24 กุมภาพันธ์ 2566 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. สั่งการเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ปริญญา รักษาแก้ว สว.กก.5 บก.ปคม.ร่วมกันจับกุม นางสาวขนิษฐา (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี สัญชาติไทย ซึ่งเป็นแม่เล้าค้ากามเด็ก ได้บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ถ.บ้านชะอำ 1/5 ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
การจับกุมดังกล่าวตามหมายจับศาลอาญา ที่ 513/2566 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิด ดังนี้
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้ขออนุมัติจากผู้บังคับบัญชา ทำการปฏิบัติการล่อซื้อการค้าประเวณีเด็ก ในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พร้อมช่วยเหลือเหยื่อ/ผู้เสียหาย จำนวน 1 ราย น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี
จากการสอบถาม น.ส.เอ ให้การว่าตนได้มาขายบริการทางเพศกับ น.ส.สุภาพรฯ (แม่เล้า) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในขบวนการและได้จับกุมก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565
จากนั้นสอบปากคำ น.ส.สุภาพร แม่เล้า จนได้ข้อมูลว่า ตนเป็นผู้ติดต่อหาลูกค้าให้เด็กร่วมกับ น.ส.ขนิษฐา ผู้ต้องหา ซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่เล้าอีกคนหนึ่ง และใช้บัญชีธนาคารของ น.ส.ขนิษฐา ในการรับโอนเงินค่าขายบริการทางเพศเด็กและค่าหัวคิวจากการขายบริการทางเพศเด็ก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. จึงได้ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงิน บัญชีธนาคารของ น.ส.เอฯ, น.ส.สุภาพรฯ และน.ส.ขนิษฐาฯ จึงพบว่า มีเส้นทางการเงินที่เกี่ยวกับการค้าประเวณีเด็กที่เชื่อมโยงถึงกัน สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและคำให้การของ น.ส.เอ และน.ส.สุภาพร
โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า นางสาวขนิษฐา ได้ติดต่อ ขายบริการทางเพศ น.ส.เอ ให้กับ นายท่องหล่อ ในราคา 1,600 บาท และให้ส่วนแบ่งค่าบริการทางเพศ น.ส.เอฯ จำนวน 800 บาท ด้วยการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ส่วนเงินจำนวนที่เหลือ 800 บาท ได้แบ่งเป็นค่าหัวคิวระหว่าง น.ส.สุภาพร และน.ส.ขนิษฐา
ต่อมา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับ น.ส.ขนิษฐา ที่ 513/2566 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ในข้อหา สมคบค้ามนุษย์ฯ ตามข้อหาดังกล่าวข้างต้น
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้ประสานองค์กร Operation Underground Railroad (O.U.R.) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรจากสหรัฐอเมริกา ที่มีภารกิจในการต่อต้านการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก และได้รับการสนับสนุน สุนัขดมกลิ่นเพื่อตรวจค้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชื่อ Hidu (ฮิดู) ซึ่งเป็นสุนัขตรวจจับอุปกรณ์เก็บข้อมูลอิเล็คทรอนิกส์ (ESD K9) สายพันธ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ฮิดูได้รับการฝึกฝนเพื่อดมหากลิ่นสารกันความร้อนที่มีอยู่ในอุปกรณ์เหล่านี้ ที่ Jordan Dectection K9 Center ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ก่อนมาประจำการที่ประเทศไทย
ในการเข้าทำการตรวจค้นครั้งนี้ เนื่องจากอาจมีการซุกซ่อน อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ ที่สามารถใช้เป็นพยานหลักฐาน เช่น โทรศัพท์มือถือ, External harddisk, Flash drive ซึ่ง Hidu ผลการตรวจค้น พบโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และแฟลชไดร์ฟ จึงได้ยึดไว้เพื่อตรวจสอบ และควบคุมตัวนำส่ง กก.5 บก.ปคม.
ทั้งนี้ สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นางสาวขนิษฐา รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา