

นายกวี ทนายความ น.ส.กัลยา กับพวก กล่าวความคืบหน้า คดีที่โดนเเจ้งข้อหาว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ในเรื่องของการนําพาคนต่างด้าว เข้ามาถึงราชอาณาจักร เเละเรื่องของการให้ที่พักพิงแก่คนต่างด้าว ในชั้นสอบสวนก็ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะทําเอกสารชี้แจง ผ่านทางพนักงานสอบสวนเเละในชั้นอัยการ  ซึ่งวันนี้ทางพนักงานสอบสวน ก็ชะลอตามที่เรานัดต่อไปวันที่ วันที่ 8 ส.ค. ที่จะถึงนี้ โดยผู้เเจ้งความร้องทุกข์คือ สํานักงานกระทรวงศึกษาธิการ

นายกวี กล่าวต่อว่า น.ส.กัลยา รับเด็กมาจากโรงเรียนราษฎร์พัฒนา จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ในประเทศไทย มีผู้ปกครองของเด็ก เป็นผู้นําพาเข้ามาในประเทศ เพื่อส่งมอบตัวให้กับโรงเรียน น.ส.กัลยา ซึ่งเป็นผู้อำนวย การเเละเป็นคณะกรรมการของโรงเรียน อํานวยความสะดวกรับเด็กไว้ เนื่องจาก น.ส.กัลยา เคยเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนราษฎร์พัฒนา สมัยที่เคยใช้ชีวิตเป็นครูดอย ก่อนที่สอบบรรจุได้เป็น ผอ.รร.ไทยรัฐวิทยา 6 
ภาพขณะตำรวจเข้าตรวจสอบโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6  

ยกฎีกาเคยชี้ไม่ผิด เป็นเรื่องมนุษย์ชน เป็นห่วงเด็กที่โดนผลักดันกลับพม่า 

นายวิเชียร นายกสภาทนายความ กล่าวว่า ในเบื้องต้น สภาทนายความได้รับเรื่อง และจัดทนายความอาสา สอบข้อเท็จจริง พร้อมรวบรวมหลักฐานในการ ดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายตามขั้นตอนต่อไป และยินดีให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้

ส่วนการผลักดัน เด็กนักเรียนต่างด้าว กลับประเทศเพื่อนบ้าน ในขณะที่สถานการณ์ยังมีการสู้รบ อาจส่อไปในทางผิดหลักสิทธิมนุษยชน ในส่วนคดีได้มีทนายความ เข้าไปให้การช่วยเหลือเบื้องต้นระดับหนึ่งแล้ว  แต่เห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสําคัญ เนื่องจากทราบว่า ทางพนักงานสอบสวน มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง น.ส.กัลยา กับพวกทั้ง 5 คน

เเละขณะเดียวกัน ก็ปรากฏว่า มีการผลักดันเด็กที่ไร้สัญชาติ กลับไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาจจะเป็นอันตรายต่อเด็ก ซึ่งเรื่องสิทธิมนุษชน เป็นเรื่องที่สภาทนายความ ต้องให้การดูแลอยู่แล้ว ถือว่าเป็นภาษาสากล 

หลังจากรับเรื่องขอความช่วยเหลือ สภาทนายความจะมีการสอบข้อเท็จจริงในทุกรายละเอียด เบื้องต้นมองว่า การรับเด็กต่างด้าว ไม่ใช่คนสัญชาติไทย และก็ไม่มีทะเบียนบ้าน เด็กเหล่านี้อาจจะเกิด อยู่ตามตะเข็บชายแดน ที่มาเรียนหนังสือเพื่อเป็นการเสริมสร้างชีวิตให้ดีขึ้น เป็นอนาคตของโลกใบนี้ ฉะนั้นถ้าปล่อยปละละเลย เด็กอาจได้รับอันตราย หรือเสียชีวิตจากสงคราม การที่ น.ส.กัลยา ตัดสินใจให้เด็กมาเรียนที่โรงเรียน ก็มีเหตุมีผล

ทั้งยังได้พิจารณาหลักกฎหมาย ระเบียบ ภาคปฏิบัติต่างกัน เบื้องต้นพบว่า การกระทําลักษณะที่ถูกกล่าวหาแบบนี้ เคยมีแนวคําพิพากษาศาลฎีกาพิพากษาว่า ไม่เป็นความผิด 
อดีต ผอ.รร.อ่างทอง ร่ำไห้ ร้องสภาทนายความ ช่วยคดีให้การศึกษาเด็กต่างด้าว  

นายสุนทร เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า กรณี เด็กนักเรียนที่ไม่มีทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทยนั้น ปัญหานี้สภาทนายความ เคยทําคู่มือร่วมกับหน่วยงานราชการ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ  เพื่อแก้ปัญหา เกี่ยวกับเรื่องของบุคคล ที่ไม่มีทะเบียนราษฎร และไม่มีสัญชาติ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ เกิดมานานแล้ว ไม่ใช่เกิดเฉพาะที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 เช่น กรณีโรงเรียน ตชด. ก็มีการสอนเด็กเเบบนี้ สอนโดยที่ไม่มีหลักฐาน เพราะว่าเรื่องของสิทธิมนุษยชน ตามกติกาสากล 

“คราวนี้ในส่วนของเรา ไม่ใช่เฉพาะที่นี่โรงเรียน ตชด. ที่มีอยู่มากมาย ที่ทําอยู่ ถ้าจับที่นี่ ก็ต้องจับที่อื่นอีกเยอะ คู่มือนี้เป็นเรื่องที่ทําขึ้น โดยยกเว้น พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ในบางเรื่อง บางมาตรา ตอนนี้ทาง ผอ.เข้าเขตโรงเรียนไม่ได้ ผู้ใหญ่บ้านก็ถูกแจ้งความดําเนินคดี และยังมีครูผู้ช่วยอีก

จากการสอบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้นเห็นว่า ทําไปโดยที่ไม่ได้มีเจตนาทุจริตเลย ทําไปโดยที่เพื่อประโยชน์กับเด็ก ที่ได้ศึกษาเล่าเรียน การที่ตํารวจตั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 63 เเละ 64 เรื่องการนําพาคนต่างด้าว เเละการให้ที่พักพิง 

ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ไม่ได้เป็นคนนําเข้ามา แต่เป็นผู้ปกครอง ซึ่งเป็นคนไทย เป็นคนนํามาให้ศึกษาเล่าเรียนในประเทศไทย ส่วนในเรื่องการให้ที่พํานัก ตามมาตรา 64 จะต้องให้พำนัก เพื่อที่จะหลบหนีทํานองนั้น แต่อันนี้มันไม่ใช่ เเต่เป็นการให้พำนัก เพื่อให้การศึกษา เจตนาในการกระทําความผิดไม่มี” 
อดีต ผอ.รร.อ่างทอง ร่ำไห้ ร้องสภาทนายความ ช่วยคดีให้การศึกษาเด็กต่างด้าว

logoline