ตร.เร่งล่าคนร้ายปาดคอสาว ชิงทอง คาดเตรียมการมาดี
รองผู้การฯ สมุทรปราการ ระดมทีมสืบสวน เร่งคลี่คลายคดีคนร้ายฆ่าปาดคอสาววัย 34 ชิงทอง 6 บาท ทิ้งร่างในคอนโดฯ ย่านพระประแดง คาดเตรียมการมาอย่างดี ขณะที่ คนพักห้องตรงข้ามจุดเกิดเหตุ คิดว่าน่าจะเป็นฝีมือคนใกล้ตัวผู้ตาย
14 เมษายน 2566 ที่สถานีตำรวจภูธรพระประแดง จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.โชติวัฒิ เหลืงอร่าม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ นำทีมฝ่ายสืบสวน สภ.พระประแดง , ฝ่ายสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และกองบังคับการฝ่ายสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ประชุมเร่งรัดติดตามคดีคนร้ายฆ่าปาดคอ น.ส.วารินทร์ อายุ 34 ปี ชิงทองคำน้ำหนักรวม 6 บาท และกระเป๋าสตางค์ เหตุเกิดในคอนโดฯแห่งหนึ่ง ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ.ต.อ.โชติวัฒิ เปิดเผยว่า ทางผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นได้กำชับให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ ตอนนี้ได้สั่งการระดมกำลังทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายสืบสวนโรงพัก สืบสวนจังหวัด และฝ่ายสืบสวนภาค 1 ลงพื้นที่ทำงานโดยไม่แบ่งชุด เบื้องต้นจากเบาะแสของประชาชนตอนนี้ยังไม่ทราบว่าคนร้ายรายนี้เป็นใคร
ส่วนหลักฐานบางส่วนจากกล้องวงจรปิดเห็นผู้ต้องสงสัยมาดักรอ เนื่องจากอาจเห็นว่าผู้ตายมีทรัพย์สิน ใส่สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ และแหวน ซึ่งที่คอนโดฯนี้ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัย ไม่มีประตูนิรภัย ใครก็เข้าออกได้ คนร้ายจึงเข้ามาดักรอ และคืนเกิดเหตุผู้ตายออกไปดื่มเบียร์ กลับมาถึงห้องประมาณ 23.00 น. คนร้ายที่ดักรออยู่ฉวยโอกาสตามเข้าไปทำร้าย
โดยชายต้องสงสัยคาดว่าจะเตรียมการมาอย่างดี เป็นชายวัยกลางคนใส่แมสก์ ใช้มือปิดบังใบหน้าเมื่อเดินผ่านกล้อง ในชั้นนี้จึงเชื่อว่าชายรายนี้คือผู้ก่อเหตุ และยังเชื่ออีกว่าผู้ก่อเหตุรายนี้อาจพักอาศัยอยู่แถวที่เกิดเหตุ หรืออาจเคยเห็นผู้ตายใส่ทอง จึงตามมาก่อเหตุ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทุกนายทำคดีนี้อย่างเต็มที่
"ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังเรื่องการใส่ทองใส่เครื่องประดับ เพราะสมุทรปราการเป็นเมืองอุตสาหกรรม เป็นแหล่งรวมของคนหลายชนชั้นหลายเชื้อชาติ" พ.ต.อ.โชติวัฒิ ระบุ
ด้าน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณห้องที่เกิดเหตุ พบว่าปิดประตูเงียบสนิท มีเพียงห้องตรงข้ามออกมายืนดูและให้ข้อมูลว่า ตำรวจสภ.พระประแดง ได้นำตัวชายต้องสงสัยที่อยู่ห้องเยื้องกัน ซึ่งเป็นห้องสุดท้าย จำนวน 2 คน เป็นชาวพม่า ไปสอบปากคำเกี่ยวกับช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ แต่หนึ่งในนั้นได้รับการปล่อยตัวซึ่งเป็นเจ้าของห้อง เหลืออีก 1 ราย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกักตัวไว้ นอกจากนี้ชาวพม่าอีกรายที่อาศัยรวมกันได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามและหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่ยังไม่พบ
จากการสอบถาม นายสำราญ อายุ 52 ปี ซึ่งอยู่ห้องตรงข้ามจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองไม่ได้ยินเสียง และตื่นมาช่วงเวลาตี 4 เห็นเพียงรถตำรวจ คาดว่า ผู้หญิงรายดังกล่าวน่าจะเสียชีวิตแล้ว จากการพูดคุยทราบว่าหญิงดังกล่าวนั่งสังสรรค์กับเพื่อนที่ใต้อาคาร ไม่ได้สวมใส่สร้อยคอและสร้อยข้อมือ มีเพียงแหวนทองคำที่นิ้ว 1 วงเท่านั้น ส่วนคนร้ายนั้นตนเองคิดว่าน่าจะขึ้นมาจากด้านหลังของอาคาร และเวลาลงอาจใช้บันไดหนีไฟหน้าห้องสุดท้าย เพื่อหลบกล้องวงจรปิดไม่ให้จับภาพได้ ตนเองคิดว่าน่าจะเป็นคนใกล้ตัว เนื่องจากไม่มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ