6 กรกฎาคม 2566 ที่ จ.อ่างทอง ความคืบหน้า กรณีที่พบ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 อ.ป่าโมก มีนักเรียนชนเผ่า เพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ทั้ง ๆ ที่ทั้งโรงเรียน มีแค่ ผอ. 1 คน ครูประจำการ 1 คน ครูอัตราจ้าง 1 คน และเจ้าหน้าที่ธุรการ 1 คน แต่กลับมีนักเรียนถึง 137 คน มิหนำซ้ำยังเป็นเด็กต่างด้าวถึง 130 คน ซึ่งไม่สามารถพูด หรือสื่อสารภาษาไทยได้ จึงหวั่นว่าจะมีการล่อลวงมาหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ซึ่งต่อมา หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพบว่า เด็กเกือบทั้งหมด มีทางผู้บริหารโรงเรียน ได้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่ง และกรรมการสถานศึกษา นำรถไปรับ มาจากจังหวัดทางภาคเหนือ จนมีการตรวจสอบ และส่งตัวเด็กนักเรียนต่างชาติ 126 ราย กลับสู่ภูมิลำเนาเมื่อวาน (5 ก.ค.) ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่โรงเรียนดังกล่าวอีกครั้งพบว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา ประตูห้องเรียนและหอพักนักเรียนถูกติดกุญแจปิดตาย ไม่มีทั้งเจ้าหน้าที่ ครูและนักเรียน เหลืออยู่ในโรงเรียนเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งเด็กนักเรียนที่เหลือเป็นเด็กในพื้นที่ 2 ราย ทางโรงเรียนได้ประสานนำไปเรียน ร่วมกับโรงเรียนใกล้เคียงพื้นที่แล้ว
ขณะที่ สพป.อ่างทอง ได้ตั้งกรรมการสอบสวนร้ายแรง นางสาวกัลยา ทาสม ผู้อำนวยการโรงเรียน และย้ายให้ไปช่วยราชการ ที่สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาอ่างทอง ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุแล้ว เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง
นายรักศักดิ์ เทียนไชย นายอำเภอป่าโมก กล่าวว่า ตอนนี้ในส่วนของเด็ก ทาง พม.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำส่งกลับภูมิลำเนาที่ จ.เชียงราย แล้ว ในส่วนของคดีความ ตอนนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหา ผอ.โรงเรียน และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 5 ราย มีผู้ใต้บังคับบัญชาของตน ที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ที่เดินทางไปรับเด็กมาด้วย 2 ราย อยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากมีการดำเนินคดีสั่งฟ้อง จะต้องพิจารณาทางวินัยต่อไป
ในส่วนของโรงเรียน ตอนนี้ยังไม่มีการยุบโรงเรียน และเป็นเรื่องทางกระทรวงศึกษา จะเป็นผู้ดำเนินการ ในส่วนของเด็ก ที่เป็นเด็กในพื้นที่ 2 คน ตอนนี้ได้ประสานให้ไปเรียน กับโรงเรียนใกล้เคียงในพื้นที่
ส่วนทางคดี พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย ผกก.สภ.ป่าโมก กล่าวว่า หลังการตรวจสอบพิสูจน์สัญชาติแล้ว พนักงานสอบสวน สภ.ป่าโมก ได้รับตัวนักเรียนต่างชาติทั้ง 126 คน ส่งต่อให้กับ ตม. และ พม. ผลักดันตามกฎหมาย โดยได้ส่งตัวไปเมื่อวาน (5 ก.ค.) พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา นางสาวกัลยา ทาสม อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน และพวกอีก 4 คน ในข้อหาความผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 63 และ 64 เป็นข้อหานำพาและให้ที่พักพิงบุคคลต่างด้าว มีโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม คืบหน้าไปกว่า 90% คาดว่า น่าจะสามารถส่งสำนวนให้พนักงานอัยการได้ ภายในเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวน ไม่พบมีความเกี่ยวพันกับในเรื่องการค้ามนุษย์ ส่วนกรณีที่เกิดข้อสังเกต การรับเด็กมาเรียนที่นี่ และผลักดันออกนอกประเทศ จากนักสิทธิมนุษย์ชน ย้ำว่า เด็กเหล่านี้ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ แตกต่างจากเด็กที่ติดตามพ่อแม่ ที่เป็นแรงงานต่างด้าว ที่เข้าเมืองมาทำงานถูกต้องตามกฎหมาย หรือแจ้งเกิดในประเทศไทย และมีเลขประจำตัว ซึ่งสามารถเรียนในประเทศได้ และมีโรงเรียนจัดให้เรียน เช่นที่ จ.สมุทรสาคร
แต่เด็กกลุ่มนี้ ไม่ได้เข้าเมืองมาตามกฏหมาย และไม่มีเลขประจำตัว จึงต้องผลักดันออกไป ระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ไม่มีการรับเด็กต่างด้าว ที่ไม่มีเลขประจำตัว หรือไม่ได้ติดตามพ่อแม่ ที่เข้าเมืองมาถูกต้องตามกฎหมาย เข้ามาเรียน เพราะไม่เช่นนั้น ใครก็สามารถส่งลูกหลาน ข้ามแดนเข้ามาเรียนได้