ม็อบเรือประมง ยอมเปิดช่องสปีดโบ๊ท ขนถ่าย นทท. ลั่น! จอดรอคำตอบ 4 มี.ค. นี้

ความคืบหน้าจากกรณี ม็อบชาวประมงนำเรือประมงพื้นบ้านและพาณิชย์ ประมาณ 80 ลำ จอดปิดพื้นที่ บริเวณปากอ่าวคลองปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหากฎหมายทำประมงทับซ้อน หลังต้องหยุดเรือนับเดือน โดยเมื่อวานนี้ (1 มีนาคม) มีการปิดคลองกั้นขวางการเดินเรือทุกชนิด ส่งผลให้นักท่องเที่ยวตกค้างเกาะหลีเป๊ะ ขึ้นฝั่งไม่ได้ กระทบการท่องเที่ยวเสียหายกว่า 10 ล้านบาท นั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• วันเดียวท่องเที่ยวพัง 10 ล. ม็อบเรือปิดอ่าว ห้ามเรือเข้าท่าเรือปากบารา
• วุ่นทั้งเกาะหลีเป๊ะ นทท.ตกค้าง เหตุเรือประมงจอดประท้วง ปิดท่าเรือปากบารา

2 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เข้าสู่วันที่ 2 ของม็อบเรือประมง ยังคงนำเรือปิดปากอ่าวปากบารา เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องขอความชัดเจนเรื่องกำหนดที่ทำกินให้กับพวกตน สำหรับวันนี้มีการเปิดช่องเพื่อให้เรือสปีดโบ๊ทนักท่องเที่ยว และเรืออวนดำขนาดใหญ่สามารถแล่นผ่านได้ ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (1 มีนาคม)

นายวิรัช ชุมคง ชาวประมงที่นำเรือมาประท้วง เปิดเผยว่า ต้องการเรียกร้องให้มีการเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องของพวกตนให้เร็วที่สุด โดยจะนำเรือมาจอดแบบนี้เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ไปจนถึงวันที่ 4 มีนาคม เพื่อให้เวลาในการรอฟังคำตอบว่าจะให้พวกตนต้องไปหากินกันแถวไหน โดยขอให้มีการกำหนดพื้นที่ให้ชัดเจนเพราะตนและลูกน้องต่างก็เดือดร้อนมาก หากปล่อยทิ้งไว้นานลูกน้องหลายคนเริ่มไม่มีหนทาง ก็เปลี่ยนงานไป ยิ่งทำงานกันยากลำบาก

ความเดือดร้อนของชาวประมงขนาดกลางนี้ ได้มีความพยายามในการขอความชัดเจนเรื่องที่ทำกันมาโดยตลอด ตั้งแต่การติดต่อผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด รวมทั้งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยยื่นหนังสือขอให้แก้ปัญหาที่ทำกินให้กับพวกตน ซึ่งความล่าช้าบวกกับการไม่สามารถนำเรือออกไปทำกินได้อย่างที่เคยทำ เนื่องจากติดปัญหาการทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีทั้งอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา

ด้าน นายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอละงู พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่พูดคุยเจรจา พร้อมรับฟังปัญหากับกลุ่มประมงดังกล่าว โดยรับทราบและเห็นใจกับปัญหาที่กลุ่มประมงได้รับ พร้อมขอให้มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยไม่กระทบกับผู้ใช้เส้นทางน้ำ โดยเฉพาะเรือขนถ่ายนักท่องเที่ยวให้สามารถวิ่งไปมาได้ และเรืออวนดำขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวในการขนถ่ายสัตว์น้ำ ซึ่งผู้ประท้วงยินยอมเปิดช่องให้เรือได้แล่นผ่าน และเน้นย้ำให้ทางอำเภอแก้ปัญหาโดยใช้หลักรัฐศาสตร์ มากกว่านิติศาสตร์ เพราะเป็นปัญหาปากท้องของชาวบ้าน

แม้กลุ่มประมงขนาดกลางที่ประท้วง จะเปิดช่องให้เรือโดยสารและเรือประมง สามารถแล่นผ่านไปมาได้แล้วนั้น แต่เรือโดยสารที่ขนถ่ายนักท่องเที่ยวหลายลำ ยังไม่มั่นใจที่จะให้นักท่องเที่ยวนั่งเรือแล่นผ่านกลุ่มเรือที่ประท้วง เพราะเกรงความไม่ปลอดภัย โดยวันนี้หลายบริษัท เตรียมหาท่าเรือให้นักท่องเที่ยวลงแม้จะไม่สะดวกก็ตาม