svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

อธิบดีกรมกิจการเด็กฯ ยัน ส่งเด็กต่างด้าว จากอ่างทอง กลับเมียนมาปลอดภัย

08 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ยันส่งเด็กจาก โรงเรียนไทยรัฐวิทยา จ.อ่างทอง กลับบ้านฝั่งเมียนมาปลอดภัย เผย ประสาน พม.เมียนมา พบเด็ก 4 คน หนีภัยการสู้รบ ผู้ปกครอง ชาวไทใหญ่ วอนขอตัวเด็กมาเรียนต่อ

8 กรกฎาคม 2566 นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน(ดย.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการผลักดันเด็กที่ไม่มีเอกสารทางทะเบียนราษฎร์ จำนวน 126 คน จากโรงเรียนไทยรัฐวิทยา จ.อ่างทอง กลับประเทศต้นทาง ว่า วันแรกได้มีผู้ปกครองมารับเด็กไปแล้ว 31 คน และวันที่ 2 มีผู้ปกครองมารับไปอีก 28 คน ตอนนี้เหลือเด็กอีกราว 60 คน อย่างไรก็ตามเด็กคนไหนที่ไม่มีความพร้อม หรือพิสูจน์ไม่ได้ว่าคนที่มารับเป็นผู้ปกครองก็ยังไม่ให้ไป

อธิบดีกรมกิจการเด็กฯ ยัน ส่งเด็กต่างด้าว จากอ่างทอง กลับเมียนมาปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวถามว่า พม.ได้ดูแลเด็ก ๆ 126 คน อย่างไรบ้าง นางอภิญญา กล่าวว่า เราพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดโดยคำนึงถึงเด็ก ส่วนที่มีการหวั่นเกรงว่าการส่งเด็กกลับไปฝั่งเมียนมาจะไม่ปลอดภัยนั้น ทางพม. ไทยได้หารือกับ พม.เมียนมาตลอดเวลา ซึ่ง พม.เมียนมาก็ได้ช่วยสำรวจ และพื้นที่ที่ส่งเด็กกลับไปก็ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการสู้รบ 

วันนี้อาจมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบเอกสารในฝั่งเมียนมา แต่กำลังแก้ไขอยู่ เราทำหน้าที่คุ้มครองให้ความช่วยเหลือเด็กอย่างเต็มที่ แต่บางเรื่องเราตัดสินใจไม่ได้เอง แต่พอเจ้าหน้าที่ไปส่งเด็ก เด็กเขาดีใจมากที่ได้กลับบ้าน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ด้าน ผู้ปกครองรายหนึ่ง ซึ่งมีเด็กในปกครอง 4 คน ไปเรียนที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ตนเป็นป้าขอเด็กทั้ง 4 คน โดยน้องชายของตนนำมาฝากไว้ ซึ่งน้องชายเป็นชาวไทใหญ่หนีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมา และกองทัพไทใหญ่ ทำให้เด็ก ๆ ประสบความลำบากจึงนำมาฝากตน ซึ่งได้สามีเป็นคนไทยและทำงานอยู่ในจังหวัดเชียงราย

ผู้ปกครองรายนี้ กล่าวอีกว่า เดิมทีหลาน 3 คน ได้เข้าเรียนในโรงเรียนบนดอยในจังหวัดเชียงราย แต่เพื่อนหลานได้มาชวนไปเรียนที่อ่างทอง ประกอบกับตนต้องเลี้ยงลูก 2 คน ทำให้ค่าใช้จ่ายที่จะเลี้ยงหลานไม่เพียงพอ จึงอนุญาตให้ไปเรียนที่อ่างทอง ตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเห็นเด็ก ๆ เรียนไปได้ด้วยดี แต่กลับถูกส่งกลับมายังเชียงราย และเมื่อตนสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเพื่อให้หลาน ๆ ได้ออกมา แต่กลับถูกปฎิเสธโดยบอกว่าตนไม่ใช่พ่อแม่

อธิบดีกรมกิจการเด็กฯ ยัน ส่งเด็กต่างด้าว จากอ่างทอง กลับเมียนมาปลอดภัย

พ่อแม่เขาทำงานอยู่ฝั่งนู้น นาน ๆ พ่อของเด็กจะโทรมาหา เพราะในพื้นที่เขาไม่มีสัญญาณ ฉันอยากให้เด็ก ๆ ได้ออกมาเรียนหนังสือ ไม่อยากให้เสียเวลาอีก ถ้าเขาจะเอาฉันติดคุกฉันก็ยอม แต่ขอให้เด็กๆออกมาเถอะ ฉันชวนเจ้าหน้าที่ให้มาดูที่บ้าน อยากให้เห็นว่าเรามีหลักมีฐาน ไม่ใช่แก็งค์ต้มตุ๋น แต่เขาก็ไม่มา ฉันไม่รู้ทำอย่างไร รู้สึกเครียดมาก

ผู้ปกครองรายนี้ กล่าวด้วยว่า รู้สึกเสียใจที่เด็ก ๆ ต้องออกจากการเรียนกลางคัน เพราะพวกเขาอยากเรียนหนังสือแต่กลับไม่ได้เรียน ตอนแรกก็เบาใจที่เด็กได้ไปเรียนโรงเรียนประจำ แต่จู่กลับเกิดเรื่องเกิดราวซึ่งตนก็ไม่ทราบรายละเอียดว่าปัญหาคืออะไร และตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ยึดโทรศัพท์ของหลานเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถติดต่อโดยตรงได้จึงรู้สึกเป็นห่วงมาก

อธิบดีกรมกิจการเด็กฯ ยัน ส่งเด็กต่างด้าว จากอ่างทอง กลับเมียนมาปลอดภัย

ขณะที่ นางเตือนใจ ดีเทศน์ หรือ "ครูแดง" กรรมการผู้ก่อตั้งมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) และอดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.เชียงราย กล่าวว่า ตนได้พบกับเด็ก ๆ และผู้ที่รับผิดชอบจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้หารือเรื่องการจำแนกเด็ก ว่า เคยอยู่และเรียนในโรงเรียนไทยมาก่อนหรือไม่ บางคนมีญาติ หรือมีแม่เป็นคนสัญชาติไทยอยู่แล้ว คิดว่าส่วนราชการไทยไม่ควรใช้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง เพียงอย่างเดียว

ไม่ควรมองว่าเด็กเป็นผู้ที่ทำผิดกฎหมาย แต่ควรใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการมีความก้าวหน้า มีนโยบายให้เด็กทุกคนในประเทศไทยได้เรียนหนังสือ ไม่ว่าจะมีเอกสารทางทะเบียนหรือไม่ แต่ทำไมเด็ก 126 คนจึงกลายเป็นประเด็นใหญ่เรื่องการหลบหนีเข้าเมือง ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ให้เด็กได้มีโอกาสทางการศึกษากลับถูกตั้งข้อหา

อธิบดีกรมกิจการเด็กฯ ยัน ส่งเด็กต่างด้าว จากอ่างทอง กลับเมียนมาปลอดภัย

ได้พบเด็กเมื่อวานนี้ ได้พูดคุยเป็นภาษาอาข่ากับเด็ก ทราบว่าเด็กหลายคนเคยเรียนในจังหวัดเชียงรายมาแล้ว อยากฝากผู้ใหญ่ขอความเป็นธรรมส่งเสริมการศึกษาให้เด็ก แม้เด็กบางคนข้ามมาจากเมียนมา เมื่อ 5-6 ปีก่อน ก็น่าจะถือว่าเราช่วยกันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คือเด็กเหล่านี้ ให้เติบโตเป็นพลเมืองอาเซียนที่มีคุณภาพ และเด็กก็มีความผูกพันกับประเทศไทยทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ

นางเตือนใจ กล่าวอีกว่า เด็กที่ถูกส่งกลับเมียนมา ไปที่ด่านอำเภอแม่สาย (ตรงข้ามเมืองท่าขี้เหล็ก) เห็นว่าเป็นการทำงานที่รวดเร็วเกินไป เพราะจริง ๆ แล้วควรมีภาคประชาสังคมด้านสิทธิเด็กเป็นพยานรู้เห็นว่าเด็กได้กลับไปกับพ่อแม่จริงและมีความปลอดภัยจริง

ขณะนี้เด็กกลัว ตกใจว่าทำไมเรียนหนังสืออยู่แล้ว กลับถูกตั้งข้อหาหลบหนีเข้าเมือง การที่เด็กถูกผลักกลับไปสู่เมียนมาในขณะนี้เป็นประเด็นที่เป็นน่าห่วงมากที่สุด เพราะสถานการณ์การเมืองยังคงไม่สงบ แต่ด่วนส่งเด็กกลับ ทั้ง ๆ ที่เด็กไม่มีผลใด ๆ ต่อความมั่นคงของไทยเลย จึงควรให้เด็กได้เรียนหนังสือก่อนในโรงเรียนที่มีความพร้อม ควรให้เด็กอยู่ในความปลอดภัย ไม่ควรส่งเด็กไปสู่อันตรายต่อชีวิต 

logoline