"ช้างป่าภูหลวง" แตกโขลง กระจายหากิน 3 จังหวัด เจ้าหน้าที่เร่งผลักดันกลับป่า

3 มิถุนายน 2566 ที่ จ.เลย ความคืบหน้ากรณีที่ช้างป่า 40 - 50 ตัว ออกจาก เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เข้าหากินในเขต อ.ภูกระดึง รอยต่อกับ อ.ภูหลวง มาอาศัยที่ภูค้อ - ภูกระแต เป็นโขลงใหญ่ กินพืชผลการเกษตรของชาวบ้าน ที่ปลูกไว้เสียหายกว่า 2,000 ไร่ สร้างความเดือดร้อน และหวาดผวาให้กับชาวบ้าน ต่อมาเจ้าหน้าที่ ได้ผลักดันช้าง กลับเข้าป่าภูหลวงแล้วเป็นบางโขลง แต่ยังคงบางส่วน อยู่ในพื้นที่ป่าภูค้อภูกระแต และออกหากินในเวลากลางคืน

ล่าสุด ช้างป่าจากภูค้อภูกระแตที่แตกโขลง ที่ส่วนมากเป็นช้างหนุ่ม ที่ออกจากโขลงเพื่อมาตั้งโขลงใหม่ เพื้อหาพื้นที่เขตหากินของตนเอง ได้เริ่มเดินทางออกจาก อ.ภูกระดึง มุ่งไปทาง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู สร้างความเสียหายกินพืชไร่ที่ชาวบ้านปลูกไว้ ตามเส้นทาง

 

นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง กล่าวว่า ช้างป่าภูหลวงโขลงใหญ่ ที่อาศัยอยู่ในเขตป่าภูค้อภูกระแต เขตอำเภอภูกระดึง ประมาณ 30 ตัว เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวัง ติดตามดูโขลงช้างนี้อยู่ พบว่า มีช้างหนุ่มแตกโขลงออกมา  4 ตัว โดยได้ออกจากป่า มาอาศัยหากินใน ต.ผานกเค้า 2 ตัว และ ต.ศรีฐาน 2 ตัว ซึ่งทั้ง 2 จุดนี้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ จาก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เจ้าหน้าที่สถานีวิจัยสัตว์ป่า ได้ร่วมเฝ้าระวัง และพยายามพลักดัน ช้างที่ออกนอกเส้นทาง กลับมาเข้าเขตป่าภูหลวง

โดยช้างที่แตกโขลงออกมา ได้เดินทางออกหากิน ตามเส้นทางที่ชาวบ้านปลูกพืชไร่ ทั้งไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง รวมถึงเดินข้ามถนน บ้านซำบ่าง , บ้านผาคล้อง ต.ห้วยส้ม ซึ่งเป็นเส้นทางจากเขตพื้นที่รอยต่อ และเข้าไปลึกกว่า 30 กม. ข้ามไป ต.นากอก และ ต.สะอาด อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู และยังออกหากินไปยังพื้นที่บ้านป่าน ต.สีชมพู อ.ศรีชมพู จ.ขอนแก่น 

ขณะนี้ เจ้าหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวง และเจ้าหน้าชุดลาดตระเวน ของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต่างช่วยกันเฝ้าระวัง และติดตามช้าง ที่เดินทางอยู่

พร้อมกันนี้ หมู่บ้านที่ช้างเข้าบุกรุก เจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน แนะนำวิธีการเฝ้าระวัง ที่ไม่ใช่วิธีที่รุนแรง ไม่ให้จุดประทัดเด็ดขาด แต่ให้ใช้การผลักดัน โดยใช้การบังคับทิศทาง ขับรถ ส่องไฟ ขณะที่เห็นตัวช้าง ซึ่งจุดไหนที่พบช้าง เจ้าหน้าที่จะได้แจ้งไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อประกาศลูกบ้าน ให้ระมัดระวัง รวมถึงในการดำเนินชีวิตในช่วงกลางคืน และกลางวัน ที่จะออกไปไร่ไปนา โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามผลักดันช้าง เข้าสู่ป่าภูหลวง จ.เลย ต่อไป