
12 มิถุนายน 2566 ที่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกัน ที่บริเวณสถานีรถไฟปราจีนบุรี จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่เมื่อไปถึง ไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นทราบว่า กลุ่มผู้ถูกยิงต่างตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงพากันขี่ จยย. หลบหนีไปคนละทิศละทาง
กระทั่งช่วงเช้า ญาติของชายวัยรุ่นที่ถูกยิงบาดเจ็บ เดินทางมาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ปราจีนบุรี ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ เด็กชายฟีม (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ตรวจสอบตามร่างกาย พบร่องรอยกระสุนปืนไม่ทราบชนิด ฝังอยู่บริเวณขาด้านขวา จำนวน 117 รู พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จากการตรวจสอบรถ จยย. ที่ถูกยิง บริเวณตัวรถพบร่องรอยกระสุนปืน ยิงบริเวณท้ายรถด้านขวา มีรูกระสุนทะลุบอดี้ของตัวรถจำนวน 14 นัด
สอบถามเด็กชายเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บเล่าว่า ขณะที่ตนขี่รถ จยย. จาก "บ้านโป่งไผ่" ไปกับเพื่อน 3 คัน รวม 6 คน เพื่อไปเที่ยวงานเกษตรที่ จ.ปราจีนบุรี จากนั้นได้ไปรวมกลุ่ม กับกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในตัวจังหวัด และขับขี่รถ จยย. เที่ยวภายในบริเวณงาน จำนวน 10 คัน
กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. ปรากฏว่า ได้มีรถ จยย. ของผู้ที่ก่อเหตุ ขี่สวนทางมา และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตอนแรกคิดว่า เป็นเสียงของระเบิด จากนั้นกลุ่มของพวกตนจึงได้ขี่ จยย. หลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ ไปคนละทิศละทาง
กระทั่งทราบว่า เพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายถูกอาวุธปืนยิง ส่วนสาเหตุที่ถูกยิงนั้น ยังไม่ทราบว่าสาเหตุ หลังจากที่ถูกยิงจึงได้ขี่ จยย. กลับมาบ้านที่โป่งไผ่ เพื่อมานั่งแคะลูกกระสุน ออกจากบริเวณขาของเพื่อน จนเวลาประมาณ 02.00 น. เพื่อนทนอาการปวดแผลไม่ไหว จึงขอความช่วยเหลือจากกู้ภัย เพื่อนำส่ง รพ. ให้แพทย์ทำการรักษา
น.ส.อรวรรณ โอชารส อายุ 35 ปี แม่ผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ลูกชายได้ขอไปเที่ยวงานเกษตร กับพวกเพื่อน ๆ และหลาน ๆ ตนจึงอนุญาตให้ไป โดยลูกชายเล่าให้ฟังว่า ได้ขี่รถ จยย. ออกจากงานเกษตร และกำลังจะมุ่งหน้า ไปยังตลาดหน้าค่าย
เมื่อรถ จยย.วิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณโค้งทางรถไฟ หรือแถวบิ๊กซี ลูกชายและเพื่อน ๆ ได้ขี่รถกันมากกว่า 10 คัน จากนั้นได้มีรถ จยย. วิ่งสวนทางมา และเมื่อเห็นกลุ่มของลูกชาย จึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมา ยิงใส่ทันที ทำให้กลุ่มของลูกชายแตกกระเจิง หลบหนีไปคนละทิศละทาง
ลูกชายของตน จึงขี่รถไปยังบ้านเพื่อน และมาดูบาดแผลพบว่า มีกระสุนเข้าฝังในบริเวณขาหลายจุด กระทั่งทนเจ็บบาดแผลไม่ไหว จึงร้องขอเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
เบื้องต้น แพทย์ รพ.เจ้าพระยาภูเบศร ได้นำเอาผลเอกซเรย์มาให้ดู พบว่า มีลูกกระสุนฝังใน จำนวน 117 เม็ด ซึ่งแพทย์ได้ลงความเห็นว่า ยังไม่ผ่าเอากระสุนออกตอนนี้ เพราะอาจจะทำให้แผลเปิดกว้าง และเกิดอาการติดเชื้อได้ จะขอรอดูอาการ 4 - 5 วัน เพื่อประเมินผ่าตัดต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนขอฝากไปบอกถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วยว่า อยากจะให้เข้ามามอบตัว และอยากจะถามว่า ทำไมถึงยิงใส่กลุ่มลูกชายของตน ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อทำการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยจะรวบรวมพยานหลักฐาน และภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบริเวณใกล้เคียง เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นคาดว่า อาวุธปืนที่ผู้ก่อเหตุใช้ น่าจะเป็นปืนแบบลูกซองสั้น หรืออาวุธปืนแบบ อีโบ๊ะ ที่บรรจุลูกปืน แบบลูกซอง ได้ครั้งละ 1 นัด