svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

สามสาวแจ้งจับญาติสาว หลอกทำงานนวดที่ UAE แต่บังคับค้ากาม

22 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แล้วบอกญาติกัน! สามสาวโร่แจ้งจับญาติสาว หลอกทำงานนวดสปาหรูที่ UAE แต่สุดท้ายถูกบังคับค้ากาม จนต้องประสานสถานทูตช่วยส่งกลับไทย ลั่นขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

22 มีนาคม 2566 ที่ สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ขณะที่ พ.ต.ท.นัทธกานต์ วรรณพันธ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มี น.ส.แพตตี้ นามสมมุติ (เสื้อสีชมพู) อายุ 21 ปี , น.ส.มายด์ นามสมมุติ (เสื้อสีน้ำตาล) อายุ 24 ปี ทั้งสองเป็นชาว จ.สกลนคร และ น.ส.กี้ นามสมมุติ (เสื้อเขียว) อายุ 22 ปี เป็นชาว จ.อุดรธานี

เข้ามาแจ้งความว่า ถูกเพื่อนและเครือญาติ ชื่อ น.ส.ออย อายุ 28 ปี และ น.ส.หมิว อายุ 24 ปี ชาวอุดรธานี ชักชวนไปทำงานร้านนวดสปาแห่งหนึ่ง ที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 

แต่เมื่อเดินทางไปถึง ทำงานไม่ได้เงินเดือน เพราะถูกหักค่าดำเนินการ หากต้องการเงินใช้จ่าย ต้องค้าประเวณีกับลูกค้า ที่มาใช้บริการหลายรูปแบบ หลายราคา ก่อนตัดสินใจหนี ออกมาขอความช่วยเหลือ จากสถานทูตไทย จนถูกส่งตัวกลับประเทศไทย จึงปรึกษาญาติ แนะนำมาแจ้งความดำเนินคดี และปรึกษาขอความช่วยเหลือจาก นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ “เฮียเปี๊ยก” จาก เพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย
สามสาวแจ้งจับญาติสาว หลอกทำงานนวดที่ UAE แต่บังคับค้ากาม
 
สามสาวแจ้งจับญาติสาว หลอกทำงานนวดที่ UAE แต่บังคับค้ากาม

น.ส.แพตตี้ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานอยู่คลินิกเสริมความงาม ที่ห้างมีชื่อแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร ตนและเพื่อนปรึกษากันว่า อยากหางานทำที่ต่างประเทศ เพื่อต้องการเงินเดือนที่มากขึ้น และอยากเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัว ตอนแรกคุยกันว่า จะไปทำงานโรงงานที่ประเทศเกาหลีใต้

แต่ก็มีญาติทางพ่อของตนชื่อ น.ส.ออย และ น.ส.หมิว ทั้ง 2 เป็นพี่น้องกัน และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับตน มาชักชวนให้ไปทำงานร้านสปาหรู มีชื่อแห่งหนึ่งในเมืองอะบูดาบี เดินทางไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะมีมาดามเจ้าของร้านออกให้ก่อน 
สามสาวแจ้งจับญาติสาว หลอกทำงานนวดที่ UAE แต่บังคับค้ากาม

แต่จะต้องถูกหักเงินภายหลัง เรียกว่าค่าแท็ก จะได้เงินเดือนอย่างต่ำ 7 หมื่นบาท เขาอ้างว่า ถ้าขยันจะได้ประมาณ 2 - 3 แสนบาท เหมือนกับพวกเขา ตนและ น.ส.มายด์ เดินทางไปพร้อมกัน เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ส่วน น.ส.กี้ เดินทางไปวันที่ 17 มี.ค. พอไปถึงร้านนวดสปา พวกตนก็ทำงานตามคอร์ส ที่ร้านจัดไว้ให้ลูกค้าราคาตั้งแต่ 200 - 500 เดอร์แฮม (1 เดอร์แฮม ประมาณ 9.37 บาท)

แต่มาดามแจ้งว่า จะต้องนำรายได้เข้าร้านทั้งหมด เพื่อหักเป็นค่าแท็ก หากอยากจะได้เงินไว้ใช้จ่าย หรือมีเงินเก็บก็ให้ถามหรือชักชวนลูกค้า ใช้บริการพิเศษ ซึ่งหมายถึงการใช้มือ ใช้ปากสำเร็จความใคร่ หรือให้พนักงานนวดถอดเสื้อผ้าเล้าโลม แต่ไม่ให้มีการสอดใส่  ซึ่งบริการพิเศษนี้ จะจ่ายต่างหากตั้งแต่ 100 - 300 เดอร์แฮม หากพวกตนไม่ทำ ก็จะถูกปรับเงิน 300 เดอร์แฮม และต่อเดือนต้องได้ลูกค้าพิเศษอย่างน้อย 10 ราย ถ้าไม่ถึงก็จะถูกปรับอีก 500 เดอร์แฮม” 
สามสาวแจ้งจับญาติสาว หลอกทำงานนวดที่ UAE แต่บังคับค้ากาม
 

น.ส.แพตตี้ เปิดเผยต่อว่า พวกตนทำงานได้ประมาณ 2 สัปดาห์ จึงปรึกษากันว่าจะหาทางกลับบ้าน เพราะฝืนทำงานแบบนี้ต่อไปไม่ไหว เพราะไม่ใช่งานที่พวกตนคิดไว้ จึงได้พากันแอบเข้าไปปรึกษาที่สถานทูตไทย เพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อทุกเจ้าหน้าที่ตอบรับ และรับปากจะช่วยเหลือ พวกตนจึงแอบเก็บของ และหนีกลับมาได้ในที่สุด และตนก็รีบโทรไปบอกแม่

ตอนที่ทำงานในร้าน เขาก็ไม่ได้ใช้กำลังบังคับขู่เข็ญ หรือกักขัง แต่จะใช้วิธีขู่หักเงินแทน พอมาถึงอุดรธานี แม่จึงพาพวกตนเข้ามาแจ้งความทันที เนื่องจากการชักชวนเกิดขึ้นที่อุดรธานี และญาติทั้ง 2 คน ที่ชักชวนไปทำงานก็เป็นคนอุดรธานี

พวกตนยืนยันว่า จะแจ้งความดำเนินคดี กับญาติทั้งสองคนจนถึงที่สุด และตอนนี้ญาติทั้งสองคน ยังมีการส่งข้อความมาข่มขู่เรียกเก็บเงินค่าแท็ก อ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่มาดามออกให้ก่อน คนละ 6.5 หมื่นบาท เฉพาะของตน 6.9 หมื่นบาท และมาดามคนนี้เป็นคนจีนไม่ใช่คนไทย เขาข่มขู่จะตามเอาเรื่อง จะไม่ให้มีงานทำที่ไหนอีก 

ส่วน น.ส.กี้ เปิดเผยว่า พอเดินทางไปถึงที่ร้านนวดสปา น.ส.หมิวส่งสคิปงานมาให้ตน ซึ่งได้อ่านแล้วทำไมไม่เหมือนที่บอกตั้งแต่แรก แต่ตนก็นิ่งไว้ก่อน และโทรไปปรึกษากับญาติที่กรุงเทพฯ ซึ่งญาติได้โทรไปปรึกษาสถานทูต ครั้งแรกญาติบอกให้ตนหนีไปคนเดียว แต่ตนบอกว่า มาด้วยกันต้องกลับด้วยกัน แต่ก็กลัวว่าแพตตี้กับมายด์ไปบอก น.ส.หมิว เพราะเป็นญาติกัน จึงถามลองเชิงก็รู้ว่า ทั้งสองต้องการหลบหนีเช่นเดียวกัน

ตนรอจนรุ่งเช้า และมีตั๋วเครื่องบินให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นก็ตนวางแผนลางานว่า ตาแดง ให้ น.ส.แพตตี้ ไปทำการกะเช้า เพื่อไม่ให้ร้านนวดสงสัย ส่วน น.ส.มายด์ ตนบอกที่ร้านว่า ไปกับแขกที่ดูไบ เพื่อให้เจ้าของร้านตายใจ พอถึงเวลา 11.00 น.ตนกับมายด์ ก็นั่งแท็กซี่ออกไปรับแพตตี้ที่ร้าน แล้วไปสถานทูต และเจ้าหน้าที่สถานทูต ได้ส่งไปสนามบิน เจ้าหน้าที่รอจนตนเข้าไปในเกทจึงกลับ 

น.ส.ดี นามสมมุติ อายุ 44 ปี เป็นแม่ น.ส.แพตตี้ เปิดเผยว่า ตนเป็นชาว อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร แยกทางกับพ่อของ น.ส.แพตตี้ ชาว อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ลูกสาวอยู่กับพ่อ ส่วนตนแยกออกมามีครอบครัวใหม่ และเพิ่งย้ายมาอยู่ จ.อุดรธานี กับสามีชาวต่างชาติได้ไม่นาน เมื่อวานนี้ (21 มี.ค.) ลูกสาวโทรมาหา บอกว่าตอนนี้อยู่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กำลังหาทางกลับบ้าน พอถึงแล้วจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

ตอนนั้นตนก็ตกใจว่า เกิดอะไรขึ้น รู้แค่ว่าลูกทำงานอยู่ห้างแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร ทำไมถึงไปอยู่ที่นั่นได้ พอมาทราบเรื่องทั้งหมด ก็ยิ่งเกิดความเสียใจว่า ญาติกันแท้ ๆ ทำไมถึงหลอกลวงกันได้ อยากให้ดำเนินคดีทั้งสองคน จะได้ไม่ไปหลอกลวงใครอีก ตอนนี้ห่วงความปลอดภัยของลูก เพราะคิดว่าเจ้าของร้านเป็นพวกมีอิทธิพล เขาถึงกล้ามาข่มขู่กันแบบนี้ จึงวอนตำรวจช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด 
น.ส.ดี นามสมมุติ อายุ 44 ปี เป็นแม่ น.ส.แพตตี้

ขณะที่ พ.ต.ท.นัทธกานต์ วรรณพันธ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งความไว้แล้ว ซึ่งผู้กระทำความผิดอยู่นอกราชอาณาจักร จึงต้องประสานอัยการ เพื่อร่วมสอบสวนอย่างละเอียด ซึ่งในการประสานหน่วยงานดำเนินการร่วม เพื่อดำเนินการต่อไป
สามสาวแจ้งจับญาติสาว หลอกทำงานนวดที่ UAE แต่บังคับค้ากาม

logoline