
10 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก ร.ต.ต.วิโรจน์ บุษพลาย อายุ 55 ปี ตำรวจสังกัด สภ.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ว่า ได้ติดต่อซื้อรถบรรทุกมือ 2 จ่ายเงินครบแล้ว แต่ถูกเบี้ยวไม่ได้รถ ทำให้ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก
ร.ต.ต.วิโรจน์ เล่าว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2565 โดยตนเอง นอกจากมีอาชีพตำรวจ ยังทำธุรกิจขายรถยนต์ รถจักรยานยนต์มือสอง และจะหารับซื้อรถจากผู้ที่ประกาศขายผ่านทางเฟซบุ๊ก ต่อมาตนเองเห็นมีคนประกาสขายรถบรรทุก ราคา 2 แสนบาท จึงติดต่อไปพูดคุย และเดินทางไปดูสภาพรถจริง ที่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี
จากนั้นได้มีการต่อรองกัน จนเจ้าของยอมลดให้เหลือ 1.8 แสนบาท ตนจึงรีบโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือให้ทันที เพราะกลัวเขาจะเปลี่ยนใจ แต่แล้วสุดท้ายก็เริ่มมีปัญหา เพราะรถยังติดปัญหาเรื่องการโอนสิทธิ์ และทางเขารับปากว่า จะรีบไปทำเรื่องโอนที่ขนส่งให้ ใช้เวลาไม่กี่วัน ตนเองไว้ใจทิ้งรถไว้กับเขาที่นั่น เพื่อให้ทำเรื่องโอนให้เสร็จเรียบร้อย แล้วจะเดินทางไปเอารถอีกครั้ง
ผ่านไป 4 วัน เจ้าของรถยังไม่ติดต่อมา ตนรู้สึกใจคอไม่ดี จึงรีบโทรศัพท์ติดต่อกลับไป ปรากฏว่าทางนั้นเริ่มบ่ายเบี่ยง แล้วอ้างว่า รถยังโอนเป็นชื่อของตนไม่ได้ เพราะทางขนส่งที่นั่นระบุว่า ต้องไปทำเรื่องโอนที่กรุงเทพเพียงแห่งเดียวเท่านั้น จึงเริ่มรู้ตัวว่าอาจจะถูกโกง และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก โทรศัพท์ไม่รับ ไลน์ไม่ตอบ กระทั่ง ผ่านไปนาน 5 เดือน จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี ว่า "ถูกฉ้อโกงทรัพย์"
ร.ต.ต.วิโรจน์ กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เจ้าของรถบรรทุก 6 ล้อ ที่ถูกตนแจ้งความ ได้โทรศัพท์กลับมาหาตน และบอกว่าเขาถูกตำรวจจับในข้อหาฉ้อโกงตามที่ตนได้แจ้งความไว้ ซึ่งตนก็บอกเขาไปว่า เรื่องนี้ถ้าทางเขายอมโอนเงินคืนมาให้ตั้งแต่แรก ก็คงจะไม่ถูกความจับ ซึ่งเขาก็ไม่ตอบอะไรต่อ แล้วจึงได้วางสายไป ตนจึงโทรศัพท์กลับไปสอบถามกับตำรวจเจ้าของคดี ก็ทราบว่า เขาไม่มีเงินจ่ายคืนให้ จึงถูกจับนอนคุกไป 1 คืน วันต่อมามีทนายมาทำเรื่องขอประกันตัวออกไป โดยใช้วงเงินประกัน 20,000 บาท ต่อมาเมื่อทางตำรวจนำเรื่องส่งฟ้องต่อไปยังอัยการ กลับสั่งไม่ฟ้อง และจนถึงตอนนี้ คดีขาดฟ้องไปแล้ว
หลังจากที่เขาโดนจับติดคุก เขาได้ส่งข้อความไลน์มาหา ลักษณะข้อความที่เยาะเย้ย ว่า เรื่องกฎหมายเขาไม่ถนัด แต่ไม่ต้องห่วง จะวิ่งซิกแซกไปให้รอด แล้วก็รอดจริง ๆ ด้วย จนกลายมาเป็นผม ที่ต้องเครียดอย่างหนัก เครียดจนเส้นเลือดในสมองแตก เดินแทบไม่ได้ ต้องไปบำบัดรักษา ทำกายภาพมาจวบจนทุกวันนี้ แถมงานก็ไม่ได้ทำในตำแหน่งเดิม เพราะสภาพร่างกายไม่พร้อม จึงถูกผู้บังคับบัญชา ย้ายงานไปช่วยในตำแหน่งอื่น ของสังกัด ภ.จว.นครสวรรค์ แทน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ ได้ดำเนินการต่ออะไรอีกหรือไม่ ร.ต.ต.วิโรจน์ ระบุว่า ตนหมดหนทางแล้วจริง ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครต่อได้ แถมร่างกายก็แทบจะเดินไม่ไหว ต้องไปรักษาตัวอยู่เป็นระยะ ๆ ส่วนตนมีเงินเดือนเพียง 20,000 บาท แม้จะไม่ได้ทำงานหนักขึ้น แต่ก็ต้องใช้เงินรักษาตัว ประกอบกับธุรกิจขายรถมือสองของตน ตอนนี้ซบเซา จึงทำให้เงินเก็บเริ่มร่อยหลอ จึงอยากได้เงินที่ถูกโกงไปคืน เพื่อนำมาต่อทุนชีวิต จึงได้ติดต่อผู้สื่อข่าวหวังให้ช่วย นำเรื่องไปตีแผ่ และให้ทางคนที่โกงไป รู้สึกสำนึก เอาเงินมาคืนให้กับตนโดยเร็ว เพราะตนจำเป็นต้องใช้