8 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.แม่ฮ่องสอน ถึงสถานการณ์สู้รับในเมียนมา โดยแถลงการณ์ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน เรื่อง สถานการณ์ชายแดนพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอนฉบับที่ 26 ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เวลา 18.00 น. ระบุว่า
สถานการณ์บริเวณพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังคงปรากฎข่าวสารการปะทะกัน ระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อย และกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา เป็นการปฏิบัติการทางทหารทั้งการใช้กำลังทางอากาศ และกำลังทางภาคพื้นดินในการปะทะกัน บริเวณตามแนวชายแดน พื้นที่ด้านตรงข้าม อำเภอเมือง อำเภอขุนยวม และอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับจังหวัดแม่ฮ่องสอนปัจจุบัน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ที่มีความกังวลจากสถานการณ์ในพื้นที่ ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งไทย จำนวน 5,167 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 4 พื้นที่ ได้แก่
การปฏิบัติที่สำคัญของศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอนกองกำลังนเรศวร และฝ่ายปกครองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำเนินการติดตามสถานการณ์ ในฝั่งประเทศเมียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย กองทัพอากาศ เฝ้าตรวจทางอากาศ และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมขึ้นบินลาดตระเวนรบ หากอากาศยานมีแนวโน้มจะลุกล้ำน่านฟ้าไทย
ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดูแลความปลอดภัย และการให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมกับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) สำนักงานกิ่งกาขาดอำเภอแม่สะเรียงและสำนักงานกิ่งกาชาดอำเภอขุนยวม ดำเนินการเปิดรับสิ่งของบริจาค อุปโภค-บริโภค จากภาครัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่ โดยเปิดหน่วยติดต่อรับบริจาคณ ที่ว่าการอำเภอแม่สะเรียง และที่ว่าการอำเภอขุนยวม ในทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
แหล่งข่าวระดับสูงของ กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงคะยา Karenni Army / KA เปิดเผยว่า เมื่อวานที่ผ่านมา กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงคะยา กลุ่ม KA,KNDF จำนวน 100 นาย ได้ทำการซุ่มโจมตีทหารเมียนมา สังกัดกองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 519 ( พัน.คร.519 ) บริเวณระหว่างฐานฯแม่ลายู กับ ฐานฯดอตะแค ตรงข้ามช่องทางบ้านดอยแสง ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
ขณะที่ทหารเมียนมากองพันดังกล่าว ได้มีการเคลื่อนย้ายกำลังพลจำนวน 110 นาย พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ จากฐานฯแม่ลายู ไปยังฐานฯดอตะแค ทำให้เกิดการปะทะกันอย่างหนัก
ขณะปะทะกันนั้นทางทหารเมียนมา ได้ร้องขอกำลังสนับสนุนทางอากาศ มาสนับสนุนการสู้รบ โดยกองทัพอากาศเมียนมา ได้ส่งเครื่องบิน MIG-29 และเฮลิคอปเตอร์โจมตี แบบ MI-35 มาโจมตีทหารกะเหรี่ยงคะยา จำนวน 11 เที่ยวบิน ขณะที่ทหารเมียนมาได้มีการยิงอาวุธหนัก ประเภทปืนครก หรือปืนค. ขนาด 120 มม. , ขนาด 81 มม. และ ขนาด 60 มม.ยิงสนับสนุนอีกจำนวนกว่า 200 นัด ส่งผลให้เกิดเสียงดังสนั่นไปในระยะไกล
แหล่งข่าวระบุต่อไปว่า จากงานข่าวกรองของกองทัพกะเหรี่ยงคะยา พบว่า ทหารเมียนมา ได้มีแผนการณ์ที่จะโจมตีฐานที่มั่นยามู ของ กะเหรี่ยงคะยา ที่ตั้งอยู่บริเวณติดสันเขตชายแดน ใกล้กับหมู่บ้านยามชายแดน บ้านแม่ส่วยอู บ้านบริวารหมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า หมู่ 8 ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งฐานที่มั่นดังกล่าว เป็นกองบัญชาการหลักของกองทัพกะเหรี่ยงคะยา
ล่าสุดพบว่า ทหารเมียนมา ได้มีการเคลื่อนไหวกำลังพลในรัฐฉาน มุ่งหน้าผ่านบ้านหัวเมือง ตรงข้ามช่องทางบ้านห้วยผึ้ง ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เข้ามาในพื้นที่รัฐคะยา จำนวน 3 กองพันได้แก่ พัน.คร.501, พัน.คร.519 และ พัน.คร.334 ที่มีการลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์และเสบียงอาหารเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้มีการเคลื่อนกำลังผ่านดอยสามเมือง ตรงข้ามบ้านรักไทย ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง เข้ามาสู่รัฐคะยาแล้ว
คาดว่ารูปแบบการโจมตี น่าจะมีการอาศัยทหารราบและกำลังทางอากาศปฏิบัติการพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ทางด้านกองทัพกะเหรี่ยงคะยา ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือจากการโจมตีของทหารเมียนมาไว้แล้ว
ในส่วนของทางด้านพื้นที่ อ.แม่แจ๊ะ ทหารเมียนมา พล.ร.เบา 55 และ พล.ร.เบา 77 จากพื้นที่รัฐยะไข่ได้เสริมกำลังเข้ามาจากรัฐฉานเข้าสู่ รัฐคะยา บริเวณพื้นที่ อ.ปินโหลง และ อ.แผ่โข่ง จ.ตองยี รัฐฉาน เพื่อเข้ามาสนับสนุนการรบกับกองทัพทหารกะเหรี่ยงคะยา ที่ อ.แม่แจ๊ะ ซึ่งกำลังมีการสู้รบอย่างหนัก โดยทางฝ่ายทหารคะยา ได้มีการนำกำลังไปสกัดกั้น พร้อมด้วยพันธมิตรกลุ่มทหารปาโอในพื้นที่ดังกล่าวและมีการสู้รบอย่างหนักเช่นกัน