
3 กรกฎาคม 2566 ที่ จ.สุพรรณบุรี นายนิติศักดิ์ วงษ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับ นายอุเทน กอวงษ์ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต แถลงผลการดำเนินงานด้านการปราบปรามการทุจริต ด้านการตรวจสอบทรัพย์สิน ด้านป้องกันการทุจริต และการดำเนินการเกี่ยวกับการแจ้งเบาะแส การทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี
โดยมีภาคีเครือข่ายสื่อสารมวลชน สมาชิกชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต ร่วมรับฟังการแถลงผลการดำเนินงาน ภายใต้โครงการรณรงค์ สร้างกระแสต่อต้านการทุจริต
นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า มีข้อมูล 4 ด้านที่จะแจ้ง คือ ด้านปราบปรามการทุจริต , ด้านตรวจสอบทรัพย์สิน , ด้านการป้องกันการทุจริต และด้านการดำเนินงาน ตามที่ได้รับข้อมูลข่าวสารรับแจ้งเบาะแส การเฝ้าระวังในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือราชการ ที่หน่วยงานของรัฐ ส่งเรื่องที่มีการกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตต่อหน้าที่ หรือมีหนังสือร้องเรียน ของประชนทั่วไป รวมทั้งมีการตรวจสอบ ตามที่ได้รับแจ้งเบาะแส และปรากฎพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะรับไว้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูล
ซึ่งผลการดำเนินงานช่วง 1 - 2 ปีที่ผ่านมา มีปริมาณคดีเข้าสู่การพิจารณา ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.จำนวนมาก ในส่วนของ ป.ป.ช.สุพรรณบุรี ได้สรุปสำนวนการไต่สวน เสนอไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว
ล่าสุดคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการชี้มูลการกระทำความผิด ตั้งปี 62 - 66 จำนวน 4 คดี ที่มีผลของคำพิพากษาของศาลชั้นต้น คือศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 กรณีกล่าวหา นายก อบต. ใน อ.สองพี่น้อง และ อ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อมพวก อย่างไรก็ตาม ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ระหว่างอุทธรณ์
นายนิติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่มีการร้องเรียนมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว หรือเรื่องที่ร้องเรียนใหม่ ๆ ปัจจุบันได้เร่งสะสางคดีให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะง่ายต่อการรวบรวมพยานหลักฐาน ในเรื่องผลคดีถือว่า มีผลดำเนินงานที่ดี และทำอย่างเร็ว เพื่อเสนอเรื่องให้ผู้อำนาจในการพิจารณา ซึ่งเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่ส่วนกลางกำหนดมา โดยนอกเหนือ 4 คดี นายก อบต. 4 ราย ที่มีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแล้ว
ยังมีกรณีที่ประชาชนให้ความสนใจ เป็นคดีสำคัญมีการสอบถามเข้ามา เรื่องการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง เสาไฟประติมากรรมของ อบจ.สุพรรณบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ และยังมีคดีที่อยู่ระหว่างพิจารณา ของอัยการสูงสุดอีกหลายคดี อยู่ที่ว่าท่านจะสั่งฟ้องหรือไม่ รวมทั้งคดีที่รอจัดวาระการประชุมหรือสำนวนไปที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็มีรวมแล้วประมาณ 10 คดี ที่จะมีผลคดีออกมาในเร็ว ๆ นี้
เปิดข้อมูลซื้อเสาไฟมังกร 60.9 ล. 'ผู้ชนะ-คู่เทียบ' ชุดเดียวราชาเทวะ
สำหรับโครงการจัดซื้อจัดจ้าง "เสาไฟประติมากรรมรูปมังกร" ของ อบจ.สุพรรณบุรี สำนักงานอิศรา
รายงานว่า เพจชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย ระบุว่า อบจ.สุพรรณบุรี ได้มีโครงการจัดซื้อจัดจ้าง เสาไฟประติมากรรมมังกรทอง จำนวน 580 ต้น งบประมาณ 60.9 ล้านบาท เฉลี่ยราคาต่อต้นอยู่ที่ 105,000 บาท มีชื่อโครงการเต็ม ๆ คือ โครงการติดตั้งไฟส่องสว่างตามจุดเสี่ยงบนสายทางที่อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.สุพรรณบุรี เลขที่โครงการ 64027172219
มีการกำหนดราคากลาง เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 64 งบประมาณ 60,900,000 บาท เป็นราคาที่ได้มาจากคณะกรรมการฯ สืบราคาจากผู้ประกอบการจำนวน 3 ราย (ราคาต่ำสุด) คือ บริษัทบางกอกไฟถนน จำกัด , บริษัทสุราษฎร์แสงทอง จำกัด , บริษัทล่ำซำการโยธา จำกัด มีการจัดซื้อจัดจ้าง ด้วยวิธีประกวดราคาอิเลกทรอนิกส์ (e-bidding) หรือการเคาะประมูล มีรายชื่อผู้เสนอราคาทั้งหมด 3 ราย จากที่มีการซื้อซองทั้งหมด 9 ราย
แต่ที่น่าสนใจก็คือมี บริษัททรัพย์เจริญยิ่งอินจิเนียริ่ง จำกัด เสนอราคาต่ำสุด 31,320,000 บาท แต่ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติและเทคนิค
จึงเหลือเพียง 2 บริษัท คือ บริษัทล่ำซำการโยธา จำกัด ที่เสนอราคา 60,895,000 บาท และ บริษัทบางกอกไฟถนน จำกัด เสนอราคา 60,889,000 บาท *(ต่ำกว่าราคากลางแค่ 11,000 บาท) โครงการนี้เซ็นสัญญากันเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 64 แต่มีการชะลอออกไปก่อน เนื่องจากพิษเสาไฟกินรีซึ่งกำลังมาแรง
และเมื่อโฟกัสข้อมูลของเอกชน 3 ราย คือ บริษัทบางกอกไฟถนน จำกัด , บริษัท ทรัพย์เจริญยิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง , บริษัทล่ำซำการโยธา จำกัด ที่เข้าร่วมการเสนอราคาแข่งขันงานโครงการเสาไฟฟ้าส่องสว่างครั้งนี้ จะพบว่า เป็นกลุ่มเดียวกันที่เข้ายื่นเสนอราคาแข่งขันงาน ในส่วนของ อบต.ราชาเทวะ และ อบจ.อ่างทองมา แล้วทั้งสิ้น
ขอบคุณข้อมูล สำนักข่าวอิศรา