จากกรณีเหตุลักพาตัวและฆาตกรรม น.ส.อ้อม (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 36 ปี เซลล์สาวขายรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง ใน จ.เชียงใหม่ ถูกนายณัฐพล ผันผดุงทรัพย์ อายุ 40 ปี หลอกนัดเจอเพื่อพุดคุยการซื้อขายที่ร้านกาแฟ ก่อนล่อลวงขึ้นรถ อ้างจะพาไปกดเงินค่ามัดจำ จากนั้นใช้มีดจี้และพาตัวไปกระทำชำเรา ก่อนลงมือปลิดชีพอย่างโหดเหี้ยม ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
1 พฤษภาคม 2566 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายอำนาจ เกศประเสริฐ สามีของน้องอ้อม พร้อมด้วยบุตรสาว, ญาติและเพื่อนร่วมงาน ได้เดินทางมารับศพภรรยา ที่หน่วยรักษาศพโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีวัดป่าบง ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ วัดป่าบง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดอภิธรรมศพน้องอ้อม มีญาติและเพื่อนร่วมงานมาร่วมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยทางกลุ่มเพื่อนที่ทำงานของน้องอ้อม ได้นำรูปภาพของน้องอ้อม ที่ถ่ายกับเพื่อน ๆ มาจัดบอร์ดประดับด้วยดอกไม้ ตั้งไว้บริเวณหน้างาน เพื่อแสดงถึงความรักและความคิดถึงน้องอ้อม
นายอำนาจ สามีน้องอ้อม ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตา ว่า ขอขอบคุณความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย ที่ช่วยแจ้งเบาะแส ช่วยกันตามหาภรรยา มาตั้งแต่วันแรกและขอขอบทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามา สำหรับพิธีกรรมทางศาสนาทางญาติผู้ใหญ่เป็นคนที่จัดการให้ ส่วนเรื่องที่ยังคงคาใจอยู่ คือจุดไหนที่อ้อมเสียชีวิต เพราะจะได้ทำพิธีกรรมทางศาสนา แต่ทางญาติและครอบครัวก็คงจะทำพิธีกรรมเชิญวิญญาณทั้ง 2 จุด ที่เป็นจุดเกิดเหตุ เพื่อความสบายใจ
สามีน้องอ้อม ยังติดใจการรับแจ้งความของตำรวจ น่าจะรับแจ้งความให้เร็วกว่านี้ เพราะจะได้เพิ่มโอกาสช่วยเหลือผู้สูญหายให้ขึ้นมาก อยากให้กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นกรณีตัวอย่างในการแจ้งความ และอยากฝากถึงอ้อมว่า จะดูแลลูกให้ดีที่สุด ตอนนี้ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะอยู่ด้วยกันแทบ 24 ชั่วโมง เห็นหน้ากันทุกวัน อยู่ด้วยกันมาตลอด มัน "มากกว่าคำว่ารัก"
คิดว่าอ้อมสู้สุดชีวิต อ้อมเคยดูข่าวที่เกี่ยวกับการขืนใจ อ้อมบอกว่าถ้าเกิดขึ้นกับตัวเอง อ้อมจะสู้ และยอมตายดีกว่า ที่จะยอมให้ถูกกระทำ
สามีผู้ตาย กล่าวอีกว่า คนร้ายควรจะได้รับโทษประหาร กฎหมายไทยควรจะดูความเหมาะสมกับนักโทษแต่ละคน แต่ตนคิดว่าโทษประหารมันยังน้อยเกินไป ในใจอยากจะให้คนร้าย ได้รับความทรมานก่อนที่จะตายด้วยซ้ำ เพราะสิ่งที่คนร้ายทำนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะทำได้